บางจากฯ เปิดตัวหนังสั้นโฆษณา “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” สะท้อนตัวตนแบรนด์ เริ่มนับหนึ่งปีที่ 40 ลุยสร้างการรับรู้ผ่านสื่อโซเชียล เป้าส่งสารแบรนด์ระยะยาวผ่านไอเดีย “Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด”
บางจากฯ เปิดตัวหนังสั้นโฆษณา จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง (Regenerative Soul) #กระจกกับดอกไม้ หนังความยาว 5:26 นาที ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเด็กชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและลงมือทำตามความฝันของตน
สะท้อนพลังขับเคลื่อนและจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่งของบางจากฯ ที่ตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อเอาชนะความท้าทายและบริบทแวดล้อม
ขณะที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการรังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ผ่านนวัตกรรมสีเขียวและการสร้างสมดุลธรรมชาติด้วยจิตวิญญาณอันมุ่งมั่น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หนังโฆษณาที่ดี คือ หนังที่เปิดให้ผู้ชมได้มาแลกเปลี่ยนมุมมองที่แตกต่างกัน และบางจากฯ พยายามสื่อสารแบรนด์ โดยไม่จำเป็นต้องใส่โลโก้เข้าไป
เอเจนซีโฆษณาที่ทำหนังเป็นทีมเดียวกับที่เคยร่วมกันทำ “ข้าวแกง – ความสุขที่ยั่งยืน คือกำไรที่มั่นคง” ภาพยนตร์โฆษณาฉลองครบรอบ 35 ปี บางจากฯ ซึ่งเผยแพร่เดือน พ.ย. 2562 ปัจจุบันมียอดวิวในทุกช่องทางออนไลน์ประมาณ 50 ล้านวิว
ทำให้การทำงานร่วมกันในครั้งใหม่นี้เป็นไปอย่างรู้ใจกันมากขึ้น บางจากฯ จะเน้นสร้างการรับรู้หนังสั้น “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” ผ่านสื่อโซเชียลเป็นหลัก เนื่องจากความยาวของหนังที่ไม่เหมาะลงทุนในสื่อโทรทัศน์ที่คิตเรทโฆษณาตามระยะเวลาออนแอร์ของตัวสื่อ
หลังปล่อยหนังสั้น “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” ลงช่องยูทูบ “Bangchak Official” ไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2566 ยอดวิวล่าสุดหลังผ่านมาหนึ่งวัน (24 ชม.) อยู่ที่ 1.6 แสนวิว
ภาคใหญ่ หลังก่อตั้งบริษัทมาครบ 40 ปี ในวันนี้ (9 พ.ย. 2566) บางจากฯ ตั้งเป้าสื่อสารแบรนด์ผ่านไอเดีย “Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด” สะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการรักษา ‘สมดุล’ ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นสมดุลระหว่างมูลค่าในการดำเนินธุรกิจ และคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมและสังคม สมดุลในการคำนึงถึงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและการกำกับดูแลกิจการอย่างมีความรับผิดชอบ

รักษาสมดุลระหว่างความท้าทายด้านพลังงาน และนำสมดุลธรรมชาติมาต่อยอด สรรค์สร้างสิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่รู้จบ ผ่าน 3 เสาหลัก (pillars)
ได้แก่ Regenerative Power สรรค์พลังใหม่ ๆ เพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืน และพลังงานสะอาด ไปจนถึงพลังที่เติมให้กับชีวิตผ่านเครื่องดื่มต่าง ๆ และพลังแห่งความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อร่วมบรรเทาวิกฤตสภาวะภูมิอากาศ
Regenerative Innovation สรรค์พลังแห่งนวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่สดใส ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยั่งยืน
Regenerative Life สรรค์พลังแห่งความสุขที่ยั่งยืนด้วยการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ให้ความสำคัญของการรักษาสมดุลระหว่างมูลค่าและคุณค่า บนรากฐานของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
อนึ่ง ปัจจุบัน บางจากฯ ดำเนินงานอยู่ใน 5 ธุรกิจหลัก
- กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
- กลุ่มธุรกิจการตลาด ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลายและนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัยให้กับผู้ใช้บริการ
- กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย บมจ. บีซีพีจี ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
- กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศและขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง
- กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และมีกลุ่มธุรกิจขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ ๆ (New Frontier Businesses) อาทิ ธุรกิจแพลตฟอร์มให้บริการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie และสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วยสร้างระบบนิเวศสำหรับนวัตกรรมสีเขียว
นอกจากนี้ ยังได้ก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทบางจากตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050
