แอมเวย์ประเทศไทย ประกาศแผนงานปี 2024 ลอนช์แฟลกชิป 3 กลุ่มหลัก ขยายฐานคนรุ่นใหม่ ร่วมพันธมิตรดันตลาดขายตรงไทย 5.4 หมื่น ลบ. ฟื้นตัว รับวาระครบรอบใหญ่ พาสื่อมวลชนเยี่ยมชม ‘ศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แอมเวย์’ รากฐานความแข็งแกร่ง 90 ปี แบรนด์นิวทริไลท์

คุณทศพร นิษฐานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2024 แอมเวย์บริษัทแม่ (สหรัฐอเมริกา) มีอายุครบ 65 ปี ประเทศไทย 37 ปี ขณะที่ ‘นิวทริไลท์ (Nutrilite)’ ผลิตภัณฑ์หลักที่เกิดขึ้นก่อนแอมเวย์ ครบ 90 ปี

โดยนิวทริไลท์ แบรนด์วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มียอดขายอันดับ 1 ของไทยและของโลก จากการรับรองของ GlobalData ที่สร้างสุขภาพและสุขภาวะที่ดีให้หลายล้านคนทั่วโลก ผ่านแนวคิดและปรัชญาของแบรนด์ ‘ดีที่สุดจากธรรมชาติ ดีที่สุดจากวิทยาศาสตร์’ (Best of Nature, Best of Science) สู่สุขภาพสมบูรณ์สูงสุด

และเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่เพาะปลูก เก็บเกี่ยว และมีกระบวนการผลิตด้วยระบบ ‘ฟาร์มออแกนิก (Organic Farming)’ ที่ผ่านการรับรองจาก Euromonitor International โดยแอมเวย์เป็นเจ้าของฟาร์มออแกนิก 4 แห่งใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, บราซิล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15,000 ไร่

ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชเพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมชั้นเยี่ยมในผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์ที่สามารถ ‘ตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)’ ได้ ซึ่งนิวทริไลท์มุ่งมั่นในการติดตามทุกกระบวนการของส่วนผสมจากเมล็ดพันธุ์จนถึงการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้มาตรฐาน

ผสานองค์ความรู้และการพัฒนา ‘ด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม (Science & Innovation)’ ซึ่งนิวทริไลท์ได้รับสิทธิบัตรด้านโภชนาการมากกว่า 150 ฉบับ ที่เกิดจากการทำงานอย่างทุ่มเทของนักวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมากกว่า 800 คน และยังคงมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ ต่อไป

โดย ‘ศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แอมเวย์ (Amway Botanical Research Center)’ หรือศูนย์ ABRC นับเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของนิวทริไลท์ ซึ่งก่อสร้างขึ้นในปี 2013 มีพื้นที่ 298 ไร่ มูลค่าเงินลงทุนสร้าง 25 ล้านดอลลาร์ ตั้งอยู่ที่เมืองอู๋ซี สาธารณรัฐประชาชนจีน

ศูนย์ ABRC ทำการศึกษาและพัฒนาพฤกษศาสตร์การทำฟาร์มสมุนไพรจีนออแกนิกแห่งแรกของโลก ภายใต้การศึกษาพันธุ์พืชที่ใส่ใจทุกกระบวนการอย่างพิถีพิถัน ผนวกความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดพันธุ์ พื้นที่เพาะปลูก และวิธีปฏิบัติในการปลูกพืชสมุนไพรที่ดีที่สุด ซึ่งตรงกับมาตรฐานสูงสุดของการทำฟาร์มออแกนิก และเป็นมาตรฐานเดียวกับฟาร์มออแกนิกของแอมเวย์ในสหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, บราซิล

โดยศูนย์ ABRC เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถ่ายทอดจากปรัชญาของ ‘คาร์ล เรห์นบอร์ก’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์นิวทริไลท์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะจุดเริ่มต้นของ นิวทริไลท์ เริ่มต้นที่ประเทศจีน จากการเข้ามาทำงานที่ประเทศดังกล่าวของคาร์ล และมองเห็นโอกาสการทำธุรกิจจากผู้คนในพื้นที่ ก่อนกลับไปเริ่มต้นเส้นทางนิวทริไลท์ ณ ประเทศบ้านเกิดที่สหรัฐอเมริกา

‘แอมเวย์ประเทศไทย’ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์นิวทริไลท์ที่มีสมุนไพรจีนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยศูนย์ ABRC ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพในหลากหลายมิติ

ได้แก่ ‘นิวทริไลท์ คอลลาเจน (Collagen)’ ประกอบด้วยสารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาว ‘นิวทริไลท์ เฮอร์บัล มิกซ์ (Herbal Mix)’ ประกอบด้วยสารสกัดจากชะเอมเทศและขมิ้นชัน ‘นิวทริไลท์ จูจูบี ไนท์ (Jujube Nite)’ ประกอบด้วยสารสกัดจากเมล็ดพุทราจีน

‘นิวทริไลท์ หลินจือ เฮอร์บัล พลัส (Lingzhi Herbal Plus)’ ประกอบด้วยสารสกัดจากเห็ดหลินจือ ‘นิวทริไลท์ ซิสแทนเช (Cistanche)’ ประกอบด้วยสารสกัดจากซิสแทนเชหรือโสมทะเลทราย

และในปลายเดือน มิ.ย. 2024 จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘นิวทริไลท์ ลิวิท็อกซ์ (Livitox)’ ที่ประกอบด้วยสารสกัดจากบรอกโคลี ชะเอมเทศ และเมล็ดองุ่น เพื่อให้คนไทยได้ดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร

ภาพรวมการดำเนินงานของแอมเวย์ประเทศไทย หลังเข้าสู่ขวบปีที่ 37 คุณทศพรเล่าว่า ปี 2024 แอมเวย์ กำลังอยู่ในก้าวต่อไปที่น่าตื่นเต้น หลังบริษัทผ่านช่วงวิกฤตโรคระบาดมาเรียบร้อยแล้ว โดยได้เรียนรู้และปรับตัวในช่วงดังกล่าวมาตลอด 3-4 ปี

ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเครื่องมือการตลาดทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านการลงทุนในระยะยาว 1,000 ล้านบาท พัฒนาการทำธุรกิจ พัฒนา Website, Application ‘Amway Click’, Line และ Big Data เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น สะดวกขึ้น รวมถึงการสร้างแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Live streaming

ปัจจุบันแอมเวย์ประเทศไทยมีสมาชิกตัวแทนจำหน่าย 330,000 ราย และสมาชิกผู้ใช้สินค้า 720,000 ราย หรือประมาณ 1,050,000 คน สัดส่วนยอดขายมาจากออนไลน์ 56%

บริษัทมุ่งอัปสกิลนักธุรกิจผ่านโครงการ Amway Creator เป็นการฝึกให้นักธุรกิจแอมเวย์มีความทันสมัย เป็นแอมเวย์ ครีเอเตอร์ ครีเอตคอนเทนต์ได้ สามารถสร้าง Personal branding ผ่านโซเชียลแพลตฟอร์มส่วนตัว และโพสต์สินค้าที่ถูกต้อง ถูกกฎ ไม่ผิดจรรยาบรรณ ไม่โอเวอร์เคลม

ตลาดธุรกิจขายตรงไทย ปี 2023 มูลค่า 56,400 ล้านบาท หดตัว -6% และชะลอตัวลงประมาณ 2-3 ปีติดต่อกัน แอมเวย์ในฐานะผู้นำตลาดก็ต้องร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างภาพลักษณ์ตลาดให้น่าดึงดูดสำหรับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม สร้างโซลูชั่นด้านการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของธุรกิจขายตรง

บริษัทมองว่าอนาคตของธุรกิจขายตรง คือคนรุ่นใหม่ อย่างของแอมเวย์ เจเนอเรชั่น วาย (อายุ 27-41 ปี) และ เจนฯ ซี (อายุ 12-26 ปี) ซึ่งปัจจุบันทั้งนักธุรกิจและสมาชิกแอมเวย์มีคนกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 45%

และเชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะต้องเพิ่มขึ้น อาทิ ผ่านการปรับตัวโปรดักต์ต่าง ๆ ให้มีความโมเดิร์น อย่าง ‘N* by Nutrilite (เอ็น* บาย นิวทริไลท์)’ เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยราคาหลักร้อย ดีไซน์แพ็กเกจที่ชวนโพสต์เพื่อสร้างอิมแพ็กบนโซเชียลมีเดีย

ขณะที่อัตราเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัท 15-20 ตัว เป็นแฟลกชิปปีละ 1-2 ตัว รวมสินค้าทุกหมวดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ 250 รายการ วางงบการตลาดตัวแฟลกชิปโปรเจกต์ละ 100-200 ล้านบาท

หากแบ่งสินค้าตามสัดส่วนยอดขายปี 2023 กลุ่มอาหารเสริม 68%, เครื่องสำอาง และเพอร์เซอนัลแคร์ 15%, เครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองอากาศ 11%, อื่น ๆ 6%

ยอดขายแอมเวย์ 5 อันดับแรกจากกว่า 100 ประเทศที่ทำตลาดอยู่ทั่วโลก จีน, สหรัฐอเมริกา (บริษัทแม่), เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ไทย โดยปี 2024 แอมเวย์ประเทศไทยมีแฟลกชิป ได้แก่

นิวทริไลท์ ลิวิท็อกซ์, จีแอนด์เอช กู๊ดเนส แอนด์ เฮลท์, เครื่องกรองน้ำ อีสปริง รุ่นใหม่ เป็นโปรดักต์หลัก ๆ ที่จะขับเคลื่อนยอดขายบริษัทให้เติบโตซิงเกิลดิจิตจากยอดขาย 18,000 ล้านบาทเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา

แผนระยะยาว บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท ในปี 2029 ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 70 ปี การก่อตั้งกิจการแอมเวย์ในสหรัฐอเมริกาในปี 1959

Marketeer FYI

นับตั้งแต่ปี 2016 ศูนย์ ABRC มีโอกาสต้อนรับผู้มาเยี่ยมชมจากทั่วทุกมุมโลกแล้วกว่า 1 แสนคน ประกอบด้วย นักธุรกิจแอมเวย์ทั่วโลก เจ้าหน้าที่จากภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนสื่อมวลชน

ถือเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาหรือก้าวเข้าสู่โปรแกรมต่าง ๆ ด้านสุขภาพและสุขภาวะ โดยวันที่ 12 มิ.ย. 2024 ที่ผ่านมา แอมเวย์ประเทศไทยได้พาสื่อมวลชนจากไทยเดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์ ABRC และประกาศแผนงานประจำปี 2024 พร้อมกัน



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online