เมื่อจะซื้อรถคันใหม่ เจาะลึกทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยเมื่อคิดจะซื้อรถใหม่ !!!


ปีนี้เป็นปีดีของวงการรถยนต์บ้านเรา จากยอดจำหน่ายที่คาดการณ์จะก้าวสู่หลักล้านคัน จากปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายอยู่ที่ 8.7 แสนคัน  

การเติบโตนี้เป็นนิมิตหมายอันดีกับวงการรถยนต์ แต่นิมิตหมายย่อมมาพร้อมการแข่งขันที่รุนแรงเสมอ แต่แบรนด์รถสามารถเปลี่ยนการแข่งขันที่รุนแรงเป็นโอกาสได้ถ้ารู้จักลูกค้าดีพอ

ในวันนี้เสียงของลูกค้าได้บอกอะไรบางอย่างกับแบรนด์รถยนต์

จากผลวิจัยของ Google Thailand ในหัวข้อ Gearshift 2018: Purchase Journey of Thai New Car Buyer, 2018 ซึ่งเป็นวิจัยที่ Google ทำต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปี ได้สร้างความน่าสนใจกับเราไม่น้อย ในแง่มุมของทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยเมื่อคิดจะซื้อรถใหม่

และ Marketeer ขอเล่าสู่กันฟังในพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อเป็นแนวทางให้กับนักการตลาดที่อยู่ในวงการแบรนด์รถยนต์ในการปรับเกมการตลาดให้รู้เท่าทันผู้บริโภค 4.0

อยากรู้ เริ่มเลยแล้วกัน

ผู้บริโภคมีแบรนด์อยู่ในใจตั้งต้น 4.7 แบรนด์ ถ้าซื้อรถใหม่ไม่อยากใช้แบรนด์เดิม

ในปีนี้ถือเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงของทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่เราได้กล่าวมาข้างต้น และการเปลี่ยนแปลงด้วยจำนวนของแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคที่คิดจะซื้อรถใหม่ ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนจากปีที่ผ่านมามาก 

จากปีที่ผ่านมามีแบรนด์ตั้งต้นอยู่ในใจเพียง 2.9 แบรนด์เท่านั้น

ในวันนี้เมื่อผู้บริโภคคิดจะซื้อรถใหม่ มีแบรนด์เริ่มต้นอยู่ในใจมากถึง 4.7 แบรนด์ ก่อนที่จะเริ่มต้นหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรถที่สนใจ และค่อยๆ ตัดแบรนด์ออกไปทีละแบรนด์ และเข้าไปตัดสินใจซื้อเป็นครั้งสุดท้ายที่โชว์รูมรถยนต์

สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคพิจารณาแบรนด์เพิ่มขึ้นจากเดิม โดย 56% ผู้บริโภคที่มีประสบการณ์ในการซื้อรถมาก่อนหน้านั้นจะมีความคิดที่จะอยากลองแบรนด์ใหม่ๆ ที่ต่างจากแบรนด์เดิมที่ใช้งานอยู่

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนี้เกิดจากแบรนด์รถยนต์ค่ายต่างๆ นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ สร้างความตื่นเต้นและตื่นตัวให้กับผู้บริโภคได้เปิดใจเปิดรับแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกมากขึ้น

ซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้ส่วนแบ่งตลาดแบรนด์รถยนต์จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่เพียงแบรนด์หลัก ได้กระจายส่วนแบ่งตลาดไปยังแบรนด์รองๆ จนส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์หลักเริ่มลดน้อยลง และแบรนด์รองเริ่มไต่ส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาไล่ตามแบรนด์หลักมากขึ้น

การที่ผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปเช่นนั้น แบรนด์รถยนต์ที่จะเข้าไปเป็นตัวเลือกของผู้บริโภคเหล่านี้ได้จะต้องสื่อสารการตลาดอย่างต่อเนื่อง Right Moment ที่ถูกต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคซึมซับแบรนด์เข้าไปอยู่ในหัวใจโดยไม่รู้ตัว และไม่ลืมที่จะทำ CRM กับลูกค้าเก่า เพื่อให้พวกเขามีแบรนด์เราอยู่ในใจอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เพราะ 90% ของผู้บริโภคจะเลือกซื้อรถจากแบรนด์ที่อยู่ในใจเป็นหลัก

 

44% ตัดสินใจซื้อทันที จากการ Test Drive หนึ่งครั้ง

ก่อนนั้นการตัดสินใจซื้อรถของผู้บริโภคอาจจะต้องไปโชว์รูมหลายๆ รอบ เพื่อมั่นใจในการตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาด 

แต่ผู้บริโภคยุคใหม่กลับไม่เป็นเช่นนั้น จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคเดินทางไปโชว์รูมเฉลี่ย 2.6 ครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ  

และมากถึง 44% ตัดสินใจจองรถทันทีหลังจากทดลองขับรถที่สนใจเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

เหตุผลเพราะพวกเขาทำการบ้านมาดี

และผู้บริโภคหาข้อมูลจากไหนประกอบการตัดสินใจ

99% Search Engines

96% Online VDO

88% Brand Website 

75% Social Media

64% Advertising

53% Dealer Website 

49% Vehicle Website เว็บไซต์รถยนต์ต่างๆ

35% Vehicle Magazine นิตยสารรถ

32% General Magazine นิตยสารทั่วไป

27% Online Marketplace

อยากได้รถคิดแค่ 15 วันก็พอ

นอกจากนี้ผู้บริโภคยังใช้เวลาตัดสินใจซื้อรถที่สั้นลงจากเดิมที่เฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการหาข้อมูลและตัดสินใจซื้อรถสักคันหนึ่ง ในปัจจุบันเหลือเพียง 2 เดือนเท่านั้น

และที่น่าแปลกกว่านั้นที่ผู้บริโภค 15% ใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อรถใหม่เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น

ดูวิดีโอจบปุ๊บเข้าเว็บไซต์แบรนด์ปั๊บ

เพราะเป็นผลวิจัยจาก Google จึงให้ความสำคัญกับพฤติกรรมในการดูวิดีโอเป็นหลัก

โดยผลวิจัยครั้งนี้พบว่า 97% ผู้บริโภคที่คิดจะซื้อรถยนต์ เมื่อหาข้อมูลจากออนไลน์วิดีโอจะลิงค์ข้อมูลต่อไปยังสื่ออื่นๆ ในการหาข้อมูลเพิ่ม ซึ่งในปีนี้ผู้บริโภค 62% นิยมไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของดีลเลอร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ต่อ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีเพียง 49% เท่านั้น

ดูข้อมูลจากวิดีโอออนไลน์ แล้วทำอะไรต่อ

62% Visit Dealer Website 

50% Use a Car Configurator

47% Request a Price Quote 

39% Locate a Dealer

37% Schedule a Test Drive

โดย VDO Content ที่สนใจดูจะเป็นคอนเทนต์ที่มีความสวยงาม ถ่ายทำระดับมืออาชีพที่ผู้ผลิตแบรนด์เป็นผู้โพสต์ 81%

คอนเทนต์ที่มีความสวยงาม ถ่ายทำระดับมืออาชีพที่ไม่ได้โพสต์โดยแบรนด์ ( Independent Third Party) 59% 

และวิดีโอจากบุคคลทั่วไป 26% 

แต่อย่างไรก็ดี ในวันนี้การตัดสินใจซื้อรถของผู้ชายและผู้หญิงก็ยังมีความต่างกัน โดย ผู้ชายตัดสินใจซื้อเพราะสเปกรถ ผู้หญิงจะตัดสินใจซื้อจากฟีเจอร์รถ และสีของรถ

แต่สุดท้ายผู้ชายเป็นคนเลือกรถให้ผู้หญิงเป็นผู้ตัดสินใจ

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer