แม้เป็นเบอร์หนึ่งในหมู่คอเงินคริปโต แต่รัฐบาลหลายประเทศก็ยังมอง Binance ด้วยความกังขาจนนำมาสู่การ ‘สั่งแบน’ โดยคณะกรรมการควบคุมบริษัทและการซื้อขายหลักทรัพย์ของอิตาลี (CONSOB) ได้สั่งห้ามไม่ให้ Binance ทำการซื้อ-ขายเงินคริปโตในประเทศ เพราะเห็นว่ามีการเลี่ยงภาษีและยังเป็นช่องทางฟอกเงินของอาชญากรอีกด้วย
CONSOB ยังเตือนให้ชาวอิตาลีพิจารณาอย่างรอบคอนก่อนซื้อขายเงินคริปโตในแพลตฟอร์มของ Binance ขณะที่ประธาน CONSOB เคยกล่าวไว้ว่าต้องมีการควบคุมเงินคริปโตที่ซื้อขายในอิตาลีเพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อภาคการเงินของประเทศ
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐบาลหลายประเทศ ทั้งกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร เยอรมนี ญี่ปุ่นและไทย ก็ ‘สั่งแบน’ ไปแล้วด้วยเหตุผลเดียวกัน

ด้าน Binance ดูจะไม่ใส่ใจกับมาตรการ ‘สั่งแบน’ ครั้งนี้ เพราะเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ภาษาอิตาลีไม่ได้อยู่ในอิตาลี ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องเลี่ยงภาษี
เพราะจดทะเบียนบริษัทในหมู่เกาะ เคย์แมน ดินแดนในปกครองของอังกฤษที่ไม่เก็บภาษีกับบริษัทต่างชาติ Binance กล่าวเพียงว่า เป็นการกระจายความเสี่ยง
Changpeng Pao
สำหรับ Binance ก่อตั้งเมื่อ 2017 โดย Changpeng Pao อดีตโปรแกรมเมอร์ชาวแคนาดาเชื้อสายจีน แม้เป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายเงินคริปโตใหญ่สุด ด้วยปริมาณซื้อขายเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมาที่สูงถึง 668,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 21.8 ล้านล้านบาท)
เพิ่มเกือบ 10 เท่าจากปี 2020 ตามความคึกคักและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเงินคริปโตสกุลต่างๆ แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส
การแก้ไขปัญหาเรื่องความโปร่งใสไม่ได้ทำให้ Binance ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการขยายตัวของเงินคริปโตได้ และพลาดโอกาสทำ IPO เหมือน Coinbase แพลตฟอร์มคู่แข่งที่ทำ IPO มูลค่า 381 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 11,800 ล้านบาท) ไปเมื่อกลางเมษายนที่ผ่านมา / reuters, cna
