ลอรีอัล ปารีส สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน ผ่านการตั้งคำถามถึงนิยามของคุณค่าที่เราทุกคนคู่ควร

ผ่านไปแล้วกับงานอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี L’Oréal Paris Worth It” ที่ “ลอรีอัล ปารีส” ผู้นำด้านความงามระดับโลกสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ รวมคนบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไปจนถึงผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายสาขาอาชีพ และผู้เข้าร่วมงานกว่า 100 คน มาร่วมแสดงจุดยืนที่ชัดเจนถึง We’re Worth It คุณค่าที่เราทุกคนคู่ควร” เพื่อแสดงให้เห็นคุณค่าของความงามในทุกมิติ และมาร่วมเป็นกระบอกเสียงและชวนให้ทุกคนตั้งคำถามถึงนิยามคุณค่าในแบบของตัวเอง

ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1971 “ลอรีอัล ปารีส” ริเริ่มสร้างสรรค์ข้อความสุดไอคอนิกอย่าง “คุณค่าที่คุณคู่ควร” ในโฆษณาเป็นครั้งแรก เพื่อยกย่องคุณค่าและความงามในผู้หญิงทุกคน จนถึงวันนี้สโลแกนคุ้นหูถูกปรับให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น กลายมาเป็น We’re Worth It คุณค่าที่เราทุกคนคู่ควร” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนในสังคม ซึ่งมีความแตกต่างทั้งภูมิหลัง อาชีพ เพศ การศึกษา และวัย ให้มีความภูมิใจในคุณค่าของตัวเองอย่างถึงที่สุด

ในโอกาสนี้ Marketeer มีโอกาสได้พูดคุยกับ 4 ผู้บริหารคนเก่งจาก 4 องค์กรชั้นนำ ที่มาร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนเห็นคุณค่าในตัวเอง ผ่านประสบการณ์และมุมของแต่ละท่าน พร้อมร่วมให้นิยาม We’re Worth It คุณค่าที่เราทุกคนคู่ควร” ในมุมของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป

คุณสุกัญญา กิระวิทยา Brand General Manager – L’Oréal Paris Thailand ในฐานะผู้จัดงานอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี L’Oréal Paris Worth It” ในครั้งนี้ ได้กล่าวว่า การสานต่อแคมเปญ Worth It ในปีนี้ เพื่อให้ทุกคนที่มีความหลากหลายในสังคมได้ร่วมตั้งคำถามถึงนิยามคุณค่าที่เราทุกคนคู่ควร ในมุมมองของ ลอรีอัล ปารีส คือการที่ทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง เมื่อตระหนักถึงคุณค่าที่อยู่ภายใน ก็จะเป็นแรงผลักดันให้ไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้

“เราตั้งใจที่จะสร้างความรู้เกี่ยวกับ Worth It เพราะว่าเราพูดสิ่งนี้มานานมาก ๆ ซึ่งคำนี้มีความสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียทำให้คนฟังเสียงคนอื่นมากกว่าเสียงตัวเอง ดังนั้น ในบทบาทของแบรนด์บิวตี้ระดับโลก เราอยากให้คนมีความเชื่อมั่น มั่นใจในตัวเอง และ Empower ทุก ๆ คนให้รู้สึกว่า พลังของคุณไม่ได้มาจากสิ่งของ ไม่ใช่ภาพลักษณ์ภายนอก หรือมาจากเสียงของใครทั้งนั้น แต่ต้องมาจากตัวคุณเอง คุณต้องรู้จักคุณค่าของตัวเอง เราอยากให้คุณรู้ว่า ความสวยงามมันถูกดีไซน์ได้ด้วยตัวของคุณเอง”

คุณสุกัญญาเสริมว่า การจะสร้างคุณค่าในสังคมที่แตกต่างในปัจจุบันนั้น นับเป็นโจทย์ที่ท้าทาย อย่างไรก็ดี ลอรีอัล ปารีส พร้อมเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนในจุดนี้อย่างจริงจัง สะท้อนให้เห็นผ่านงาน L’Oréal Paris Worth It ในครั้งนี้ ที่เชิญบุคคลมากมายซึ่งมีความแตกต่างทั้งภูมิหลัง อาชีพ เพศ การศึกษา และวัย มาร่วมในงานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนในสังคม

ชัดเจนว่าวันนี้เราตั้งใจให้แตกต่าง เพราะนำคนที่เป็นมากกว่านักแสดงมาร่วมใน Walk Your Worth Show  โชว์พลังทั้งคนที่ประสบความสำเร็จในมุมที่หลากหลาย หรือในหลายช่วงวัย เช่น คุณแต๋ว อุษา ที่เพิ่งเดบิวต์แจ้งเกิดในวงการบันเทิงในวัยเกือบ 80 ปี จากการรับบท อาม่าเหม้งจู จากภาพยนตร์ หลานม่า หรือท่านอื่น ๆ ที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ทุกคนล้วนผ่านเสียงรอบข้างมามากมาย แต่ละคนมีเรื่องราวชีวิตที่แตกต่างกันไป

เราพยายามแสดงออกให้เห็นว่า ทุก ๆ เรื่องราวของแต่ละคนมีความหมาย ทุก ๆ เรื่องราวของทุกคนมีคุณค่า ไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องมีเรื่องราวเหมือนกันแล้วคุณถึงจะ Worth It ไม่จำเป็นต้องเป็นดารา ไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงโด่งดังแล้วถึงจะมีคุณค่า แต่ทุกคนทุกเรื่องราวของคุณล้วนมีคุณค่าทั้งสิ้น

ดังนั้น หลังจากนี้เราจะพยายามสื่อสารเรื่องนี้ออกไปให้เข้มข้นขึ้น และสรรหาคนที่มีความคิดว่า I’m Worth It เข้ามาในแคมเปญของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเราพยายามจะให้คนมาช่วยส่งต่อพลังให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะเชื่อว่ายิ่งคนมากขึ้นเท่าไรจะยิ่งส่งต่อพลังและความเชื่อนี้ไปยัง Next Generation นี่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ และจะยิ่งใหญ่ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ี่คือมิชชั่นของแบรนด์ เราอยากให้ Next Generation เชื่อมั่นในคำว่า ‘คุณค่าที่เราทุกคนคู่ควร’ ในแบบของตัวเอง วันนี้อาจจะยังมีคนที่ไม่ค่อยเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง แต่เราจะพยายามที่จะทำต่อ ๆ ไป เพื่อให้ Next Gen ในอีก 50 ปีข้างหน้าทุกคนจะรู้สึกเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองทั้งหมด

เชื่อว่าทุกคนที่ได้มาร่วมงานนี้หรือรับรู้เรื่องราวของงานครั้งนี้ จะได้รับรู้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ที่เราพยายามส่งไป ซึ่งเราอยากปลูกฝังความเชื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นถึงคุณค่าของตัวเองจากข้างใน ซึ่งก่อนที่เราจะส่งต่อให้คนอื่นได้ เราต้องเชื่อมั่นจากข้างในของตัวเราเองก่อน ซึ่งเราเชื่อว่าแบรนด์ระดับโลกอย่าง ลอรีอัล ปารีส มีศักยภาพและมีพลังพอที่จะขับเคลื่อนพลังเหล่านี้ไปให้กับทุกคนได้”

คุณวาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัทลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด ให้นิยามคุณค่าในแบบของตัวเองว่า

“โดยส่วนตัวเป็นคนที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นกับทุก ๆ โอกาส ทุก ๆ บทบาทที่ได้รับ ดังนั้น คำนี้น่าจะหมายถึงการที่เราเดินทางมาถึงเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยความมุ่งมั่น ความพยายาม และการไม่หยุดที่จะเรียนรู้ของเราเอง นี่คือคุณค่าที่สำคัญของตัวเรา

ดังนั้น จึงอยากเป็นหนึ่งเสียงที่สนับสนุนให้ทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง อยากจะสนับสนุนให้ทุกคนพร้อมที่จะเปิดรับโอกาส เปิดรับความท้าทายต่าง ๆ อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ เพื่อที่จะเติบโตและพร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ ในทุก ๆ วัน เพื่อสร้างคุณค่าในตัวของเราเอง”

คุณวาริสฐายังเสริมอีกว่า สำหรับลาซาด้า ประเทศไทย ให้ความสำคัญในคุณค่าของแต่ละคนเช่นกัน โดยเน้นย้ำกับพนักงานในองค์กรของเราเสมอถึงคุณค่าในงานที่ทุกคนทำ

“ในฐานะผู้บริหารองค์กรพยายามสนับสนุนความหลากหลาย เคารพความเป็นตัวตน และความคิดของทีมงานและพนักงานแต่ละคน เพราะทุกคน ทุกตำแหน่ง ทุกบทบาทมีคุณค่าในงานที่ทุกคนทำ ซึ่งนี่คือสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตและก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป และการเติบโตในงานที่ลาซาด้าทำนั้นมีส่วนสนับสนุนผู้ขายและ SME ไทยให้เติบโตอย่างมีคุณค่า และมีส่วนช่วยในการเติบโตของภาพรวมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยอีกทางหนึ่งด้วย”

คุณชนิดา วงศ์ธนาภักดี รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัทจีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด มาร่วมแชร์นิยามคุณค่าในแบบของตัวเองไว้ว่า

“แค่เรามีความสุขกับชีวิต มีความสุขกับทุกสิ่งที่ทำ นี่ก็คือคุณค่าแล้ว ฉะนั้นอะไรที่เราทำออกมามันมีคุณค่ากับชีวิตเราทั้งหมด ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหนในมุมของคนอื่น แต่สำหรับตัวเราแล้วมันมีคุณค่ามาก ๆ ถ้าผลออกมาดีก็ทำให้เราภูมิใจ และแม้จะผิดหวังบ้างแต่นั่นคือบทเรียนที่มีคุณค่าได้เช่นกัน ดังนั้น ในสิ่งที่เราคิดและเราได้ทำออกไปทุกอย่างมีคุณค่าทั้งสิ้น มันสอนอะไรเราได้หลากหลาย นี่แหละคุณค่าในตัวเรา”

คุณชนิดายังเสริมอีกว่า ด้วยปัจจัยรอบข้างมากมายทำให้ในปัจจุบันคนเรามักจะลืมว่าตัวเองมีคุณค่าแบบไหน และมักใช้คนอื่นเป็นต้นแบบ

“ซึ่งต้องขอบคุณ ลอรีอัล ปารีส ที่คิดแคมเปญนี้และสนับสนุนให้ทุกคนเห็นคุณค่าของตัวเอง เพราะทุกวันนี้คนชอบเลียนแบบคนอื่น ใช้คนอื่นมาตัดสินตัวเอง

ดังนั้น ถ้าเราสอนให้เขามองย้อนกลับมาที่ตัวเอง หาจุดดีของตัวเองให้เจอ และตั้งใจทำจากจุดดีนั้น ๆ เราจะมีความสุขกับทุกสิ่งที่ทำ คุณค่าของตัวเราเองจะออกมาให้เห็นจริง ๆ มั่นใจว่าทุกคนมีคุณค่าของตัวเอง ขอให้ทุกคนหาให้เจอ และเราจะมีความสุขกับชีวิตได้มากขึ้น ดังนั้น We’re Worth It คุณค่าที่เราทุกคนคู่ควรจึงเป็นประโยคที่แข็งแกร่งและทรงพลังมาก ๆ”

สำหรับนิยามคุณค่าในแบบของตัวเอง ของผู้บริหารท่านที่สี่ ได้แก่ คุณพิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

คำนี้คือคำที่มีพลังมาก เป็นคำที่ปลุกให้เราเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเราทุกคน ดังนั้น เราควรเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง และจงใช้ชีวิตให้เต็มที่เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเองยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขณะเดียวกัน เราต้องเชื่อมั่นว่าทุก ๆ คนก็มีคุณค่า เราจะได้เห็นคุณค่าของกันและกัน และจะทำให้ทุกคนใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุขและมีความหมายมากยิ่งขึ้น”

คุณพิมสิริเสริมว่า ภายในองค์กรของ เอส เอฟ ให้ความสำคัญเรื่องคุณค่าของแต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะทุกคนล้วนมีบทบาทสำคัญที่จะดูแลช่วงเวลาพิเศษให้กับลูกค้า เพื่อส่งต่อคุณค่าให้กันและกัน

จะบอกกับทีมงานเอส เอฟ เสมอว่า ไม่ว่าจะทำงานในตำแหน่งไหน จะเบื้องหน้า ณ โรงภาพยนตร์หรือทีมเบื้องหลัง ทุกคนล้วนมีบทบาทสำคัญที่จะดูแลช่วงเวลาพิเศษให้กับลูกค้า เพราะการดูหนังบางทีไม่ใช่แค่เพื่อบันเทิงอย่างเดียว

แต่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญหนึ่งในชีวิตใครบางคน อาจเป็นเดตแรกของเขา หรือการดูหนังครั้งแรกของลูก หรือบางทีเป็นการที่เขาได้มาฉลองกับเพื่อน หรือการพักผ่อนสำหรับเขา ซึ่งทั้งหมดล้วนมีความหมาย เป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับทุกคน ดังนั้น เราต้องรู้คุณค่าของสิ่งที่เราทำและทำให้เต็มที่ แม้บางทีตำแหน่งหน้าที่ที่ใครอาจจะมองว่าเป็นงานจุดเล็ก ๆ แต่ความจริงงานของทุกคนมีคุณค่าทั้งกับตัวเองและสำหรับคนอื่นมาก ๆ”

สุดท้าย คุณสุกัญญาได้แชร์นิยามของ “คุณค่าที่เราทุกคนคู่ควร” ในแบบของตัวเองไว้ว่า

“คุณค่าของตัวเรา เราต้องตัดสินเอง อย่าให้คนอื่นมาบอก เพราะนี่คือคุณค่าของเรา เราจะบอกตัวเองได้ว่าอันนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร แล้วเราจะได้รู้ว่าควรเดินทางไหนต่อ ทำอย่างไรต่อ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่น ๆ มาดีไซน์ ไม้บรรทัดของคนเราไม่เท่ากัน คุณค่าของตัวคุณอย่าไปใช้ไม้บรรทัดของใคร

นั่นคือความหมายว่าทำไมเรื่องราวของทุกคนถึงมีคุณค่า ทำไมทุกคนถึงคู่ควร เพราะนั่นคือตัวเราเอง บางทีการตัดสินใจของเราอาจจะไม่ได้ถูกใจใครต่อใคร แต่ขอให้ถูกสำหรับเรา เพราะเรารู้ว่าเราคู่ควรกับสิ่งที่เราตัดสินใจ แล้วเราก็จะไม่เสียใจ”

สามารถติดตามเส้นทางก้าวต่อไปของแคมเปญนี้ได้ที่ www.loreal-paris.co.th

#WORTHIT #LOREALPARISTH

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer