Trend / แม้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นท้ายปี แต่การเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็แซงขึ้นเป็นข่าวใหญ่ลำดับต้น ๆ ของปี 2024 เพราะ โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะได้แบบค่อนข้างทิ้งห่าง และส่งสัญญาณให้โลกเตรียมพร้อมรับนโยบายแข็งกร้าว แบบเดียวกับสมัยแรกที่เขาขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯ
อีกประเด็นถูกจับตา พูดถึง และคาดการณ์กันมาก หลังการเลือกตั้งครั้งนี้คือ “ทีมทรัมป์” และคนในพรรครีพับลิกันคนไหนบ้างที่จะได้เข้ามานั่งเก้าอี้เจ้ากระทรวง รวมไปถึงตำแหน่งสำคัญ ๆ ในรัฐบาลสหรัฐฯ ยุคทรัมป์ 2.0
บทวิเคราะห์สื่อทั่วโลกแทบทุกสำนักชี้ไปทิศทางเดียวกันว่า คนที่จะมีบทบาทสำคัญแน่นอนในรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดต่อไป คือ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก และหัวเรือใหญ่ของค่ายรถอีวี Tesla กับแพลตฟอร์ม X

เพื่อตอบแทนที่เขาเป็นผู้สนับสนุนอันดับต้น ๆ ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการรณรงค์หาเสียงครั้งนี้ ท่ามกลางข้อมูลว่าเงินที่เขาลงไปในการช่วยหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีผู้นี้อาจมากเกิน 120 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,170 ล้านบาท) เลยทีเดียว
บทบาทแรกของอีลอน มัสก์ คือ ผู้ก่อตั้งหน่วยงานที่ดูแลและประสานงานเรื่องประสิทธิภาพโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ของสหรัฐฯ เช่น รถไฟฟ้า และกิจการด้านอวกาศ ที่เขาถนัดและมีองค์ความรู้ผ่านการบริหารค่ายรถ Tesla และบริษัทขนส่งอวกาศ SpaceX

โดยด้านหนึ่งแม้จะเอื้อประโยชน์ต่อทั้ง 2 บริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ แต่อีกด้านก็ย่อมเป็นประโยชน์ของทั้งอุตสาหกรรมรถอีวีและกิจการอวกาศของสหรัฐฯ ด้วย เพราะเขาคือคนที่พาให้บริษัทสหรัฐฯ ในธุรกิจทั้งสองผงาดบนเวทีโลกช่วงไม่กี่ปีมานี้
อีกบทบาทของ อีลอน มัสก์ ในรัฐบาลสหรัฐฯ ยุคทรัมป์ 2.0 ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ การเป็นผู้ประสานงานหรือหัวหน้าคณะเจรจากับรัฐบาลจีนอย่างไม่เป็นทางการ ที่จะเปิดทางสู่การเจรจาอย่างเป็นทางการโดยรัฐมนตรีหรือผู้มีตำแหน่งทางราชการต่อไป
CNBC สื่อเศรษฐกิจในสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า อีลอน มัสก์ มีสายสัมพันธ์ที่ดีมากกับรัฐบาลจีน ยืนยันได้จากการไปตั้ง Giga Factory หรือ โรงงานประกอบรถ Tesla ในจีน มาได้หลายปี จน Tesla เป็นอีวีที่ขายดีลำดับต้น ๆ ในจีน ท่ามกลางแบรนด์คู่แข่งที่ล้วนเป็นแบรนด์จีน

และเขายังเคยเข้าพบกับบุคคลระดับสูงในรัฐบาลจีนหลายครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรองนายกรัฐมนตรีที่ถึงขนาดกล่าวว่า Tesla คือตัวอย่างความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จของจีนกับสหรัฐฯ
CNBC วิเคราะห์ต่อโดยอิงจากทัศนะของผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีน และกิจการต่างประเทศว่า บทบาทด้านต่างประเทศและเศรษฐกิจของอีลอน มัสก์ อาจเป็นไปในลักษณะเดียวกับ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนดัง
ที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์สหรัฐฯ กับจีน ในสมัยอดีตประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ช่วงปลายยุค 60 ต่อเนื่องถึงครึ่งแรกของยุค 70
หลังจากนั้น เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ ก็ยังคงเป็นบุคคลการเมืองสหรัฐฯ เพียงไม่กี่คนที่รัฐบาลจีนยินดีให้เข้าพบเสมอ และตัวเขาเองก็ไปเยือนจีนอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะให้เขาทำหน้าที่เป็นทูตอย่างไม่เป็นทางการ หรือเปิดทางการเจรจาต่าง ๆ ด้วย โดยครั้งล่าสุดที่เขาไปเยือนจีนคือเมื่อปี 2023 ไม่กี่เดือนก่อนที่จะเสียชีวิตปลายปีเดียวกัน
การที่ อีลอน มัสก์ มีสายสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลจีนนี้แม้อาจยังไม่ได้รับการยอมรับเท่า เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ แต่ก็มีนัยสำคัญและเป็นไปได้ที่เขาจะนำทีมผู้บริหารบริษัทใหญ่ ๆ ของสหรัฐฯ คนอื่น ๆ
เช่น ผู้บริหาร Alphabet (บริษัทแม่ Google) และผู้บริหาร Apple เดินทางไปลงทุนเพิ่มที่จีนในอนาคตอันใกล้
และอาจขอให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ลดมาตรการแข็งกร้าวต่าง ๆ โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจกับจีนลงมาบ้าง โดยจากคาดการณ์ภาพรวมเหล่านี้ อีลอน มัสก์ คงจะเป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลสหรัฐฯ แม้ไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการก็ตาม
จนอาจกล่าวได้ว่า เขาคือรองประธานาธิบดีเงารัฐบาลสหรัฐฯ ยุคทรัมป์ 2.0/ cnbc, theguardian
–
