Seiji Yamamoto หนึ่งในเชฟดังจากญี่ปุ่น ผู้ปรุงอาหารไคเซกิได้อย่างไม่เหมือนใคร
รู้หรือไม่ อาหารญี่ปุ่นก็มีอาหารเสิร์ฟเป็นคอร์สเหมือนกับอาหาร Full Course ของทางตะวันตก ซึ่งอาหารประเภทนี้ถูกเรียกว่า อาหารไคเซกิ (Kaiseki) คอร์สอาหารญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และนำมาเสิร์ฟตามลำดับแบบญี่ปุ่นนั่นเอง
โดยอาหารในไคเซกิจะยึดหลัก ข้าว 3 น้ำ 1 ตามธรรมเนียมการรับประทานอาหารของญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย ข้าว กับข้าวหลัก ซึ่งมักเป็นเนื้อ กับข้าวรอง ซึ่งมักเป็นผัก และซุป รวมถึงเครื่องเคียงต่าง ๆ
ซึ่งส่วนใหญ่อาหารไคเซกิมักเสิร์ฟในร้านภัตตาคารแบบญี่ปุ่นหรือเรียวกัง ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยมักนิยมหาร้านอาหารสไตล์ไคเซกิรับประทาน อย่างเช่น ร้าน Nihonryori RyuGin (นิฮอนเรียวริ ริวกิน) หนึ่งในร้านอาหารไคเซกิชื่อดังของเชฟSeiji Yamamoto(เซอิจิ ยามาโมโตะ) เชฟญี่ปุ่นผู้โด่งดัง
มารู้จักกับเชฟ Seiji Yamamoto หนึ่งในผู้มีชื่อเสียงด้านการทำอาหารไคเซกิกันเถอะ
เชฟSeiji Yamamotoเกิดปี 1970 ที่จังหวัดคางาวะ ญี่ปุ่น ปัจจุบันเขาเป็นเชฟชาวญี่ปุ่น ผู้ถือดาวมิชลินเจ็ดดวงที่ร้านอาหาร Nihonryori RyuGin ของเขาเอง ซึ่งร้านนี้ได้รับการเสนอชื่อเป็น 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังได้อันดับที่ 5 ในรายชื่อเชฟที่ดีที่สุดในโลกของ Le Chef (ลา เชฟ) อีกด้วย
เขาเริ่มทำอาหารครั้งแรกตอนอายุ 11 ปี โดยเขาเริ่มจากการทำอาหารจากผักและข้าวที่โรงเรียน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้แม่ของเขาประทับใจมาก จนทำให้หลังจากนั้นแม่ของเขาคอยสอนเขาทำอาหารอยู่เป็นประจำ
สิ่งนี้ทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาเล่นเหมือนกับเด็กทั่วไป แต่เขาก็พอใจ เพราะเขารู้สึกว่ามันคุ้มค่าเมื่อเขาเห็นแม่ของเขามีความสุขแค่ไหนเมื่อเขาทำอาหารกับเธอ
ต่อมาเชฟ Seiji Yamamoto ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนที่เขาจะใช้เวลาหลังจากจบการศึกษาเป็นเวลาทั้งหมด 11 ปีในการฝึกฝนทำอาหารกับเชฟ Hirohisa Koyama (ฮิโรฮิสะ โคยามะ) ที่ร้านอาหาร Aoyagi (อาโอยากิ)
สิ่งนี้ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เขาเป็นอย่างมาก และทำให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างลึกซึ้ง ในไม่ช้าเขาก็ได้รับเชิญให้ไปทำอาหารในงานแสดงอาหารนานาชาติ Madrid Fusión (มาดริด ฟิวชัน) ภายในงานเขาได้โชว์สิ่งที่ทำให้หลายคนต้องตะลึง นั่นก็คือ เขาได้สกรีนลายปลาหมึกให้ดูเหมือนหนังสือพิมพ์โดยใช้เทคนิคแบบ Screen printing เพื่อให้ปลาหมึกสดใหม่
สิ่งนี้สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนเชฟของเขาหลายคน โดย Ferran Adrià (เฟร์ราน เอเดรีย) เชฟชาวสเปน เจ้าของร้านอาหาร elBulli ในประเทศสเปน ได้ชื่นชมเชฟ Seiji Yamamoto ว่าเป็น “หนึ่งในเชฟที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น”
เริ่มต้นเปิดร้านอาหาร Nihonryori Ryugin
ในปี 2003 เชฟ Seiji Yamamoto ได้เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ของตัวเอง ‘Nihonryori Ryugin’ ขึ้นมาในโตเกียว ซึ่งเขาได้ผสมผสานสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มา นั่นก็คือ อาหารไคเซกิ นั่นเอง ซึ่งภายในเวลา 5 ปี เขาก็สามารถคว้าดาวมิชลินมาได้ 2 ดวง หลังจากนั้น 2 ปีต่อมา เขายังได้ติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก และในปี 2013 เขาก็ก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 22 ด้วยผลงานที่ท้าทายความสามารถของเขา
แม้ว่าจะประสบความสำเร็จแล้ว แต่เชฟSeiji Yamamotoยังคงฝึกทำอาหารอยู่เสมอ เขามักจะให้ความสำคัญกับวัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่น เขาสร้างสรรค์อาหารที่พยายามดึงเอาแก่นแท้ของอาหารญี่ปุ่นผ่านรสชาติต่าง ๆ โดยคาดหวังว่าอาหารญี่ปุ่นจะสามารถพัฒนาต่อไปได้ไกลในอนาคตนั่นเอง
เขายังโดดเด่นในเรื่องทักษะการใช้มีดอีกด้วย อย่างเช่น อาหารจานเด่นของเขา ซึ่งเป็นซุปปลาไหลฮาโมะ โดยจานนี้แทนที่เขาจะนำเทคนิคการใช้มีดแบบดั้งเดิมมาใช้ในการเลาะกระดูกออกจากปลา แต่เขากลับพิจารณาถึงโครงสร้างกระดูกของปลา เพื่อให้เขาสามารถแล่เนื้อปลาได้อย่างง่ายดาย
เชฟSeiji Yamamotoจึงได้รับการยกย่องว่าฝีมือการทำอาหารของเขาสามารถแสดงออกได้ถึงความงามของญี่ปุ่นผ่านอาหารของเขานั่นเอง
ทำไมเชฟ Seiji Yamamoto ถึงเป็นหนึ่งในเชฟชาวญี่ปุ่นที่โดดเด่นที่สุดในศตวรรษ
เชฟSeiji Yamamotoได้มุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาในการทำอาหารไคเซกิ เขาให้ความสำคัญกับวัตถุดิบตามฤดูกาลของญี่ปุ่น โดยยกระดับอาหารให้เป็นงานศิลปะขนาดเล็กด้วยเทคนิคสมัยใหม่ที่มีแต่เขาที่ทำได้
ตั้งแต่ร้านอาหารของเขา Nihonryori RyuGin เปิดตัว เขาได้กลายเป็นหนึ่งในบุคคลชั้นนำของญี่ปุ่นในด้านการปรุงอาหารไคเซกิแบบก้าวหน้า เป็นผู้บุกเบิกรูปแบบ และได้รับตำแหน่งสูงสุด 10 อันดับแรกใน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียทุกฉบับ
โดยอาหารไคเซกิถือเป็นศิลปะการทำอาหารรูปแบบสูงสุดของญี่ปุ่น ซึ่งอาหารไคเซกิเน้นที่ชุดอาหารขนาดเล็กที่นำเสนออย่างสวยงามตามแนวคิดของความสมดุลในส่วนของสี รสชาติ อุณหภูมิ เนื้อสัมผัส และกลิ่น ทำให้เชฟไคเซกิหลายคนยึดติดกับวิธีการแบบดั้งเดิมในการเตรียมอาหารและลำดับขั้นของมื้ออาหาร
แต่เมื่อเชฟ Seiji Yamamoto เปิดร้านของเขาขึ้น เขากลายเป็นหนึ่งในเชฟคนแรก ๆ ที่ประสบความสำเร็จในการทำอาหารไคเซกิแบบคลาสสิก สิ่งนี้ได้ทำให้เขาและร้านของเขาเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
บทสรุป
ปัจจุบัน เชฟSeiji Yamamotoได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเชฟฝีมือดีที่สุดของโตเกียว โดยนำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลิน NihonRyori Ryugin ซึ่งอาหารของเขาจะผสมผสานรสชาติและทักษะที่เชี่ยวชาญอย่างสมบูรณ์แบบเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ซึ่งมีรากฐานมาจากประเพณีการทำอาหาร
ทำให้ร้านอาหารนี้ของเขาเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ในทุก ๆ ปีจะมีเชฟจากร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มาเยี่ยมเป็นประจำ จนเขาได้ขยายอาณาจักรร้านอาหารของเขา โดยเปิด Tenku RyuGin ในฮ่องกงในปี 2012 และ Shoun RyuGin ในไทเปในปี 2014 ซึ่งทั้งสองแห่งได้รับความนิยมไม่แพ้ที่ญี่ปุ่นอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นเชฟที่ดีที่สุดอันดับที่ 5 ของโลกในปี 2016 และได้รับการยอมรับจาก International Hospitality Institute ใน Global 100 ให้เป็นหนึ่งใน 100 คนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในด้านการบริการระดับโลกอีกด้วย
ที่มา:
https://en.wikipedia.org/wiki/Seiji_Yamamoto
https://www.joselitolab.com/chefs-en/seiji-yamamoto-en.html?bio
https://guide.michelin.com/en/article/people/3stars-ryugin-seiji-yamamoto-the-knife-technique
https://www.sanpellegrinoyoungchefacademy.com/academy-stories/seiji-yamamoto-interview
https://www.nihonryori-ryugin.com/en/chef/
https://www.andyhayler.com/chef-interviews/seiji-yamamoto
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



