ตลาดบัตรเครดิต 2561 เกมที่ทุกแบงก์มุ่งสู่โมบายแอพพลิเคชั่น กรณีศึกษา U CHOOSE

วิธีการใช้บัตรเครดิตที่เราคุ้นเคยมากที่สุดก็คือการ “รูดปรื๊ด”

จนเมื่อธนาคารเริ่มเปลี่ยนเกม กระตุ้นให้เกิดการใช้  E-Money หรือเงินอิเล็กทรอนิกส์ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ผ่าน Digital Banking, E-Payment และ QR Code Payment ทั้งหมดก็เพื่อลดต้นทุนในการทำธุรกิจของตัวเอง

บัตรเครดิตเองก็ถูกวางอยู่ในแนวคิดนี้ด้วยเช่นกัน 

ถึงแม้จริงๆ แล้วบัตรเครดิตก็คือเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง แต่การช้อปผ่านบัตรเครดิตนั้นก็ดีกว่าช่องทาง E-money อื่นๆ  

เพราะหากเราช้อปปิ้งผ่าน Digital Banking, E-Payment จะไม่ได้สิทธิพิเศษอะไรเลยจากธนาคาร แต่สำหรับบัตรเครดิต “จัดเต็ม” ทั้งส่วนลดซื้อสินค้า, Pont, รวมไปถึงการขอวงเงินช้อปก่อนค่อยมาจ่ายทีหลัง

แถมยังพกพาง่ายแค่บัตรใบเดียวก็ซื้อสินค้าได้หลายที่ทั้งในและต่างประเทศ

แล้วทำไมจู่ๆ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาถึงต้องนำบัตรเครดิตไปใส่ลงใน Application ของตัวเองที่ชื่อ U CHOOSE แถมยังเลือกที่จะผลักดันให้ลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตตัวเองย้ายเข้ามาใช้งานผ่านช่องทางนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เรื่องนี้ย่อมมี 2 มุม ทั้งในมุมของลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตและมุมของธนาคาร

มุมของลูกค้า: อันดับแรกนั้นคือความสะดวกสบาย ไม่ว่าการจะใช้ Point ในบัตรแลกสินค้าได้ทันทีผ่าน Application หรือเมื่อนำ Point ไปแลก E-Coupon ก็สามารถนำไปใช้ง่ายๆ แค่โชว์หน้าจอ Smartphone ที่มีรูป E-Coupon ก็จะได้ส่วนลดร้านค้านั้นๆ รวมไปถึงการเช็กยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้แบบทันทีผ่าน Application นี้

รวมไปถึงฟังก์ชันการมีโปรแกรม chatbot ที่ค่อยช่วยเหลือเบื้องต้นในการใช้บัตรเครดิต ที่น่าสนใจคือ เวลานี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเตรียมที่จะมีฟีเจอร์การขอสารพัดสินเชื่อต่างๆ ผ่านบัตรเครดิต รวมไปถึงการมี Marketplace ให้ช้อปปิ้งผ่าน U CHOOSE ในอนาคต

ส่วนในมุมของธนาคารนั้น ก็คือการลดต้นทุนในการทำธุรกิจบัตรเครดิต

“ปัจจุบันมีลูกค้าใช้ U CHOOSE 2.5 ล้านคน ซึ่งเราไม่ต้องส่งจดหมายหรือ SMS แจ้งเตือนบอกถึงโปรโมชั่นและข่าวสารเพราะทุกอย่างจะส่งตรงผ่าน Application ในทันที รวมไปถึงลดค่า Operation อื่นๆ รวมๆ แล้วต้นทุนทำธุรกิจเราลดลงไปมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี” ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ บอกถึงการลดต้นทุนในการทำธุรกิจบัตรเครดิต 

ที่น่าสนใจกว่านั้นธนาคารจะรู้ข้อมูลทุกพฤติกรรมของลูกค้าจากการใช้จ่ายผ่าน Application ทั้งชอบซื้อสินค้าอะไร ชอบใช้ E-Coupon ประเภทไหน ชอบสะสมแต้มแลกสินค้าประเภทใด หรือแม้แต่ใช้ Smartphone ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ธนาคารเจ้าของบัตรก็รู้

ถึงในยุคบัตรเครดิตพลาสติกธนาคารจะสามารถดูข้อมูลเหล่านี้ได้ แต่ก็ไม่ได้เชิงลึกและสะดวกง่ายดายเหมือนดูผ่าน Application

จากนั้นเมื่อได้ข้อมูลลูกค้ามาอยู่ในมือว่าชอบซื้อสินค้าประเภทไหน วิธีการซื้ออย่างไร ชอบซื้อช่วงเวลาไหน จึงค่อยมาทำการตลาดในรูปแบบ Segmentation โดยทำโปรโมชั่นและข้อเสนอต่างๆ ที่เหมาะสมส่งตรงไปยังลูกค้าแต่ละคน

ซึ่งก็ไม่ต่างจากในยุคบัตรเครดิตพลาสติกที่แต่ละธนาคารก็จะใช้ข้อมูลลูกค้าแล้วค่อยมาทำตลาดเฉพาะบุคคล

เพียงแต่ในยุคนี้แค่ย้ายฐานข้อมูลลูกค้า โปรโมชั่น ข้อมูลข่าวสาร และอื่นๆ จากที่เคยอยู่ในบัตรพลาสติกก็มาอยู่ใน Application บนจอ Smartphone นั่นเอง

คำถามต่อมา แล้วในอนาคตบัตรเครดิตของกรุงศรีทั้งหมดที่มีอยู่ 3.8 ล้านใบนั้นจะถูกย้ายเข้ามาอยู่ใน Application U CHOOSEทั้งหมดหรือไม่

“ยังมีลูกค้าที่ไปต่างประเทศก็ยังต้องใช้บัตรเครดิตอยู่ และในเมืองไทยเองหลายร้านค้าก็ยังไม่มี QR Code ที่ให้ Application U CHOOSEสแกนแล้วจ่ายเงิน ซึ่งบัตรเครดิตแบบพลาสติกเองก็ยังคงต้องมีอยู่ในอนาคต”

ขณะที่ในภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตของธนนาคารกรุงศรีนั้นคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2018 ยอดใช้จ่ายผ่านทั้ง U CHOOSEและบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท มีหนี้เสียอยู่ที่ 1.1%  

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer