วิดีโอแนวตั้ง หรือ Vertical Video คือวิดีโอที่ถ่ายในแนวตั้ง
คุณอาจจะเคยได้ยินมาว่าสายตาของมนุษย์ เหมาะกับวิดีโอแนวนอนมากกว่า.. ซึ่งก็จริง แต่กาลเวลาเปลี่ยนไปแล้ว เพราะปัจจุบันภาพเซลฟี่ก็ถ่ายแนวตั้งสวยได้ คอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอแนวตั้งก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉะนั้น มาฟัง 5 เหตุผลกันว่าทำไม แบรนด์ควรเริ่มทำ วิดีโอแนวตั้ง ได้แล้ว !!
1.คนใช้โซเชียลมีเดีย ผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก
ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องสอนผู้สูงวัยใช้คอมพิวเตอร์อีกต่อไป เพราะแค่จิ้มสองทีก็เชื่อมสู่โลกโซเชียลได้แล้ว โดยข้อมูลจาก MarketingLand ในปี 2015 พบว่า 67% เข้าโซเชียลมีเดียผ่านสมาร์ทโฟน และอีก 12% ผ่านแท็บเล็ต ซึ่งผ่านไป 1 ปีกว่าๆ ตัวเลขทั้งสองน่าจะเพิ่มขึ้นอีก
บทบาทของคอมพิวเตอร์ กลายเป็นเครื่องมือทำงานไปแล้ว ปัจจุบันคนใช้สมาร์ทโฟนได้ทุกเวลา เดินทางในตอนเช้า กินข้าวตอนกลางวัน กลับบ้านตอนเย็น นอนเล่นบนเตียง หรือแม้แต่นั่งหน้าคอมฯ ในที่ทำงาน ก็ยังเปิดมือถือได้
2.คนถือมือถือแนวตั้ง
เผื่อไม่ทันสังเกต คนส่วนใหญ่ถือมือถือแนวตั้ง…
ที่มือถือต้องมีแนวตั้งเพราะมือของเราเหมาะกับการถือแนวตั้ง ตั้งแต่มือถืออันเท่ากระดูกหมาจนถึงสมาร์ทโฟน มือถือมีลักษณะในแนวตั้งมาตลอด ยกเว้น Nokia NGage ที่ทำแนวนอนเพื่อเล่นเกม แต่เวลาโทรศัพท์ก็ต้องถือแนวตั้งอยู่ดี ฉะนั้นนอกจาก ดูซีรีส์ ดูหนัง และเล่นเกม แล้ว… แอปพลิเคชันทุกอันก็ทำมาแนวตั้งหมด
หากแบรนด์ไม่ได้มีคอนเทนต์หนังสั้น หนังไวรัล การลองทำวิดีโอแนวตั้งสามารถให้พื้นที่ได้มากกว่าเพราะ ขอบบนกับขอบล่างไม่โดนตัด
3.Social Media รองรับวิดีโอแนวตั้ง เกือบหมด
ตอนนี้ LINE, Facebook, Instagram, Youtube, Snapchat หรือ Twitter รองรับวิดีโอแนวตั้ง 100% ไม่โดนตัดขอบ ฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าระบบจะไม่รองรับ
นอกจากนั้นเวลาดู Live Video ผู้ชมก็สามารถดูคอมเมนต์ได้ในแนวตั้ง ซึ่งได้อรรถรสมากกว่าด้วย ลองดูตัวอย่างการไลฟ์สดของ สรยุทธ์ ในแบบแนวตั้ง และแนวนอนดู แล้วลองคิดตามดูว่าแบบไหนดีกว่ากัน
4.Ads ในแบบแนวตั้ง ได้ผลดีกว่า
ผู้ที่ริเริ่มโฆษณาในแนวตั้ง คือ Snapchat เพราะส่วนใหญ่วิดีโอใน Snapchat เป็นแนวตั้ง แบรนด์ที่เหลือก็เลยต้องปรับตัว เวลาที่คนกด Snap Ads พวกเขาอยากดูคอนเทนต์นั้นจริงๆ โดย 2 ใน 3 ที่กดดู Ads เปิดเสียงสมาร์ทโฟนไว้ด้วย ส่วนวิดีโอก็เป็นแนวตั้ง และโฆษณาก็สั้นแค่ 10 วินาที ทำให้ Engagement ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค ใน Snapchat นั้นสูงมากเมื่อเทียบกับ Platform อื่นๆ
*วิดีโอแนวตั้งมีโอกาสดูจบมากกว่าแนวนอน ถึง 9 เท่า* Snapchat
5.คนขี้เกียจพลิกจอ
ถึงแม้ว่าการพลิกจอ จะกินเวลาแค่ 1 วินาที แต่นั่นก็มากพอทำให้คนยุคนี้ล้มเลิกความตั้งใจได้
ลองนึกภาพตาม เวลาคุณกำลังเลื่อน Timeline ใน Facebook อย่างเมามัน (ในแนวตั้ง) คุณย่อมไม่อยากหยุกเพื่อหมุนหน้าจออยู่แล้ว และยิ่งถ้าเป็นวิดีโอแนวนอน การมองเห็นเวลาเลื่อน Feeds ยิ่งน้อยใหญ่
แต่กลับกัน เมื่อเลื่อนเจอวิดีโอแนวตั้งปุ๊ป ทุกอย่างจะเต็มจอทันที และถ้าคอนเทนต์นั้นดีจริง ก็มีโอกาสที่ผุ้บริโภคจะกดเข้าไปดูจริงจัง
หากคุณยังไม่คล่องกับการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง ลองถ่ายแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสดูก่อนก็ได้ เพราะมันแสดงผลใหญ่กว่าแบบแนวนอน
หรือถ้ามีวิดีโอแนวนอนใน Library เยอะ ก็สามารถใส่ตัวอักษรตรงขอบวิดีโอได้ อย่างน้อยก็เพิ่มพื้นที่ให้กับวิดีโอ ไม่ต้องมีสิ่งอื่นรบกวน
ที่มา : Social Media Today
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ