Life/ในชีวิตทุกคนต้องทั้งสุขและทุกข์ โดยเมื่อเจอกับอย่างหลังเข้าคนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกมากกว่าปกติ ตามสำนวนไทยในปัจจุบันที่ว่าเกินเบอร์นั่นเอง
สาเหตุที่คนเรามีอารมณ์ร่วมกับความทุกข์มากกว่า เพราะมันฉุดให้ความหวังริบหรี่ลงไป นำมาสู่อาการกลัวความไม่แน่นอนและความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้น และถึงขั้นมองทางลบว่าจะมีเรื่องร้าย ๆ ตามมาอีก
Rebecka Homkes ผู้เขียน Survive, Reset, Thrive หนังสือแนวจิตวิทยาที่บอกเคล็ดลับในการฝ่าปัญหา สถานการณ์ความไม่แน่นอน และความผิดหวังต่าง ๆ ให้ทัศนะว่า
วิกฤตและความไม่แน่นอน ไม่ต่างจากหมอกร้ายที่ปิดกั้นความคิดและมุมมอง ซ้ำร้ายยังทำให้เราดูดซับแต่เรื่องร้าย ๆ จนสะกดจิตตัวเองให้ไม่เป็นอันทำอะไร
และความคิดตีบตัน จนเป็นตัวเราเองนั่นแหละที่ทำให้เรื่องเลวร้ายหรือความผิดหวังเกิดขึ้นมาจริง ๆ Rebecka Homkes เสนอวิธีแก้ไขสถานการณ์ไว้อย่างน่าสนใจ และสามารถนำไปใช้จริงอีกด้วย
ปรับเลนส์ตาใหม่: อันดับแรกที่ควรเร่งทำทุกครั้งเมื่อเจอสถานการณ์ไม่คาดฝัน พลิกผันหรือวิกฤต และความผิดหวังคือ ปรับความคิดตัวคุณเองก่อน ด้วยการเอาคำไม่แน่นอน หรือสถานการณ์ต้องแย่ลงอีกแน่ ๆ ออกไปจากความคิด เพราะในความเป็นจริงแล้วมันจะออกได้ทั้ง 2 หน้า และโอกาสที่สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นได้ก็มีเช่นกัน แล้วตั้งต้นใหม่จากตรงนั้น
การปรับความคิด มองในมุมบวกไว้ก่อน แต่ก็ไม่ประมาท ยังเป็นการสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ใช้การเชื่อมต่อจุด: วิธีต่อมาในการรับมือกับความไม่แน่นอนและความผิดหวังที่ Rebecka Homkes แนะนำคือการมองภาพใหญ่ว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น จากนั้นกลับมาดูตัวเองว่า มีจุดแข็งและทักษะ

ทั้ง Soft skill และ Hard skill อะไรบ้างที่สามารถนำมาใช้ได้ ส่วนถ้าจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็ให้เอ่ยปากไปเลย แล้วทยอยใช้ความเป็นไปได้ต่าง ๆ แก้ไขปัญหา และกู้สถานการณ์ ซึ่งก็คือการเชื่อมต่อจุดจนสำเร็จเป็นภาพใหญ่ได้ที่สุด โดย Rebecka Homkes กล่าวว่า “เราจะสามารถรับมือทุกความไม่แน่นอนได้ ถ้าใช้ทุกอย่างที่มีและความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหา”
จี้ที่สะดุดและจุดไฟให้ติด: อีกวิธีที่สามารถนำไปใช้รับมือกับความไม่แน่นอนและความผิดหวังได้เช่นกันคือ มองจุดอ่อน-จุดตาย และจุดแข็ง-จุดคลิกของตัวเองที่ Rebecka Homkes ใช้คำว่า Killer และ Kicker
เพราะถ้าคุณรู้ Killer ก็ย่อมหาทางกันไม่ให้พลาดอีก หรือถ้าพลาดก็หาทางแก้ได้ไว ส่วน Kicker ถ้ารู้จะจับทางลมได้เมื่อสถานการณ์พลิกมาเข้าทาง และเร่งนำสรรพกำลังทุกอย่างมาพาให้ถึงเป้าหมายได้เร็วที่สุด
เปิดสวิตช์ 3 ข้อบนอีกครั้ง: ส่วนวิธีสุดท้าย คือการนำทั้ง 3 วิธีก่อนหน้ากลับมาใช้ โดยสามารถใช้แยกกันขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่เจอ และทุกครั้งต้องเรียกสติกลับมาให้ได้โดยเร็ว
เดินหน้าจัดการปัญหา และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อยู่เสมอ แต่ก็ไม่มองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป
Rebecka Homkes ทิ้งท้ายว่า ควรย้ำเตือนตัวเองและทีมงานให้ตระหนักไว้เสมอว่า ความไม่แน่นอนเป็นเรื่องของอนาคต และเรื่องร้ายหรือดีก็สามารถเกิดขึ้นได้พอ ๆ กันแบบ 50/50
ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาขึ้นควรคิดให้รอบคอบว่าจะจัดการอย่างไร ต้องใช้อะไรบ้างในการกู้สถานการณ์ และไม่ควรลืมให้กำลังใจตัวเองกับทีมงานทุกครั้งที่เกิดปัญหา
ส่วนสิ่งที่ควรเลี่ยงเลยคือโทษว่าเป็นความผิดของคนใดคนหนึ่ง เพราะเป็นการบั่นทอนกำลังใจ ซึ่งจะส่งผลต่อกำลังใจและทำให้พลิกวิกฤตได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น/fastcompany
–
