RICOH ยกระดับศักยภาพการทำงานขององค์กร Transform สู่ยุคดิจิทัล
เมื่อพูดถึงแบรนด์ “RICOH” สำหรับกลุ่มคนออฟฟิศภาพจำเดิม ๆ คงหนีไม่พ้นเครื่องถ่ายเอกสารหรือเครื่องพรินเตอร์ที่เห็นอยู่ในตลาดมามากกว่า 80 ปี แต่จริง ๆ แล้ว RICOH ยังมีระบบสนับสนุนการทำงานสำหรับทุกประเภทธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นระบบห้องประชุม ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบจัดการผู้เข้ามาเยี่ยมชมต่าง ๆ รวมถึงซอต์ฟแวร์โซลูชันต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้งานออฟฟิศมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีมากขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง
“RICOHตระหนักถึงการทำงานในรูปแบบใหม่ที่ค่อย ๆ มีการปรับเรื่องการทำงานแบบแมนนวลให้เป็นดิจิทัล เพื่อให้ทุกการทำงานของลูกค้ารวดเร็วและตอบโจทย์ในทุกการทำงาน ด้วยคอนเซ็ปต์ Boot up productivity for better results องค์กรไหนก็เพิ่ม Productivity ได้
ถ้ามีโซลูชันของRICOHเข้ามาช่วยการทำงาน สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ แม้แต่เครื่องถ่ายเอกสารของRICOHก็มีแอปพลิเคชันเหมือนในสมาร์ตโฟนมานานมากแล้ว ซึ่งลูกค้าสามารถดาวน์โหลดเพื่อช่วยเรื่องการทำงานให้สะดวกและมีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น
เพราะRICOHเข้าใจว่าผู้คนต้องการใช้ผลิตภัณฑ์และโซลูชันอย่างไร และคาดการณ์ทั้งความต้องการและความจำเป็นของพวกเขาในอนาคต และผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีการวิเคราะห์เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้โซลูชันและบริการของเรา”
คุณชนิษฐา วรเจริญ Product Specialist Manager จากRICOHกล่าวถึงรูปแบบธุรกิจและบริการของRICOHในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่มาประเด็นหลักในการสนทนาวันนี้คือ “Enhance productivity with the powerful Business Tool” เพิ่มศักยภาพการทำงานขององค์กรให้เหนือระดับด้วยโซลูชันจาก RICOH

Enhance productivity with the powerful Business Tool
เพิ่มศักยภาพการทำงานขององค์กรให้เหนือระดับด้วยโซลูชันจาก RICOH
RICOHเดินหน้าตามภารกิจสำคัญคือ “การเป็นพาร์ตเนอร์ที่คุณสามารถไว้ใจได้บนเส้นทาง Digital Transformation ของคุณ” ที่สามารถปรับปรุงธุรกิจทุกระดับ ตั้งแต่ SME ธุรกิจขนาดกลาง ไปจนถึงกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยRICOH Digital Services ผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่หลากหลายตามความต้องการที่แตกต่างของทุกองค์กร
“เรามีโซลูชันและ Tool ที่หลาย ๆ องค์กรมองหาอยู่และสามารถช่วยให้ Business Process ของเขาเป็นไปอย่างคล่องตัวและมีศักยภาพที่ดีขึ้น เป็น Tool ที่ออกแบบมาแล้วจากประสบการณ์การทำงานร่วมกับลูกค้าหลากหลายธุรกิจมาอย่างยาวนาน เราจึงโฟกัสที่ธุรกิจภายใต้คอนเซ็ปต์นี้ ซึ่งมากกว่าแค่การนำเสนอ Tool แต่เป็นการเตรียมพร้อมในทุกมิติ ตั้งแต่สภาพแวดล้อมของการทำงานตลอดจนคนทำงาน และพัฒนาศักยภาพของคนที่จะมาใช้ Tool ให้ตอบโจทย์และเหมาะสม
การให้บริการของRICOHจะเริ่มตั้งแต่ช่วยให้คู่ค้ามองเห็นว่าปัญหาอยู่ที่จุดไหนก่อน ดูว่า User ที่ใช้งานตอนนี้มีปัญหาอะไรอยู่ นี่คือ Keyword สำคัญในการที่มาค้นหาหรือสรรหา Tool และโซลูชันของเรามานำเสนอให้เหมาะสม ซึ่งRICOHจะช่วย Support Digital Journey ของลูกค้า พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาว่าต้องทำอย่างไรให้องค์กรของเขา Transform ได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในการทำงาน
ตลอดจนลดภาระการทำงานที่ไม่จำเป็นออก และให้เขาโฟกัสงานที่สามารถต่อยอดธุรกิจของเขาได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น คอนเซ็ปต์ตรงนี้จะตอบโจทย์ที่ว่า ‘Work Smart, Not Harder’ ต้องทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ ฉลาดขึ้นและมี Tool ที่ช่วยรองรับในการทำงานให้มั่นคงยิ่งขึ้น”
“Work Smart, not Harder” ติดปีกให้ทุกองค์กร ด้วยโซลูชันที่เหมาะกับบุคลากรทั้งระบบ
Marketeer ยิงคำถามว่า หากมีองค์กรที่สนใจอยากจะปรับการทำงานเป็น “Work Smart, not Harder” เพื่อเข้าสู่ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบควรเริ่มโฟกัสจากจุดไหนก่อนเป็นอันดับแรก

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการตลาด Digital Transformation ที่ได้รับการฝึกอบรมและศึกษาดูงานรวมถึงดูแลโปรเจกต์งานมาอย่างมากมายในตลาดตลอดหลายปีที่ผ่านมา คุณชนิษฐาวิเคราะห์ว่า นอกจากยกระดับโซลูชันและเทคโนโลยีแล้ว แก่นที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนา “บุคลากร” ให้มีความพร้อมที่จะใช้งานเทคโนโลยีนั่นเอง
“ปัจจุบันเทคโนโลยีและ A.I. มีส่วนสำคัญในการทำงานเป็นอย่างมาก อย่างเช่น Smart Factory ที่มีการดำเนินธุรกิจแค่เพียงคลิกเดียวก็สามารถเริ่มและจบในทุกกระบวนการได้เลย สำหรับงานออฟฟิศเองก็เริ่มมีการนำ A.I. มาใช้ในหลาย ๆ ด้านและมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาตอบสนองตลาดอยู่เสมอ
แต่จากที่เราได้เก็บข้อมูลการใช้งานของลูกค้าและตลาด เราพบว่า หลายองค์กรไม่สามารถใช้ Tool เหล่านั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือหลาย ๆ ครั้งต้องมีการยกเลิกและหาโซลูชันใหม่มาแทนของเดิม เพราะปัจจัยหลักเลยที่เป็นปัญหาคือหลายครั้งองค์กรอาจตัดสินใจซื้อหรือเปลี่ยน Tool โดยไม่ได้คำนึงถึง ‘ความพร้อมในการใช้งานของบุคลากร’
เพราะว่าสุดท้ายอย่าลืมว่าผู้ใช้งานหรือยูสเซอร์รู้สึกว่ามันใช้งานยากเหมือนมาเพิ่มภาระให้เขาแทนที่จะช่วยลดงานให้น้อยลง ความรู้สึกในการทำงานจะไม่ดี ทำให้ไม่อยากเรียนรู้และอยากกลับไปใช้ในรูปแบบเดิม ดังนั้น แทนที่จะเร็วกลับช้าลงจนสุดท้ายเกิดปัญหาในที่สุด
ดังนั้น สิ่งแรกที่องค์กรต้องให้ความสำคัญคือการรับฟัง Feed Back ที่ตรงไปตรงมาจากผู้ใช้งานด้วยว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไรและทำไม นั่นจึงจะเป็นการเริ่มต้นหาโซลูชันหรือ Tool ที่ถูกต้องและเหมาะสม เมื่อบุคลากรพร้อม โซลูชันพร้อม องค์กรก็จะสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น”
อย่างไรก็ดี คุณชนิษฐา ได้เสริมว่า ในทางกลับกันจุดนี้นับเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ผลิตหรือ Supplier ด้วยที่ต้องคำนึงถึงผู้ใช้งาน และต้องมีการออกแบบมาให้ User Friendly ที่สุด ซึ่งRICOHใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน โดยทุกโซลูชันของRICOHที่ออกมา ผ่านการทดสอบและพัฒนาในหลากหลายด้าน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น กระบวนการทำงานรวดเร็ว และมีประสิทธิผลมากที่สุด
เช่น โซลูชันล่าสุดที่ชื่อว่า “RICOH Kintone plus” ที่เป็นแพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่ช่วยในการสร้างแอปพลิเคชันสำหรับการอนุมัติเอกสารออนไลน์พร้อมกับเชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันของRICOHได้โดยตรง ออกแบบมาเพื่อจัดระเบียบข้อมูล จัดทำ Workflow อนุมัติ และช่วยให้การสื่อสารภายในองค์กรสะดวกมากยิ่งขึ้น
หรืออีกหนึ่ง โซลูชัน A.I. ที่เข้ามาช่วยจัดการงานเอกสารบนเครื่องพิมพ์เพียงแค่สแกนเอกสารตัว A.I. ก็จะถอดข้อมูลสำคัญจากเอกสารพร้อมจัดทำไฟล์เอกสารที่พร้อมใช้งานและจัดเก็บข้อมูลได้เลยทันที
แนวคิด “3 EASY” เพื่อกระบวนการทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
คุณชนิษฐา ยังได้นำเสนอแนวคิด “3 EASY” หรือ “3 ง่าย” ที่จะยกระดับให้บุคลากรขององค์กรเกิดกระบวนการทำงานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ง่ายตั้งแต่เริ่มต้น ในทุกกระบวนการทำงาน: องค์กรจะต้องมีกระบวนการทำงานที่ง่ายและไม่ซับซ้อน มีตัวช่วยในการจัดการกระบวนการทำงานที่ยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบและการใช้งานของลูกค้า หรือลดขั้นตอนของกระบวนการทำงานเดิมได้ แต่ต้องยังมีศักยภาพการทำงานที่เท่าเดิมหรือเพิ่มมากขึ้น
- ง่ายในการติดต่อสื่อสารได้ทุกที่ทุกเวลา: Tool หรือ โซลูชันในปัจจุบันควรต้องตอบโจทย์การทำงานทุกที่และทุกเวลา หรือการทำงานแบบ Work Anywhere ได้ให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของการทำงานที่บ้านกับการทำงานที่สำนักงาน
- ง่ายในการใช้งานจริง: หลาย ๆ ครั้งโซลูชันหรือ Tool เมื่อต้องนำไปใช้งานจริงอาจเกิดปัญหาว่าไม่ได้ตอบโจทย์การทำงานหรือใช้งานยากสำหรับ User ดังนั้น การเลือก Tool จึงควรได้ลองทดสอบก่อน เพราะการได้ทดลองใช้จะทำให้ยูสเซอร์เห็นภาพได้ชัดเจนว่าสามารถตอบโจทย์กับการทำงานหรือไม่ และผู้ใช้งานควรจะสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของเขาเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการทำงานให้ได้ดีและสะดวกมากที่สุด
“RICOH Kintone plus” ที่RICOHเพิ่งเปิดตัวไปถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโซลูชันที่ใช้ Metrology หรือแบบแผนของ 3 EASY เพื่อตอบโจทย์ตลาด โดยลูกค้าสามารถทดลองใช้ได้ฟรีเพื่อทดสอบว่าเหมาะสมกับตัวผู้ใช้งานและองค์กรได้หรือไม่แล้วจึงค่อยตัดสินใจ นอกจากนี้ โซลูชันยังมีการพัฒนา UI ให้มีความใช้ง่าย พนักงานทั่วไปไม่ต้องมีความสามารถด้านการเขียน Code ก็สามารถใช้งานได้แบบทันที อีกทั้งตัวโซลูชันยังสามารถใช้เข้ากับงานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ตโฟน สะดวกครบจบ 3 ง่ายในโปรแกรมเดียว
“จากโซลูชันRICOH Kintone plus จะเห็นแล้วว่าริโก้พร้อมใส่ใจการทำงานของกลุ่มลูกค้า ดังนั้น ทั้ง 3 ง่ายนี้จึงถือป็นคำตอบที่เป็นแกนหลักในการคิดค้นโซลูชันและ Tool ของRICOH เพื่อตอบโจทย์ในทุกธุรกิจที่ต้องการปรับองค์กรให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล ลดการทำงานของพนักงาน ตัดกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน เพิ่มศักยภาพในการทำงานช่วยให้ทำงานได้จากที่ไหนก็ได้
อย่างที่กล่าวไปว่า การจะผลักดันให้องค์กรมีกระบวนการทำงานแบบ Work Smart ให้เกิด Productivity ที่ดีสุด องค์กรต้องมีความเข้าใจภายในหรือบุคลากรในองค์กรก่อน ยิ่งในปัจจุบันทุกองค์กรเริ่มมีบุคลากรที่หลากหลายเจเนอเรชันร่วมกัน การจะก้าวไปข้างหน้าได้แบบมีศักยภาพจะต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมและ Tool ต่าง ๆ ที่ทุก Gen สามารถใช้ร่วมกันได้
ดังนั้น องค์กรจึงควรมีการเตรียมสภาพแวดล้อมและระบบการทำงานให้ตอบโจทย์กับทุก Gen ของบริษัทฯ เมื่อภายในพร้อมและมีระบบการทำงานที่ดีก็จะสามารถตอบสนองความต้องการได้ ทำให้องค์กรสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างมั่นคงมี Metrology ในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนเสริมความมั่นใจให้ทุกองค์กรสามารถนำโซลูชันไปประยุกต์ใช้ได้อย่างแน่นอน
RICOH พร้อมเข้าไปส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรของคุณไปข้างหน้า เป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วย Support Digital Journey และแก้ไขปัญหาให้กับทุกองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้เลยว่า
เราจะอยู่ในทุกขั้นตอนในการให้บริการกับลูกค้า ตั้งแต่เริ่มค้นหาปัญหาไปจนถึงออกแบบโซลูชัน และหลังจากส่งมอบโซลูชันแล้วเรายังมีบริการหลังการขายที่พร้อมให้บริการและช่วยเหลือทันที มั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณจะไม่หยุดชะงัก สามารถ Keep Going ในเรื่องการดำเนินธุรกิจได้ตลอดเวลา”

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันของRICOH: https://www2.ricoh.co.th/Ricohkintoneplus/
–
Website : Marketeeronline.co /
