Trend / หลังดังไปทั่วโลกจนเป็นที่ยอมรับถึงขนาด Billboard ต้องจัดชาร์ตเพลงให้เฉพาะเพลง K-pop ก็มีเรื่องให้กล่าวถึงเป็นข่าวและเป็นประเด็นเสมอมา โดยปี 2024 นอกจากการประกาศยกเลิกสัญญากับต้นสังกัดของ NewJeans และการทยอยออกผลงานเดี่ยวของสมาชิก Blackpink แล้วยังมีอีกประเด็นน่าสนใจ
นั่นคือการประกาศรางวัลของเพลง K-pop ส่วนใหญ่ย้ายไปจัดกันนอกเกาหลีใต้ ไล่ตั้งแต่ Seoul Music Awards ในไทย และ Golden Disc Awards ในอินโดนีเซียเมื่อต้นปี ตามด้วย MAMA Awards ในญี่ปุ่นเมื่อพฤศจิกายน และปิดท้ายด้วยงานของ Asia Artists Awards ที่กลับมาจัดในไทย 27 ธันวาคมนี้

วงการเพลงเกาหลีใต้เริ่มมีการประกาศรางวัลทางดนตรีกันครั้งแรก ๆ ในยุค 90 โดย ณ ขณะนั้นยังเป็นการฟังแค่ในประเทศ ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่จึงเป็นบรรดาศิลปินวง K-pop รุ่นแรก ๆ สื่อมวลชน และแฟนเพลงกลุ่มไม่ใหญ่ จึงสามารถจัดในหอประชุม โรงละคร และศูนย์ศิลปะได้
ทว่าช่วงปลายยุค 90 ที่เกาหลีใต้ประสบปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลก็เริ่มผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิง ไล่ตั้งแต่ซีรีส์ หนัง และเพลง เป็นสินค้าส่งออก เพื่อโปรโมตสินค้าทางวัฒนธรรมต่าง ๆ พร้อมหวังว่าจะแปรกลับมาเป็นรายได้เข้าประเทศ และช่วยโปรโมตสินค้าเทคโนโลยีต่าง ๆ

ราว 10 ปีถัดมา นโยบายดังกล่าวก็เริ่มเห็นผล โดย ซีรีส์ หนัง และเพลง เกาหลีใต้เริ่มเป็นรู้จักในแถบเอเชีย โดย MAMA Awards ในปี 2010 ย้ายไปจัดที่มาเก๊า ถือเป็นงานแรก ๆ ที่จัดนอกประเทศ
จากนั้นรางวัลอื่น ๆ ก็ย้ายไปจัดกันที่ต่างประเทศบ้าง โดยเฉพาะแถบเอเชีย ซึ่งส่วนหนึ่งช่วยเรื่องการโปรโมต ขยายฐานแฟนเพลง K-pop และทำให้เพลง K-pop ดังในต่างประเทศได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากนั้นกลายเป็นว่า การประกาศรางวัลเพลง K-pop แทบทุกเวทีพากันไปจัดในต่างประเทศ แม้ด้านหนึ่งจะเป็นการย้ำว่าเพลง K-pop ตีตลาดโลกได้แล้ว ไปจัดประเทศไหนก็ขายตั๋วได้
แต่อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงบ่นจากแฟนเพลง K-pop ในเกาหลีใต้เอง ว่าเหมือนถูกมองข้าม และถ้าอยากเข้าร่วมงานก็ต้องเสียทั้งค่าบัตร ค่าที่พัก และตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศ
สื่อเกาหลีใต้รายงานอิงแหล่งข่าวจากทีมผู้จัดการประกาศรางวัลเพลง K-pop งานหนึ่งว่า เทรนด์นี้มีเบื้องลึก-เบื้องหลัง และไม่ได้แค่เป็นแผนโปรโมตอย่างเดียว

เว็บไซต์ข่าว Koreatimes ระบุว่า มีอีกหลายสาเหตุเพิ่มเติมของเทรนด์ไปจัดงานมอบรางวัลเพลง K-pop ในต่างประเทศ โดยสาเหตุแรกคือ สนามกีฬาใหญ่ ๆ ในเกาหลีใต้ที่สามารถจุคนได้มาก และสามาถรองรับแฟนเพลง K-pop จำนวนมหาศาลมีอยู่น้อย การจองใช้พื้นที่ก็ค่อนข้างยาก และมีปัญหาเรื่องโลจิสติกส์
สาเหตุต่อมาคือ ในเกาหลีใต้มีการกำหนดเพดานราคาบัตร จึงทำให้ไม่สามารถขายบัตรพร้อมแพ็กเกจต่าง ๆ ที่ราคาแพงได้ ตรงข้ามกับในต่างประเทศที่อาจดันราคาตั๋วแบบวีไอพีให้มีราคาแพงได้
ส่วนสาเหตุสุดท้าย คือการจัดในต่างประเทศนั้นมีโอกาสทำการตลาดได้มากกว่า ผ่านแคมเปญกับแบรนด์ต่าง ๆ และการจัดกิจกรรมร่วมกับแฟนเพลง นอกจากนี้ ยังได้ส่วนลดเรื่องภาษีจากรัฐบาลของต่างประเทศที่มองว่าเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยวอีกด้วย ดังนั้น เมื่อบวกลบกันแล้วโอกาสทำกำไรจึงมีมากกว่าตามไปด้วย
รายงานของ Koreatimes สรุปทิ้งท้ายว่า แม้อยากจัดในบ้านเกิดมากแค่ไหน แต่จากข้อติดขัดต่าง ๆ และไม่คุ้มค่าทางธุรกิจ ประกอบกับไปจัดต่างประเทศแล้วทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ทำให้ที่สุดทีมผู้จัดของทุกรางวัลจึงพากันไปจัดต่างประเทศกันหมด

มีแนวโน้มว่าเทรนด์ดังกล่าวจะดำเนินต่อไป เพราะ Golden Disc Awards ประกาศแล้วว่า การประกาศและมอบรางวัลครั้งต่อไป ที่วางไว้ 4-5 มกราคม 2025 จะไปจัดในญี่ปุ่น/koreatimes
–
