Life / จากประเทศใหญ่ที่ล้าหลัง ปัจจุบันจีนเปลี่ยนไปเป็นยักษ์ใหญ่ที่ก้าวหน้าในทุกด้าน โดยเฉพาะเทคโนโลยีซึ่งสะท้อนออกมาให้คนทั่วโลกได้เห็นผ่านหนังและซีรีส์จีนที่แทบทำเงินหรือชิงรางวัลหลายเรื่องช่วงไม่กี่ปีมานี้ 

Nice View หนังจีนอีกเรื่องที่เล่าถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีน แต่ด้วยองค์ประกอบเสริม รวมถึงโทน รูปแบบการเล่า ทำให้ตัวหนังแตกต่างออกไป และตรึงเราให้ดูไปจนจบ

Nice View เล่าถึง จิ้ง เหา เซียนเทคหนุ่มวัย 20 ต้น ๆ ที่เลี้ยงชีพด้วยการเป็นเจ้าของร้านซ่อมสมาร์ตโฟนเล็ก ๆ ในเซินเจิ้น ซึ่งเจอมรสุมลูกใหญ่หลังต้องหาเงินก้อนโตเพื่อพาน้องสาววัยกระเตาะไปผ่าตัดหัวใจภายใน 2 ปี 

ความหวังเริ่มสดใส หลังได้ดีลทำสมาร์ตโฟน นำเครื่องเก่าที่เสียเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือไม่ผ่านตรวจคุณภาพมาปรับแก้แล้วขายใหม่ ที่เรียกว่า Refur ล็อตใหญ่มาแบบลับ ๆ แต่โชคร้ายกลับขายล็อตที่ทำเสร็จแล้วออกไปไม่ได้ 

ทั้งที่โดนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังถูกไล่ออกจากห้องเช่าที่อยู่มานาน แต่นอกจากไม่ถอดใจ จิ้ง เหา ยังหาญกล้าเข้าไปคุยกับเบอร์ใหญ่ โดยเขาติดต่อไปยังบริษัทเจ้าของสมาร์ตโฟน เพื่อทำสัญญาทำสมาร์ตโฟน Refur จำนวนมากขึ้น เพื่อแลกกับเงินค่าตอบแทนก้อนใหญ่ขึ้น

ฝันใหญ่ดังกล่าว บีบให้ จิ้ง เหา ต้องเดิมพันสูงกว่าเดิม โดยเขายอมขายร้านกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่ได้จากการเสี่ยงตายไปเป็นพนักงานเช็ดกระจกตึกสูง ที่สุดพระเอกสู้ชีวิตของเราก็สามารถเปิดโรงงานได้   

หลังจากนั้นคนดูก็ต้องมาลุ้นสุดตัวว่า จิ้ง เหา และทีมคนเก่งรากหญ้าที่ดูขาด ๆ เกิน ๆ จะสามารถทำโปรเจกต์นี้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งระหว่างทางมี 4 ข้อที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้ 

ความรู้คือสมบัติล้ำค่า: ข้อคิดแรกสุดจากหนังเรื่องนี้คือ ความรู้คือสมบัติล้ำค่า เพราะนอกจากสามารถช่วยพลิกชีวิตได้แล้ว ยังไม่มีใครสามารถพรากมันไปจากเราได้อีกด้วย จนกล่าวได้เลยว่า เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด ไม่ว่าเราจะจนกรอบแค่ไหน 

ผู้ที่สะท้อนข้อคิดนี้ให้ผู้ชมได้เห็นตลอดเรื่องคือ จิ้ง เหา เพราะแม้ฐานะยากจน แต่เขาก็ใช้ความรู้ด้านงานช่างและสมาร์ตโฟนมาเลี้ยงชีพ เป็นแหล่งรายได้เพื่อดูแลน้องสาวซึ่งเป็นครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว 

และยังส่งให้เขาประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในตอนจบอีกด้วย 

อย่าให้อายุเป็นข้อจำกัด: ข้อคิดถัดมาจาก Nice View คือการไม่เอาอายุเป็นข้ออ้างหรืออุปสรรคในการทำงาน โดยสะท้อนออกมาจากการที่ จิ้ง เหา ทำงานสารพัด ทั้งเพื่อหาเงินมาให้น้องสาวผ่าตัดหัวใจ 

และทำโปรเจกต์ใหญ่ จนคนดูอาจลืมไปเลยว่าเขามีอายุเพียง 20 ต้น ๆ เท่านั้น ซึ่งหากจะว่าไป เขาทำงานหนักกว่าผู้จัดการฝ่ายวัย 30 ต้น ๆ ของบริษัทสมาร์ตโฟนที่ดีลงานด้วยเสียอีก  

การลืมข้อจำกัดเรื่องอายุยังแสดงให้เห็นผ่านลุง ๆ ป้า ๆ ที่มาช่วยงานในโรงงานของ จิ้ง เหา ด้วย 

ทุกปัญหาจัดการได้ถ้าไม่ถอดใจ: ข้อคิดอีกข้อจากหนังตัวแทนจีนชิงรางวัลออสการ์ปี 2022 เรื่องนี้ คือ การไม่ถอดใจ ซึ่งปรากฏออกมาหลายต่อหลายครั้ง 

เช่น การที่จิ้ง เหา หาทางออกให้กับสมาร์ตโฟน Refur ล็อตใหญ่ที่ขายไม่ได้ การไม่ละความพยายามที่จะเข้าไปคุยกับซีอีโอบริษัทสมาร์ตโฟน และฝ่าสารพัดอุปสรรคเพื่อทำสมาร์ตโฟน Refur ให้เสร็จ  

มดก็ล้มช้างได้ถ้ารวมพลังกัน: ข้อคิดสุดท้ายจากหนังเรื่องนี้คือ การรวมพลังกันของเหล่าคนตัวเล็ก ที่เปรียบได้กับมดซึ่งถูกมองข้ามในสังคม เช่น สาวหูหนวก อดีตนักโทษ หรือแม้กระทั่งคนวัยเกษียณ 

แม้ดูไม่สมประกอบและมีกำลังไม่มาก แต่คนเหล่านี้มีความมุ่งมั่นและร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ต่างจากมดที่ล้มช้างได้ และพวกเขานี่เองที่เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนโรงงานและโปรเจกต์เกินตัวของ จิ้ง เหา 

จนที่สุดช่วยให้ จิ้ง เหา ประสบความสำเร็จ และยังถือเป็นเหล่าฟันเฟืองตัวเล็ก ๆ ส่งให้เขาไปสู่อีกก้าวใหญ่ของชีวิตในตอนจบด้วย 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer