Trend/เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางอาหาร เห็นได้จากมีทั้งเมนูเส้น อย่าง รามยอนและจับแช เมนูต้มรสชาติจัดจ้าน อย่าง บูเดจิแก หรือหมูย่างอันขึ้นชื่อ และเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ในทุกมื้ออย่างกิมจิ
นอกจากนี้ ยังมีคิมบับ ข้าวห่อสาหร่ายชิ้นโต ที่ชาวเกาหลีใต้คุ้นเคย และแฟน ๆ คอนเทนต์เกาหลีใต้รู้จักดี แต่ปีนี้มีเรื่องให้ชาวเกาหลีใต้ต้องคิดหนักทุกครั้งเมื่อจะซื้อเมนูหลังสุดมากิน ซึ่งกระทบเป็นระบบและยังเป็นเกณฑ์วัดค่าครองชีพได้อีกด้วย

สื่อเกาหลีใต้รายงานอิงข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลว่า ราคาคิมบับเฉลี่ยในปี 2024 อยู่ที่ 3,485 วอน (ราว 86 บาท) ต่อท่อน ขึ้นมา 8.4% จากปี 2023 อันเป็นผลจากราคาวัตถุดิบทุกอย่าง ไล่ตั้งแต่ข้าว สาหร่ายอบแห้ง ไปถึงแตงกวาที่หาได้ในประเทศแพงขึ้น
ขณะที่ หญ้าเจ้าชู้ ซึ่งต้องนำเข้าจากจีนก็แพงขึ้นเช่นกัน ทำให้ทุกร้านไล่ตั้งแต่ร้านของชำ ร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงเชนอาหารจานด่วนที่ขายคิมบับ ก็ต้องขึ้นราคาตามไปด้วย
ส่วนราคาการสั่งซื้อแบบส่งถึงบ้านขั้นต่ำก็ขึ้นจาก 20,000 วอน (ราว 494 บาท) ไปเป็น 30,000 วอน (ราว 741 บาท) แล้ว

สื่อเกาหลีใต้ยังรายงานต่อว่า เรื่องนี้ส่งผลเป็นระบบ โดยทำให้ทั้งยอดขายและกำไรของเชนคิมบับใหญ่ ๆ อย่าง Gimbap Heaven และ Yunsun Gimbap ลดลง ส่วนคู่แข่งที่ขนาดลดหลั่นลงมาก็เผชิญสถานการณ์เดียวกัน
ซึ่งแน่นอนว่าในภาพใหญ่ทำให้ตลาดคิบบับในเกาหลีใต้หดตัวลง ที่จะกระทบไปถึงยอดการบริโภคข้าวในประเทศของเกาหลีใต้ด้วยที่อาจจะลดลงไปอีก
ทั้งที่จากเดิมเมื่อปี 2023 การกินข้าวของชาวเกาหลีใต้เฉลี่ยต่อคนลดลงมาอยู่ที่ 56.4 กิโลกรัมก็ถือว่าต่ำมากสุดในรอบหลายปีอยู่แล้ว
เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะคิมบับเป็นอาหารหาซื้อได้ง่ายและราคาถูก ดังนั้น เมื่อราคาแพงขึ้นจึงเป็นการสื่อถึงสถานการณ์ราคาอาหาร วัตถุดิบที่แพงขึ้น รวมไปถึงค่าครองชีพที่แพงขึ้น

ซึ่งหากปล่อยไว้ เมนูที่มีประวัติยาวนานเกือบร้อยปี ดัดแปลงมาจากข้าวห่อสาหร่ายหรือโนริมากิของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งใน Soft power ด้านอาหารของเกาหลีใต้ อาจเสื่อมความนิยมลงไป และคนรุ่นต่อ ๆ ไปหากินได้ยากขึ้น
ปัญหาคิมบับแพงในเกาหลีใต้มีขึ้นท่ามกลางปัญหาแบบเดียวกันและรุนแรงกว่าในประเทศร่วมทวีปเอเชียตะวันออก
สิงหาคมถึงต้นกันยายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นประสบปัญหาข้าวพันธุ์ญี่ปุ่นที่ปลูกในประเทศขาดแคลน ถึงขั้นห้างสรรพสินค้าใหญ่ต้องจำกัดการซื้อ และปรากฏภาพข่าวชั้นวางขายข้าวโล่งหรือมีข้าวอยู่น้อยมาก

หลังเผชิญปัจจัยลบมากมายที่ประดังเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน อันได้แก่ ปริมาณเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวที่น้อยสุดในรอบหลายปี ภาวะโลกร้อน เกษตรกรมีแต่ผู้สูงวัย และแทบจะถูกตัดขาดตลาดข้าวทั่วโลกจากกำแพงภาษีเพื่อปกป้องเกษตรกร
นอกจากนี้ ข้าวในประเทศต้องถูกกระจายไปเป็นเมนูข้าวให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ครึ่งแรกของปี 2024 มีมากถึง 17.8 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่ก็อยากมากินเมนูข้าวอย่าง ข้าวปั้น ข้าวหน้าต่าง ๆ และซูชิ เมื่อมาถึงประเทศต้นตำรับ
ท่ามกลางการรายงานว่า บางเมนูราคาแพงขึ้นมากสุดในรอบหลายปี เช่น ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ซึ่งราคาต้นทุนเฉลี่ยต่อจานขึ้นไปอยู่ที่ 329 เยน (ราว 75 บาท) แล้ว ซึ่งแพงสุดนับจากปี 2015/koreantimes
–
