ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น เปิดโรดแมปโมเดลขยายตัวแทนจำหน่าย ล่าสุด จับมือ อุบลไอเฟค บุกลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พูดถึง “ตลาดเครื่องพิมพ์สำนักงานประเทศไทย” ในปัจจุบันนั้นกลับมาเติบโตอีกครั้ง และยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย ทำให้ผู้เล่นต่างต้องปรับกลยุทธ์รุกตลาดใหม่เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์และการเปลี่ยนแปลง
หนึ่งใน Movement ที่น่าสนใจคือ การปรับตัวครั้งใหญ่ของผู้เล่นรายสำคัญอย่าง “ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น” กับการปรับกลยุทธ์การตลาดและการขาย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายตลาดธุรกิจเครื่องพิมพ์สำนักงานให้ครอบคลุมไปในปีที่ผ่านมา ในโครงการ “Channel Transfer Project” หรือ CTP Project
โดยเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรายแรกอย่าง “บริษัท เอส.เค. โอเอ เซ็นเตอร์ จำกัด” ดูแลกลุ่มลูกค้าในเขตภาคเหนือและภาคกลางรวม 20 จังหวัด ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาผลลัพธ์ของโครงการเป็นไปในทิศทางบวก ทั้งในมิติของลูกค้า End user, ความร่วมมือของ Business Partner และผลงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย ในปี 2024 นี้ ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น จึงเดินหน้าสานต่อ “CTP Project”

FUJIFILM 2024 Direction : Co-Operation ร่วมแรงร่วมใจ เติบโตและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
ล่าสุดกับการแต่งตั้ง “อุบลไอเฟค” เป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย ผลิตภัณฑ์ของฟูจิฟิล์มแบบครบวงจรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ภายใต้แนวคิด “Co-Operation : Work Together, Grow Together, Success Together”
มร. มาซาอากิ ยานากิย่า ประธานบริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์มดำเนินธุรกิจด้วยการบริหารจัดการและดูแลลูกค้าโดยตรง (Direct Operation) แต่ด้วยสถานการณ์ตลาดเปลี่ยน ความต้องการของลูกค้ามีความแตกต่างและซับซ้อนมากขึ้น เราเองก็ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์เช่นกัน
“สำหรับ FY2024 Corporate Direction ของเราคือ Co-operation หมายถึงการทำงานร่วมกับ Business Partner ทั่วประเทศ ที่มีจุดแข็งอย่างการเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฟูจิฟิล์ม ขยายตลาดธุรกิจเครื่องพิมพ์สำนักงานให้ครอบคลุม และสร้างการเติบโตกับ Business Partner ไปพร้อม ๆ กัน”

มร. มาซาอากิ ยังกล่าวอีกว่า “อย่างที่ทราบกันดีว่าฟูจิฟิล์มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยแบบ Direct Operation มานานกว่า 50 ปี ความท้าทายในการทรานส์ฟอร์มครั้งนี้คือ การรักษาสมดุล ทั้งมาตรฐานการให้บริการ และการดูแล End-user หรือการส่งต่อ Knowledge, Know-How ตลอดจนส่งต่อ Successor ให้กับพาร์ตเนอร์ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของฟูจิฟิล์ม”
เมื่อถามถึง Key Success สำคัญที่ทำให้โครงการ “CTP Project” ประสบความสำเร็จ มร. มาซาอากิ อธิบายว่ามาจาก 2 ส่วน นั่นคือ
- ทีมซัปพอร์ตที่แข็งแกร่งในตลาดธุรกิจเครื่องพิมพ์สำนักงาน (MFD) ที่สินค้ามีความใกล้เคียงกัน หนึ่งในหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้จึงเป็น “บริการหลังการขาย” ซึ่งเป็นจุดแข็งของฟูจิฟิล์มมาตลอด 50 ปี เรามีหน่วยงานกลางอย่าง Technician Development Center (TDC) สถาบันที่สอนและพัฒนาทักษะช่างและผู้เชี่ยวชาญของฟูจิฟิล์ม เรานำเอาโมเดล Develop Team Service ที่มีไปพัฒนาทีมช่างของพาร์ตเนอร์ให้มีความเชี่ยวชาญและมีมาตรฐานเดียวกันกับเรา พร้อมกับคอย Reskill อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้งานบริการหลังการขายยังคงคุณภาพมาตรฐานตามที่บริษัทกำหนด ถัดมาคือ การขาย ที่มีหลักสูตรพัฒนาทีมขายภายในด้วยเช่นกัน ซึ่งเราเองก็ถ่ายทอดความรู้ How to ให้กับทีมขายของพาร์ตเนอร์เช่นกัน
- ความเชื่อใจ (Trust) การ Collaboration ครั้งแรกด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ Trust ระหว่างฟูจิฟิล์มและพาร์ตเนอร์จึงเป็นเรื่องสำคัญ ยกตัวอย่างการส่งช่างหรือเซลส์มาเทรนนิ่ง 1 เดือน หมายความว่าพาร์ตเนอร์จะต้องเสียบุคลากรไป 1 เดือนเต็ม หรือการลงทุนในการสร้าง Brand Positioning ใหม่เพื่อความน่าเชื่อถือ เหล่านี้คือความเชื่อมั่นในกันและกัน

Marketeer ได้มีโอกาสพูดคุย กับ 2 ผู้บริหารของฟูจิฟิล์มฯ หัวเรือใหญ่ของ CTP Project
แนวทางในการพัฒนาศักยภาพด้านงานบริการของพาร์ตเนอร์ คุณทศพร สอนประดิษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่าย Customer service and support ในฐานะแม่ทัพใหญ่ของฝ่ายบริการฟูจิฟิล์มฯ ผู้คร่ำหวอดในงานบริการของธุรกิจนี้มากกว่า 30 ปี อธิบายไว้ว่า
“เป้าหมายของเรา คือการถ่ายทอดทักษะในทุก ๆ ด้าน ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill หรือ จะเรียกว่า คือการถ่ายทอด DNA มาตรฐานการบริการของฟูจิฟิล์มฯ ส่งต่อไปยังพาร์ตเนอร์ของเรา นอกจาก Training course ที่เข้มข้นกว่า 1 เดือนเต็มแล้ว
“เรายังจัดให้ช่างของฟูจิฟิล์มฯ ออกไปทำงานเป็นคู่ Buddy แบบ On the job training กับพาร์ตเนอร์เพื่อเรียนรู้การรับมือกับสถานการณ์จริง รวมทั้งเรายังมีระบบการ Escalation เพื่อให้คำปรึกษาจากสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ และต่างประเทศอีกด้วย”
สำหรับเกณฑ์ในการเลือกพาร์ตเนอร์ คุณสุจริต จันทกูล General Manager; Corporate Planning ในฐานะ Project Leader กล่าวว่า
“อย่างที่บอกว่าหัวใจหลักของธุรกิจนี้คือ บริการหลังการขาย ดังนั้น SLA Service Level ที่เราเคยให้ไว้กับลูกค้า End-User จะต้องคงเดิม เพราะฉะนั้นผู้ที่จะมาเป็นพาร์ตเนอร์เราได้จะต้องมีความสามารถในการส่งมอบบริการหลังการขายได้ในมาตรฐานเดียวกันกับฟูจิฟิล์มฯ”
นอกจากนี้ 3 ข้อสำคัญของเกณฑ์การคัดเลือกพาร์ตเนอร์ของฟูจิฟิล์มคือ
- ประสบการณ์ในธุรกิจอุตสาหกรรม (Long Experience) เราต้องการความเชี่ยวชาญในตลาด ความใกล้ชิดกับลูกค้าในพื้นที่
- ความพร้อมในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในด้านการเงิน เวลา หรือเรื่องคน
- Business Direction และ Vision ของพาร์ตเนอร์จะต้องไปในทิศทางเดียวกับเรา ต้องมองมุมเดียวกันและเห็นเป้าหมายเดียวกัน
คุณสุจริตยังกล่าวอีกว่า แผนกลยุทธ์โครงการ “CTP Project” ฟูจิฟิล์มวางโรดแมปโครงการไว้ว่าจะมีการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ครบทุกภาค โดยไทม์ไลน์การพูดคุยเจรจาเปิดตัวพาร์ตเนอร์และให้บริการครบทุกภาคคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568
Same Vision Same Direction
เมื่อถามว่าการขยายตลาดไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ “CTP Project” ทำไมถึงต้องเป็น “อุบลไอเฟค”
คุณสุจริต ให้คำตอบว่า “อุบลไอเฟค” เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมานาน มีความรู้และความเชี่ยวชาญเรื่องตลาดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและยังทำงานร่วมกันมานาน อีกทั้งยังมี Vision และ Mission ที่สอดคล้องและไปในทิศทางเดียวกันกับฟูจิฟิล์มฯ เป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลือกอุบลไอเฟคเป็นพาร์ตเนอร์


ด้าน คุณกฤช ตริยางกูรศรี กรรมการผู้จัดการ อุบลไอเฟค กล่าวว่า อุบลไอเฟคก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2529 หรือ 38 ปีก่อน เราอยู่ใน Printing Industry มาโดยตลอด เริ่มต้นจากจังหวัดอุบลราชธานีและค่อย ๆ ขยายตลาดไปในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เปลี่ยน Business Model ในการขายตามเทรนด์และการเปลี่ยนแปลงของตลาดจนตกผลึกมาเป็นอุบลไอเฟคในปัจจุบันที่ให้บริการครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
กฤช เป็นทายาทรุ่น 2 ที่เข้ามาบริหารธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็น “ความยั่งยืนในการทำธุรกิจ” เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ของฟูจิฟิล์มในครั้งนี้
“เรารู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนธุรกิจแบบครบวงจรของฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น โดยครอบคลุมทั้งการจัดจำหน่ายและการให้บริการหลังการขาย ด้วยสินค้าและบริการที่มีมาตรฐานระดับสากลที่จะส่งต่อไปยังลูกค้าของเรา ส่งผลให้ธุรกิจของอุบลไอเฟคแข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้น”
กฤชบอกว่าความท้าทายในความร่วมมือครั้งนี้คือ เรื่องการอัปเกรดมาตรฐานในด้านต่าง ๆ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับ ฟูจิฟิล์ม ซึ่งเป็นความท้าทายที่เขามั่นใจว่าทำได้ และนั่นจะทำให้เขาสามารถมอบ Value ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ต่อยอดไปสู่ Brand Loyalty และความยั่งยืนของธุรกิจ รวมถึงเป็นเบอร์ 1 ของ Printing Industry ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

ปัจจุบันฟูจิฟิล์มมีเครือข่ายตัวแทนแบบครบวงจรครอบคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวม 30 จังหวัด และเมื่อเสร็จสิ้น CTP Project จะมีเครือข่ายการขายและการบริการครอบคลุมตลาดทั่วประเทศ นั่นจะทำให้ฟูจิฟิล์มแข็งแกร่งและเติบโตไปพร้อม ๆ พาร์ตเนอร์ตามกลยุทธ์ “Co-Operation: Work Together, Grow Together, Success Together”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
