เพราะโลกธุรกิจไม่ได้เคลื่อนตัวเป็นเส้นตรง เศรษฐกิจโลกยังเต็มไปด้วยความเปราะบาง ภัยธรรมชาติทวีความรุนแรง ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนมุมมองต่อการใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิง จากการครอบครองสินทรัพย์ขนาดใหญ่ ไปสู่การมองหาประสบการณ์ที่มีคุณค่าในแต่ละวัน
คำถามสำคัญจึงไม่ใช่แค่ว่า “ที่อยู่อาศัยยังเป็นปัจจัยสี่หรือไม่” แต่คือ แบรนด์อสังหาฯ จะทำอย่างไรให้ “บ้าน” ยังมีความหมายต่อชีวิตของผู้คนในโลกที่ไม่เหมือนเดิม
ท่ามกลางความผันผวนเหล่านี้ “แสนสิริ” แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความเป็นผู้นำไม่ได้เกิดจากการยึดติดกับความสำเร็จในอดีต แต่เกิดจากการเรียนรู้ ปรับตัว และตัดสินใจอย่างแม่นยำ
ตลอดเวลากว่า 40 ปี แสนสิริก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และความไม่แน่นอนในหลายยุคสมัย พร้อมยกระดับมาตรฐานใหม่ให้วงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง นี่คือแบรนด์ที่เติบโตมาพร้อมความเชื่อว่า “การไม่หยุดปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คือหัวใจของการเติบโตอย่างยั่งยืน”

เสถียรภาพทางธุรกิจ ที่พิสูจน์ด้วยตัวเลขจริง
ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่หลายธุรกิจต้องตั้งรับ แสนสิริยังคงรักษาเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างโดดเด่น กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 3,029 ล้านบาท ครองอันดับหนึ่งในกลุ่มผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของไทย ขณะที่ยอดขาย 11 เดือนทำได้ถึง 47,700 ล้านบาท
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนมากกว่าความสามารถในการขาย แต่คือผลลัพธ์ของโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแรง และการบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ

ไม่ยึดติดธุรกิจเดียว แต่กระจายโอกาสอย่างมีกลยุทธ์
ศรีอำไพ รัตนมยูร ประธานผู้บริหารสายงานการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า ความสำเร็จของแสนสิริไม่ได้มาจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการกระจายพอร์ตธุรกิจเพื่อสร้างความสมดุลระยะยาว

แสนสิริกระจายความเสี่ยงและการมองหาโอกาสใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การขยายบทบาทไปสู่ธุรกิจโรงแรม การถือหุ้นหลักใน “พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโครงการระดับแนวหน้าของประเทศ รวมถึงการรุกตลาดรับสร้างบ้านภายใต้ชื่อ “ต้นแบบ Crafted by Sansiri” เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง และมองหาคุณภาพมาตรฐานแสนสิริ
ดึง Real Demand ด้วย One Stop Service ที่สร้างความต่างจริง
การเข้าสู่ตลาดรับสร้างบ้านไม่ใช่เพียงการเพิ่มรายได้อีกช่องทาง แต่คือการอ่าน Real Demand จากความต้องการที่มีอยู่จริงในตลาด พร้อมต่อยอดด้วย One Stop Service Solution ที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การจัดส่ง ไปจนถึงการก่อสร้าง
ทุกขั้นตอนดำเนินงานภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เสริมด้วยโรงงานพรีคาสท์ที่มีกำลังการผลิตรองรับการส่งมอบได้ทั่วประเทศ นี่คือความได้เปรียบเชิงโครงสร้างที่ช่วยให้แสนสิริขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ


DNA องค์กรที่เชื่อมกลยุทธ์ธุรกิจเข้ากับคุณภาพชีวิต
ความคล่องตัวขององค์กรขนาดใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีรากฐานมาจาก “DNA ของคนแสนสิริ” ที่ถูกปลูกฝังอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Speed to Market ความรวดเร็วในการตอบโจทย์ตลาด Attention to Detail ความใส่ใจในรายละเอียด Ownership ความรู้สึกเป็นเจ้าของงาน และ Good Citizen การตระหนักถึงบทบาทขององค์กรต่อสังคม
DNA เหล่านี้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับการดูแล 4 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ ลูกค้า พนักงาน คู่ค้า และสังคม และถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคุณภาพของที่อยู่อาศัย เมื่อรากฐานทางธุรกิจแข็งแรง แสนสิริจึงสามารถทุ่มเทให้กับการพัฒนาบ้านและโครงการที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ผ่านการทำงานของทีมวิศวกร สถาปนิก นักออกแบบ และนักการตลาด ที่ยึดการวิจัยเชิงลึกด้านไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป็นแกนหลัก


Brand Love ที่ขยายจากลูกบ้านสู่สังคม
ความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแสนสิริ ไม่ได้เกิดจากดีไซน์หรือผลประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก “การลงมือทำ” ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด ทั้งในสถานการณ์น้ำท่วม โควิด และแผ่นดินไหว ทีมงานแสนสิริเข้าไปดูแลลูกบ้านทันทีโดยไม่ต้องรอคำร้องขอ จนเกิดเป็น Brand Love ที่ส่งต่อกันจากประสบการณ์จริง
บทบาทนี้ขยายออกไปสู่สังคมในวงกว้าง ผ่านการส่งมอบบังเกอร์พรีคาสท์ให้ชุมชนชายแดนไทย โครงการ Zero Dropout เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา และการระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทุกการลงมือทำสะท้อนความตั้งใจในการลดความเหลื่อมล้ำและเติบโตไปพร้อมกับสังคม
“Every day… Life is good ทุกวัน ชีวิตดี”
จากแบรนด์แคมเปญสู่ทิศทางระยะยาว
ทั้งหมดนี้ถูกร้อยเรียงผ่านแบรนด์แคมเปญ “Every day… Life is good ทุกวัน ชีวิตดี” ที่ถ่ายทอดปรัชญาการสร้างบ้านผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่ ไทม์เลสดีไซน์ คุณภาพและบริการอย่างต่อเนื่อง คอมมูนิตี้การอยู่อาศัยที่ดี และความยั่งยืน แคมเปญมาพร้อม 12 Brand Films โทนขาวดำแบบ Cinematic ที่ตอกย้ำว่า ชีวิตที่ดีเริ่มต้นจากที่บ้าน
การขับเคลื่อนธุรกิจยังเดินควบคู่กับเป้าหมาย Net-Zero ภายในปี 2050 และได้รับการยืนยันผ่านการจัดอันดับ 2025 Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ในฐานะอันดับหนึ่งกลุ่มอสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัยของไทย พร้อมรางวัลในและต่างประเทศกว่า 50 รางวัล
“บ้าน” ยังเป็นรากฐานสำคัญ ในโลกที่ไม่หยุดเปลี่ยน
แม้ตลาดอสังหาฯ จะยังเผชิญความท้าทายจากดอกเบี้ยและกำลังซื้อ แต่แสนสิริพิสูจน์แล้วว่า การปรับตัวอย่างต่อเนื่องบนรากฐานที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ระยะยาว คือกุญแจสำคัญของความยั่งยืน
และนี่คือเหตุผลที่แสนสิริยังคงเป็นผู้นำอสังหาฯ ที่ครองใจผู้บริโภค พร้อมส่งมอบ “ทุกวัน ชีวิตดี” ให้เกิดขึ้นจริง




