ประกาศผลรางวัลเป็นที่เรียบร้อย สำหรับโครงการKRUNGSRI IMAX Video Contest 2021 เวทีประลองไอเดียสร้างสรรค์คลิปวิดีโอในหัวข้อ “ดูหนังปลอดภัย ด้วยความห่วงใย ที่กรุงศรีไอแมกซ์” ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 7

โดยในปีนี้น้อง ๆ จาก “ทีมไอซ์เอเอ็กซ์” เป็นผู้คว้ารางวัลชนะเลิศไปครองจากคลิปที่ชื่อ “ดูหนังจอใหญ่ ปลอดภัย ไร้ CASH” และ “ทีมโลกกรุงศรี”  และ “ทีมบางซื่อ” คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ไปครองตามลำดับ

ด้วยความที่เป็นเวทีที่เปิดกว้างให้ทั้งนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปอายุไม่เกิน 30 ปี สามารถเข้าร่วมแสดงความคิดสร้างสรรค์นำความรู้มาแปลงเป็นไอเดีย ทำให้โครงการ Krungsri IMAX Video Contest ได้รับความสนใจและมีทีมเข้าร่วมประกวดกว่า 100 ทีม ขณะที่การกำหนดโจทย์การแข่งขันยังคงคอนเซ็ปต์คือ สอดคล้องกับเทรนด์และกระแสสังคมในแต่ละปี

หากมองในฐานะผู้นำธุรกิจทั้ง 2 องค์กรอย่างธนาคารกรุงศรีอยุธยา และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป การจัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงผลกำไร แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสังคม ผ่านการสร้างพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้สร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าในชีวิต

ที่น่าสนใจคือ โครงการประกวดจาก KRUNGSRI IMAX ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา รวมถึงกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ สามารถสร้าง Brand Engagement ที่มีประสิทธิภาพต่อกลุ่มลูกค้าของทั้งสองแบรนด์เป็นอย่างดี

วรรณิภา รุ่งเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายกิจกรรมการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า

“ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เราเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีของการเป็นเนมมิ่งสปอนเซอร์ โรงภาพยนตร์กรุงศรี ไอแมกซ์ (KRUNGSRI IMAX) นอกจากความมุ่งมั่นมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าของธนาคารกรุงศรีและลูกค้าเมเจอร์ฯ แล้วเรายังทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการจัดกิจกรรมพาน้องดูหนังให้กับน้อง ๆ ด้อยโอกาสทั่วประเทศที่ทำต่อเนื่อง กระทั่งช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาต้องงดเว้น เปลี่ยนเป็นการมอบขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์แทน

“ด้านการจัดกิจกรรมการประกวดที่เริ่มจากการประกวดแผนการตลาด ปรับมาเป็นแผนโฆษณา IMC กระทั่งเป็นการประกวดวิดีโอความยาว 1 นาที ที่มีการพัฒนาโจทย์ให้สอดคล้องกับเทรนด์และสถานการณ์ ณ ขณะนั้น ที่เรายังคงเปิดกว้างให้ทั้งนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่อายุไม่เกิน 30 ปีได้ร่วมสนุกกับการประกวด

Cashless Cinema สร้างวัฒนธรรมการดูหนังแบบใหม่

“สำหรับหัวข้อในปีนี้คือ “ดูหนังปลอดภัย ด้วยความห่วงใย ที่กรุงศรีไอแมกซ์” สอดคล้องกับสภาวะที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่โรงภาพยนตร์ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าขั้นสูงสุดตามหลักมาตรฐานสาธารณสุขสากลอย่างเคร่งครัด ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเองได้พัฒนารูปแบบการชำระเงินและซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่าน “กรุงศรี โมบาย แอปพลิเคชัน” (KMA)เพื่อความสะดวกสบาย พร้อมตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยของลูกค้าในการลดการสัมผัสให้มากที่สุด และก้าวสู่สังคมไร้เงินสดกับ Cashless Cinema โรงภาพยนตร์ไร้เงินสดเต็มรูปแบบ”

หากดูจากตัวเลขผู้เข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้กว่า 100 ทีม และผลงานที่ส่งเข้าประกวดแล้ว เรียกได้ว่าโครงการ  KRUNGSRI IMAX Video Contest 2021 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งการสร้าง Engagement กับกลุ่ม Young Generation และการส่งสารเรื่องความห่วงใยจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาและเมเจอร์ฯ ที่แฝงด้วยการสร้าง Culture ใหม่ของการจ่ายเงินซื้อตั๋วหนังแบบ Cashless Cinema ผ่านแอป KMA

นอกจากนี้ วรรณิภายังอัปเดตถึงการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ต่อเนื่องและยาวนานของธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้ฟังว่า

“ในด้านผลิตภัณฑ์ทุกตัวต้องปรับและพัฒนาใหม่หมดเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ลูกค้าในปัจจุบันที่มาใช้บริการที่สาขาน้อยลง โดยเราได้พัฒนาแอป KMA ให้สามารถทำธุรกรรมได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดขั้นตอนและเวลาของลูกค้าพร้อมมอบความสะดวกสบายให้มากที่สุด ทั้งในด้านธุรกรรมกับธนาคารเอง หรือการชำระเงินในชีวิตประจำวัน

ขณะเดียวกัน ด้านการบริการที่สาขาต่าง ๆ เราวางมาตรการรองรับอย่างมีระเบียบแบบแผน พนักงานทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม และมีการตรวจ ATK ถี่ขึ้น หากมีการติดเชื้อ ณ สาขาใดสาขาหนึ่งเรามีการปิดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ 3 วัน และเปลี่ยนพนักงานใหม่ยกชุดเข้าไปทำงาน พนักงานชุดเดิมให้กักตัวทันที

ด้าน นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เล่าถึงภาพรวมของธุรกิจโรงหนังในปัจจุบันว่า

“สถานการณ์โรงหนังตอนนี้ถือว่ากลับมาเป็นปกติแล้ว 3 เดือนที่ผ่านมาเรามีหนังเข้าฉายทั้งหมดกว่า 90 เรื่อง ถือว่า Content ช่วยดึงดูดคนให้กลับมาดูหนังตามปกติ และในปีนี้เรามีหนังจากฮอลลีวูดเข้ามาประมาณ 100 เรื่อง รวมกับหนังไทยกว่า 30 เรื่อง แบ่งเป็นเมเจอร์ผลิตเอง 20 เรื่อง จากค่ายอื่นอีก 30 เรื่อง รวมทั้งหมด 150 เรื่อง ยังไม่รวมหนังเอเชียจากจีน ญี่ปุ่น หรืออินเดียที่จะเข้ามาเสริมทัพช่วย Drive คนให้เข้ามาดูหนังมากขึ้น

“สำหรับมาตรการป้องกันโควิด-19 เราเน้นความปลอดภัยของลูกค้าขั้นสูงสุดตามหลักมาตรฐานสาธารณสุขสากลอย่างเคร่งครัด มีการรักษาระยะห่างโดยยังคงเว้นที่นั่งอยู่ พนักงานเราได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็มทุกคน มีการตรวจ ATK สม่ำเสมอ และมีช่องทางการขายตั๋วหนังที่เน้นแบบ Cashless ที่เราทำร่วมกันกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทำให้ในปีที่ผ่านมายอดการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์เราเติบโตมากถึง 30% ขณะที่การซื้อตั๋วหนังครบจบบนแอป KMA ที่ลูกค้าสามารถนำ QR Code มาแสดงและสามารถเข้าโรงได้เลยก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน”

นอกจากนี้ นรุตม์ยังเล่าให้ฟังว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิด New Business นั่นคือ การขายป๊อปคอร์น ที่ในตอนนี้กำลังจะนำไปวางขายบนแพลตฟอร์ม e-Commerce, ไฮเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ต หลังจากลงสนาม Food Delivery มาแล้ว

“ปัจจุบันยอดขายป๊อปคอร์นนอกโรงหนังอยู่ที่เฉลี่ยเดือนละประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งเราตั้งเป้าจะไปให้ถึง 100 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าน่าจะสำเร็จในเร็ว ๆ นี้”

โรงหนัง First Window ยังเป็นมนต์ขลังไม่เสื่อมคลาย

เมื่อถามถึงทิศทางธุรกิจโรงหนัง นรุตน์กล่าวย้ำว่ามีแนวโน้มที่สดใส โดยยกตัวอย่าง กรณีการฉายหนังเรื่อง black widow ที่ทางค่าย Disney ลองฉายในโรงหนังพร้อมกับ Disney+ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ รายได้น้อยมากจากทั้งสองช่องทาง จากนั้น Disney ได้ลองโมเดลใหม่กับหนังเรื่อง Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings โดยฉายในโรงก่อน 45 วัน จากนั้นจึงฉายในช่อง Disney+ ผลคือรายได้ในโรงดีมาก จากนั้น Disney จึงประกาศจะใช้โมเดลนี้กับหนังทุกเรื่องของ Disney และค่ายหนังอื่น ๆ ก็ทำตามเช่นกัน

“จุดเด่นของโรงหนังอย่างการเป็น First Window ยังคงแข็งแกร่งเช่นเดิม คนอยากดูหนังสด หนังใหม่ หนังใหญ่ต้องดูที่โรง อยากได้ประสบการณ์ที่ดีกว่า เป็น communal experience คนที่ชื่นชอบการดูหนังอยากมีประสบการณ์ร่วมกัน ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังคงโหยหาการทำกิจกรรมนอกบ้าน คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงกับช่วงปกติมากขึ้น

“ขณะที่คุณภาพโรงหนังเอง เมเจอร์มีการพัฒนาระบบอยู่เสมอ ปัจจุบันเมเจอร์มีโรงหนังที่เป็น Laser Plex 100% ทั้งหมด 5 สาขา และโรง Laser Plex ที่อยู่สาขาต่าง ๆ รวมกว่า 200 สาขา

เราอัปเกรดคุณภาพโรงหนังให้ดีขึ้น เสียงดีขึ้น ภาพดีขึ้น ประสบการณ์ดีขึ้น มีมาตรการความปลอดภัย และคอนเทนต์เข้มข้นกว่า 150 เรื่อง และการเป็น First Window ทำให้คนรู้สึกว่ามาดูหนังที่โรงมันสนุกและแตกต่าง”

ด้านการร่วมมือกับธนาคารกรุงศรี นอกจากกิจกรรมเพื่อสังคมและกิจกรรมการตลาดที่ทำร่วมกันอย่างต่อเนื่องแล้ว ในอนาคตนรุตน์กล่าวว่าจะเน้นไปที่ดิจิทัลมากขึ้น

“ด้วยกลุ่มลูกค้าของทั้งสองแบรนด์มีสโคปที่กว้างและเป็นกลุ่มเดียวกัน ที่ผ่านมาลูกค้ากรุงศรีกลายมาเป็นลูกค้าเมเจอร์มากขึ้น สิ่งที่เราอยากเห็นในอนาคตคือ Digital Touchpoints ของลูกค้าทั้งสองแบรนด์จะต้อง ง่าย สะดวก แบบไร้รอยต่อมากที่สุด ด้านกิจกรรมหรือสิทธิประโยชน์เรายังคงจัดต่อเนื่องตลอดทั้งปีเช่นเดิม”


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer