ตลาดกางเกงยีนส์ ทำไมยังโต ? กรณีศึกษา แม็คกรุ๊ป วางกลยุทธ์พร้อมท้าชนทุกแบรนด์
ตลาดธุรกิจแฟชั่นยังโต แต่ผู้บริโภคเลือกใช้เงินมากขึ้น…
ภาพรวมตลาดแฟชั่นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโตวิด-19 แน่นอนว่าจากการที่ไม่สามารถเปิดหน้าร้านขายสินค้าได้สิ่งที่ตามมาคือ ยอดขายที่ลดลง และต้องปิดสาขา
อีกหนึ่งสิ่งคือ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากการซื้อแบบออฟไลน์ ก็หันมาซื้อแบบออนไลน์
รวมทั้งผู้บริโภคเลือกใช้เงินมากขึ้น
ทำให้กลุ่มสินค้าแฟชั่นที่โดนดิสรัปหนักมากสุดคือกลุ่ม Fast Fashion สะท้อนได้จากข่าวการปิดสาขาต่าง ๆ ของกลุ่มสินค้า Fast Fashion ที่ได้เห็นในช่วงนี้
แต่กลับกันก็ยังมีสินค้าแฟชั่นกลุ่มหนึ่งที่เติบโตสวนกระแสนั่นก็คือ ‘ยีนส์’ ที่ยังเติบโต 3-5%
แล้วทำไม ตลาดกางเกงยีนส์ ในเมืองไทยยังโต
เพราะยีนส์เป็น Basic Fashion ที่สามารถเลือกใส่ได้บ่อย คนยังนิยม และแฟชั่นยีนส์ไม่มีวันตาย ผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยยีนส์ก็ยังเป็นไอเทมที่ทุกคนมีติดบ้าน
คนไทยมียีนส์เฉลี่ย 7 ตัว
ในตลาดยีนส์เมืองไทยแบรนด์ที่เป็นเจ้าตลาดมีอยู่ราว 3-4 แบรนด์ ที่ครองส่วนแบ่งรวมกันแล้วมากกว่า 50% หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ยีนส์สัญชาติไทยอย่าง “MC” ของกลุ่มแม็คกรุ๊ป ที่ปีนี้ปิดปี (1 กรกฎาคม 2562–30 มิถุนายน 2563) ด้วยการทำกำไรได้ถึง 407 ล้านบาท จากรายได้กว่า 3,200 ล้านบาท
แล้วทำไมแม็คกรุ๊ปยังกำไร และจะเดินเกมในปีหน้าอย่างไร
ชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า แม็คกรุ๊ปปรับไลน์การผลิตสินค้าอย่างหน้ากากผ้าออกมารับดีมานด์ในช่วงล็อกดาวน์ และรุกช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้นทำให้ยอดขายออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 61%
รวมถึงยังควบคุมค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนแผนธุรกิจปีหน้านั้น แม็คกรุ๊ปจะเดินเกมด้วย New S-Curve ที่ได้จากการใช้ AI และ Big data มาวิเคราะห์ข้อมูลขยายกลุ่มลูกค้าจากช่องว่างที่มีอยู่ คือ
กลุ่มผู้หญิง (Female) ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 40% และเป็นกลุ่มที่ชอบใช้จ่าย เราจะเห็นแม็คกรุ๊ปเพิ่มไลน์สินค้าที่มีสีสันสดใสมากขึ้น
กลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) ลูกค้าฐานเดิมของแม็คคือวัยสามสิบ ที่แม็คกรุ๊ปมั่นใจว่าสามารถมัดใจกลุ่มลูกค้าเดิมได้อย่างอยู่หมัด สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ นั่นก็คือกลุ่มมิลเลนเนียล
สิ่งที่ทำให้กลุ่มมิลเลนเนียลหันมาสนใจได้คือความสดใหม่ และความหลากหลาย เราจึงเห็นแม็คกรุ๊ปตอนนี้ไม่ได้มีแค่กางเกงยีนส์ขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสินค้ากลุ่มแฟชั่นอื่น ๆ รองเท้า กระเป๋า หมวก ฯลฯ ด้วย
นอกจากนี้ แม็คกรุ๊ปจะใช้กลยุทธ์การ Collaboration กับพันธมิตรเพื่อออกสินค้าใหม่ ๆ มากขึ้น
และกลุ่มคนในเมือง (Urban) ที่ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ แต่คือคนเมืองตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย แม็คกรุ๊ปจึงเดินหน้าเตรียมออกสินค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่เครื่องแต่งกายมาสู่ตลาด
นอกจากขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่แล้วที่น่าสนใจคือ แม็คกรุ๊ปกำลังจะสร้าง Warehouse แห่งใหม่บนพื้นที่ 7 ไร่ที่เป็นของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่จะได้กลับมาเมื่อคลังสินค้าเสร็จคือ แม็คกรุ๊ปจะไม่เสียค่าเช่าคลังสินค้าเหมือนที่เคยทำอยู่อีกต่อไป ต้นทุนลดลง และยังได้รายได้เพิ่ม
เพราะแม็คกรุ๊ปไม่ได้แค่สร้างคลังสินค้าไว้ใช้เอง แต่จะแบ่งพื้นที่ราว 50% ให้ผู้ประกอบการรายอื่นเช่าพื้นที่ด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือทิศทางของแม็คกรุ๊ปที่ตั้งเป้าผลักดันรายได้งวดปี 63/64 เติบโต 10-12%

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
