Trend/นอกเหนือไปจากการลุ้นว่านักวิ่งชายและหญิงคนใดจะวิ่งได้เร็วสุดจนคว้าเหรียญและทำลายสถิติโลกในการวิ่งแต่ละประเภทแล้ว ยังมีอีกประเด็นที่น่าสนใจในการวิ่งชิงแชมป์โลกและโอลิมปิกครั้งหลัง ๆ มานี้

นั่นคือ การทำเล็บของนักวิ่งแต่ละคน ซึ่งมีทั้งแบบเบา ๆ ที่แค่ทำสีเป็นลายธงชาติ ไปจนถึงเล่นใหญ่ ต่อเล็บที่แต่งลวดลายสะดุดตาและยาวออกมา

เทรนด์แฟชั่นดังกล่าวยังกระจายไปถึงนักวิ่งชายที่แต่งตัวจัด รวมไปถึงนักยิมนาสติกอีกด้วย และเพราะความฮิตในการแต่งเล็บเป็นรูปแบบต่าง ๆ นี่เองถึงขนาดมีร้านทำเล็บในหมู่บ้านนักกีฬากันเลยทีเดียว
เหตุผลที่นักวิ่งพากันหันมาทำเล็บมากขึ้น เพราะอยากแสดงออกและแสดงตัวตนระหว่างแข่งหรือลงสนาม ซึ่งในทางจิตวิทยาการกีฬาแล้วสามารถกระตุ้นความมั่นใจได้ และช่วยให้ทำผลงานได้ดีขึ้น

แบบเดียวกับการใส่รองเท้าคู่ใหม่ หรืออุปกรณ์การแข่งขันที่ปรับแต่งหรือตกแต่งให้เหมาะกับนักกีฬาแต่ละคนนั่นเอง ซึ่งต่างจากในอดีตที่เรื่องเหล่านี้เคยเป็นเรื่องต้องห้าม
เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้นักกีฬาไปเน้นแต่งตัวมากกว่า แทนที่จะมีสมาธิกับการฝึกซ้อมเพื่อให้ผลการแข่งขันออกมาดีที่สุด
ชาคาร์รี่ ริชาร์ดสัน
นักวิ่งในโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งนำเทรนด์ทำเล็บคือ ชาคาร์รี่ ริชาร์ดสัน นักวิ่งหญิงทีมชาติสหรัฐฯ ที่ต่อเล็บทั้ง 10 นิ้วลงแข่งทุกรอบไปจนถึงรอบชิงวิ่ง 200 เมตร ที่เธอคว้าเหรียญทองไป
โนอาห์ ไลย์ส
โนอาห์ ไลย์ส นักวิ่งชายทีมชาติสหรัฐฯ คนดัง สุนิสา ลี และ ซิโมน ไบล์ส นักยิมนาสติกหญิงทีมชาติสหรัฐฯ ที่ต่างก็คว้าเหรียญทองในโอลิมปิก 2024
สุนิสา ลี
เทรนด์นี้ยังกระจายไปถึงนักกีฬาทีมชาติอื่น เช่น ซาร่า บัลเซ่ร์ นักฟันดาบหญิงทีมชาติฝรั่งเศส ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการที่ฉีกกฎการเตรียมตัวและต่างจากนักกีฬาในอดีต เทรนด์นี้จึงเผชิญการวิจารณ์และการเตือนว่า อาจไปทำให้ผลงานของนักกีฬาแย่ลง
สื่ออังกฤษที่สังเกตเห็นเทรนด์นี้และนำมาตีแผ่ รายงานอ้างจากบรรดานักกีฬาและช่างทำเล็บว่า นักกีฬาทุกคนที่ทำเล็บ-ต่อเล็บ ได้ปรึกษากับโค้ชแล้ว และรู้ขีดจำกัดว่าทำได้แค่ไหน
เช่น ชาคาร์รี่ ริชาร์ดสัน ที่ในบางครั้งก็ไม่ต่อเล็บยาวเกินไป หากกลัวว่าจะทำให้ผูกเชือกรองเท้าวิ่งยากขึ้น
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า นักกีฬาส่วนใหญ่ที่ต่อเล็บและแต่งตัวจัดเป็นนักวิ่งผิวดำ ซึ่งเมื่อสืบย้อนไปก็พบว่า การต่อเล็บให้ยาวถือเป็นการแต่งตัวรูปแบบหนึ่งของชาวอเมริกันผิวดำ
และย้อนไปช่วงยุค 80 เทรนด์แต่งตัวจัด ทาเล็บหรือต่อเล็บให้ยาวก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในโอลิมปิก ซึ่งผู้ที่นำเทรนด์คือ ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ จอยเนอร์ นักวิ่งหญิงผู้ล่วงลับอดีตเจ้าของสถิติโลกชาวอเมริกัน
ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ จอยเนอร์
และบรรดานักกีฬาชาวอเมริกันที่ทาเล็บต่อเล็บและแต่งตัวจัดในปัจจุบันก็เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง และพร้อมสู้กับกระแสวิจารณ์เรื่องการแต่งตัว
เช่น ชาคาร์รี่ ริชาร์ดสัน ที่นิยามตัวเองว่า ขอเป็นผู้หญิงวิ่งเร็วสุด สวยสุด ดูแพงสุด และแต่งตัวจัดสุด ๆ แบบรถเบนท์ลี่
ซิโมน ไบล์ส
ขณะที่ ซิโมน ไบล์ส แม้โอลิมปิกครั้งก่อนเคยเจ็บกับกระแสวิจารณ์ ซึ่งส่งผลให้คุมร่างกายไม่ได้ดั่งใจและต้องถอนตัวจากการแข่งบางรายการ แต่คราวนี้เธอแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยหลังถูกวิจารณ์เรื่องทรงผม เธอก็แคปภาพหน้าจอ และถ่ายรูปตัวเองกับภาพโพสต์นั้น แล้วโพสต์ข้อความตอบโต้ว่า อย่ามาก่อกวนสาวผิวดำ ถ้าทำอีกคราวหน้าเจอหนักกว่านี้/theguardian
–
