เศรษฐกืจปี 2565 จะเป็นอย่างไร บนสถานการณ์วิกฤตโควิดสายพันธุ์ใหม่
การติดตามข่าวสารของนักลงทุนกลับสู่โหมดต้องลุ้นหนักกันอีกครั้ง โดยสาเหตุใหญ่มาจากพิษโควิดกลายพันธุ์และสถานการณ์โลก
ปีหน้าเศรษฐกิจ ภาคการเงิน และความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มผันผวน จากสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ท่ามกลางการ ‘ตั้งการ์ด’ ที่แตกต่างกันไปของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ และปัจจัยลบมากมายที่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
วิกฤตโควิดรอบแรกเมื่อปี 2020 ทำให้เศรษฐกิจโลกทรุดหนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จนข่าวการล้มละลายของเบอร์ใหญ่ ๆ ในหลายธุรกิจ เช่น สายการบิน และค้าปลีก ท่วมสื่อทุกแขนง
ส่วนในปีนี้การกระจายวัคซีนที่ค่อนข้างทั่วถึง การปรับตัวของหลายธุรกิจ และปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ทำงานและดำเนินธุรกิจ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาก จนสัญญาณฟื้นตัวปรากฏชัด
แต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ฝันร้ายกลับมาอีกครั้ง โดยโควิดเกิดกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ทำให้รัฐบาลทั่วโลกนำมาตรการสกัดการระบาด เช่น ฉีดวัคซีน จำกัดการรวมตัว เว้นระยะห่าง และใส่หน้ากากอนามัย มาใช้อีกครั้ง ฉุดภาคธุรกิจและการจับจ่ายที่กำลังจะกลับมาคึกคักคืนสู่ภาวะซบเซา
โชคร้ายที่สถานการณ์ไม่เป็นใจเหล่านี้จะยังลากยาวต่อไปในปีหน้า โดยตามรายงานของ The Guardian สื่อเก่าแก่ของอังกฤษที่อ้างจากบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนหลายแห่งระบุว่า โควิดไอมิครอนจะเป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน
ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการรับมือ และการประเมินสถานการณ์ของรัฐบาลแต่ละประเทศ
ตามรายงานดังกล่าวระบุว่าไตรมาสแรกเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะงักงัน เพราะรัฐบาลทุกประเทศต่างต้องดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการเงินอย่างระมัดระวัง โดยหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น และการระบาดขยายวง คนทั่วโลกอาจต้องคิดหนักทุกครั้งยามจับจ่าย จนภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองอาจตามมา
ส่วนปัจจัยลบอื่น ๆ ที่จะส่งผลต่อ เศรษฐกิจปี 2565 ได้เช่นกัน คือวิกฤต Supply Chain การตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ กับจีนทั้งทางการค้าและประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน
ในประเด็นที่เกี่ยวกับจีนยังต้องจับตามองมาตรการจัดระเบียบว่าจะขยายวงไปอีกมากน้อยแค่ไหน และวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ว่าจะทุเลาหรือทรุดหนัก
นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวของรัสเซีย ว่าจะบุกยูเครนหรือไม่และท่าทีในฐานะแกนนำกลุ่ม OPEC+ ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันโลกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ในประเทศที่มีบทบาทต่อการเมืองโลก เช่น การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาในสหรัฐฯ กับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกได้เช่นกัน
ด้านบริษัทที่ต้องติดตามความเคลื่อนไหวก็ใกล้เคียงกับวิกฤตโควิดรอบแรก โดยถ้ามาตรการล็อกดาวน์ถูกนำมาใช้เพื่อสกัดการระบาดอีก หุ้นกลุ่มออนไลน์ทั้งหมดคงกลับมาโตอีกครั้ง
แต่หุ้นกลุ่มสายการบินจะทรุดอีก ทว่าสถานการณ์จะไม่แย่มากเหมือนก่อน เพราะหลายสายการบินปรับตัว รุกสู่ธุรกิจขนส่ง และ ‘เปิดครัว’ ทำอาหาร มาตั้งแต่วิกฤตโควิดรอบแรกแล้วนั่นเอง/theguardian
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ