กทม. ได้ออกมาตรการข้อบังคับ และคำแนะนำ สำหรับร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ออกมาเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการร้านค้าได้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปิดร้านในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่ ศบค. ออกมาประกาศผ่อนปรนทั่วประเทศ

เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด ทำให้มาตรการสำหรับร้านค้านั้นมีรายละเอียดข้อจำกัดยิบย่อยมากมาย จนผู้ประกอบการร้านอาหารถึงกับงง ขณะที่ผู้บริโภคก็โอดครวญที่อดกินบุพเฟต์ ปิ้งย่าง ชาบู ที่สำคัญ มาตรการบังคับที่ว่านี้มีผลทางกฎหมาย ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

งั้นเรามาเช็กลิสต์กันหน่อยว่า ถ้าจะเปิดร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ตัวผู้ประกอบการ-พนักงาน-ลูกค้า ต้องทำอย่างไร

มาตรการผ่อนปรนร้านอาหาร/เครื่องดื่ม
ผู้ปฏิบัติ มาตรการบังคับ (มีผลทางกฎหมาย) ข้อแนะนำ
เจ้าของร้านอาหาร • มีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิพนักงานทุกคนและลูกค้าทุกคน

• จัดระบบการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 2 เมตร สําหรับการนั่งรับประทานอาหารในร้าน

• งดการให้บริการในลักษณะที่ลูกค้าประกอบอาหารที่โต๊ะเอง เช่น ชาบู สุกี้ ปิ้งย่าง งดให้บริการบุฟเฟต์ที่มีไลน์อาหารที่ลูกค้าตักเองหรือหยิบเองแต่สามารถให้บริการอาหารบุฟเฟต์ที่สั่งจากรายการอาหารได้

• งดจําหน่ายแอลกอฮอล์ทุกชนิด

• งดการเล่นดนตรี หรือแสดงสด

• จัดให้มีฉากแผ่นใสกั้นระหว่างลูกค้า และอาหาร

• จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% สําหรับทําความสะอาดมือ ณ จุดเข้า-ออก บริเวณต่างๆ ของร้านตามความเหมาะสมของพื้นที่

• ต้องทําความสะอาดสุขาทุกชั่วโมง หากไม่สามารถปฏิบัติได้ให้งดบริการสุขา

• ทําความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ ด้วยน้ำยาทําความสะอาดฆ่าเชื้อ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว) 0.1% ทุกครั้งเมื่อลูกค้าใช้บริการเสร็จ

• ทําความสะอาด พื้น ทางเดิน ราวบันได ห้องน้ำ ลูกบิดจับประตู หรือเคาน์เตอร์ ด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาทําความสะอาดฆ่าเชื้อ เช่น ผงซักฟอกโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว) 0.1% อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

• ร้านอาหารที่ติดเครื่องปรับอากาศต้องมีมาตรการเปิด-ปิด เป็นช่วงเวลา เพื่อเว้นช่วงเวลาในการทําความสะอาด และระบายอากาศ ทุก 2-3 ชั่วโมง

• มีมาตรการเข้มงวดกับการทําความสะอาดภาชนะ จาน ชาม ช้อน ส้อม และอุปกรณ์ต่างๆ

• การต่อแถวซื้ออาหารหรือรอเข้าร้าน ต้องมีระบบการเข้าแถวที่เว้นระยะห่างของลูกค้า 2 เมตร โดยร้านค้าต้องทําสัญลักษณ์จุดยืนให้แก่ลูกค้า และมีพนักงานคอยควบคุม/จัดคิวให้มีการเว้นระยะห่าง อย่างเคร่งครัดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อทางเท้าหรือสถานที่ใกล้เคียง

• เจ้าของร้านต้องกํากับกิจการให้เป็นไปตามมาตรการที่กําหนดไว้

• หากร้านมีขนาดใหญ่ควรมีระบบจองคิว Online และ การจองคิวหน้าร้าน โดยกําหนดเวลาในการเข้าบริการอย่างชัดเจน

• หากร้านมีขนาดคูหาที่แคบ ร้านอาจจะแจกบัตรคิว และให้ลูกค้ากลับมารับอาหารเพื่อป้องกันความแออัดภายในร้าน และหน้าร้าน

• รณรงค์การชําระเงินผ่าน QR code หรือโอนเงินระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสธนบัตรและเหรียญ

• ทําความสะอาด พื้น ทางเดิน โต๊ะ เก้าอี้ ด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาทําความสะอาดฆ่าเชื้อ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว) 0.1% อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

• แสดงสัญลักษณ์พื้นที่รอคิวตามมาตรฐานการเว้นระยะห่าง 2 เมตร บน พื้นให้ชัดเจน

• ชุดเครื่องปรุงรสแนะนําให้เป็นชนิดซอง

 

ผู้ให้บริการ / พนักงาน • พนักงานในร้านต้องรวบผม ใส่หมวก ใส่ถุงมือ ผ้ากันเปื้อน ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ใส่ face shield

• หากพนักงานที่มีอาการป่วย มีไข้ ไอ หรือมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์

• ผู้ปรุงอาหารต้องล้างมือทุกครั้งก่อนปรุงอาหาร

• พนักงานเสิร์ฟต้องล้างมือทุกครั้งก่อนออกเสิร์ฟอาหาร

• พนักงานเสิร์ฟควรใช้การพูดคุยในระดับเสียงปกติ ไม่ตะโกน และไม่เปิดหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

• พนักงานควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ ตั้งแต่เริ่มเข้าทํางาน ก่อนการเตรียมอาหาร ระหว่างและหลังปรุงอาหารเสร็จ หลังจับเงิน ขยะหรือเศษอาหาร หลังสูบบุหรี่ หลังทําความสะอาด และหลังเข้าส้วม

 

ผู้รับบริการ/ลูกค้า • ลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคนต้องรักษาสุขอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือฟอกสบู่ ก่อนและหลังใช้บริการทุกครั้ง

• หากมีอาการไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ไม่ให้เข้ารับบริการและควรไปพบแพทย์ทันที

• แจ้งกรณีพบร้านไม่ปฏิบัติตาม

• ล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร

• เลี่ยงไอ จาม ใกล้ผู้อื่น

• ระหว่างนั่งรับประทานอาหารหากมีการไอ หรือจาม ให้ปิด ปาก และจมูกให้สนิท

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer