ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง เปิดรายได้ 2566 กวาด 6,016 ล้านบาท กำไรสุทธิ 636 ล้านบาท ต่างประเทศยังโตได้อีกมาก เปิดพอร์ตใหม่ แย่งแชร์ตลาดเสริมอาหาร New S Curve ของ SNNP

คุณวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่าในปี 2566 สรุปตัวเลขกำไรสุทธิ 636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือ 23% สร้างสถิติสูงสุดใหม่  รายได้ 6,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 445  ล้านบาท หรือ 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนแบ่งเป็นรายได้ในประเทศ 4,392 ล้านบาท เติบโต 9% ขณะที่ต่างประเทศ 1,624 ล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากกลุ่ม Snack 57% และ Beverage 43%

สัดส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 73% ต่างแดน 27% โดยที่ CLMV ยังคงเป็นตลาดหลักที่ 74% ด้านตลาดเวียดนามที่บริษัททุ่มลงทุนในปีที่ผ่านมา โต 23% ซึ่งครึ่งหลังของปี 2566 เติบโตได้สูงสุด และปีนี้จะกลับมาเติบโตได้มากกว่า เฉพาะในเวียดนามบริษัทมี warehouse 30 แห่ง พาร์ทเนอร์ร้านค้า 150,000 ร้าน

สินค้าเรือธงยังคงเป็น เจเล่ ที่ครองอันดับหนึ่งในตลาดเจลลี่ ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 78% โตกว่าตลาด 21% และเบนโตะ ที่ครองแชมป์ในตลาดปลาแผ่น 72.4% เติบโต 5%

“ปี 2021ช่วงโรดโชว์ก่อนเข้าตลาด บริษัทได้ท้าทายตัวเองในการสร้างการเติบโตเท่าตัวแตะ 8,000 ล้านบาท ภายในปี 2026 ซึ่งหากพิจาณาจากการเติบโตในปัจจุบัน เป้าที่ตั้งไว้อาจทะลุไปได้มากกว่านั้น สู่การตั้งเป้าหมายใหม่ มากกว่า12,000 ล้าน ในอีกสี่ปี เพื่อเติบโตไปเป็นบริษัทระดับสากล”

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัว ตลาดขนบขบเคี้ยว 43,000 ล้านบาท มีบางเซกเมนต์ที่หยุดนิ่ง แต่โดยรวมโตเฉลี่ย 3-5%

บริษัทวางกลยุทธ์สำหรับขับเคลื่อนช่องทางการขายในประเทศ ไว้ดังนี้

  • พัฒนาโปรดักซ์ใหม่ ๆ เติมสินค้ากลุ่มพรีเมียมไปยังช่องทางโมเดิร์นเทรดมากขึ้น
  • ช่องทางการขายที่ต่างกัน กลุ่มโปรดักซ์ที่วางจำหน่ายก็จะต่างกันไปด้วย
  • ขยายช่องทาง Traditional Trade และ Wholesale
  • เพิ่มปริมาณสินค้าใน Traditional Tradeให้มากขึ้น

“จับโปรดักซ์กับช่องทางการขายมาเจอกัน เช่น สินค้าราคา 30 บาท ต้องขายตามร้านสะดวกซื้อเป็นหลัง ส่วนสินค้าระดับแมสวางจำหน่ายตาม Traditional Trade ด้านคีย์หนึ่งที่เป็นกุญแจสำหรับการบุกตลาดต่างประเทศ คือ บริษัทปรับสินค้าให้เข้ากับท้องถิ่นที่ไป คำนึงถึงราคาที่อยู่ในระดับตัดสินใจง่าย”  คุณวิโรจน์ กล่าว

ปีนี้สร้าง New S-Curve  เปิดพอร์ตสินค้าใหม่ รุกอาหารเสริม

ตลาดอาหารเสริมในไทยมูลค่าประมาณมีมูลค่ากว่า 8.7 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 10% แบ่งเป็นเซกเมนต์ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพแบบรวม 29% อาหารเสริมผิวพรรณความงาม 21% อาหารเสริมโปรตีน 19% และอื่นๆ

แต่อาหารเสริมที่ขายในสังคมออนไลน์ราคาค่อนข้างสูง เข้าถึงยาก ซึ่ง  SNNP ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ ใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทเข้าแข่งขัน ลงทุนพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบเยลลี่รสผลไม้สำหรับคนทุกช่วงวัย ภายใต้แบรนด์ “เจเล่ฟิตต์” ลงเล่นในตลาดอาหารเสริมที่เน้นคุณโยชน์สุขภาพโดยรวม ตั้งเป้า 3-5 ปี มีมาร์เก็ตแชร์ 3% ในตลาดนี้ New S Curve ของ SNNP

 

 

แบรนด์ในเครือ ศรีนานาพร

แบรนด์ Snack

-เบนโตะ (เรือธง) มาร์เก็ตแชร์ 72.4% ในตลาดปลาแผ่น

-โลตัส

-ดอกบัว

-ปลาเส้น

-Bakery house

-Biscuit house

-chocky

Beverage
-เจเล่ (เรือธง)  มาร์เก็ตแชร์ 78% ในตลาดเจลลี่-เมจิก ฟาร์ม-เจเล่ อควาวิตซ์วิตามิน มิเนอรัลวอเตอร์

บริษัทของเบนโตะ เจเล่ มีรายได้เท่าไหร่

บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP
ออกสินค้าใหม่กลุ่มอาหารเสริม ภายใต้แบรนด์ “เจเล่ฟิตต์”
ตลาดขนบขบเคี้ยวในไทย 43,000 ล้านบาท อัตราการเติบโต 3-5%
ตลาดอาหารเสริมในไทย 87,000 ล้านบาท อัตราการเติบโต 10%
  รายได้ กำไร
2564 4,358 437
2565 5,556 516
2566 6,016 636
โดยที่รายได้มาจากกลุ่ม Snack 57% และ Beverage 43%
ในประเทศ สัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 73%
ต่างประเทศ สัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 27% แบ่งเป็น CLMV 74% และประเทศอื่นๆ 26%
แบรนด์ที่ส่งออก

-เบนโตะ

-โลตัส

-chocky

-เจเล่

investor.snnp

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer