PTT Lubricants 14 ปีบนบัลลังก์ No.1 ยกระดับสมรรถนะที่เหนือกว่า และเพื่อโลกที่ยั่งยืน

โลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างเข้มข้น การรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้ต่อเนื่องยาวนานถือเป็นภารกิจที่ท้าทาย แต่สำหรับ “PTT Lubricants” กลับทำได้อย่างแข็งแกร่ง

โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 14 ติดต่อกันที่แบรนด์สามารถครองตำแหน่ง Marketeer No.1 Brand Thailand ในหมวดน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ จากการสำรวจความนิยมโดยผู้บริโภคทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์ส่งมอบอย่างต่อเนื่อง

เพื่อถอดรหัสความสำเร็จนี้ Marketeer มีโอกาสพูดคุยกับคุณรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ถึงเบื้องหลังความสำเร็จ และกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์ไทยรายนี้ยังคงยืนหยัดในตำแหน่งแชมป์ของตลาดมาอย่างยาวนาน

ก้าวที่ภูมิใจกับ 14 ปีแห่งความไว้วางใจ
ตลาดเปลี่ยนไว ต้องแม่นยำในการปรับตัว

เมื่อถามถึงความรู้สึกในการคว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand ปีล่าสุด คุณรชายิ้มอย่างภาคภูมิใจพร้อมกล่าวว่า “เป็นเกียรติและภูมิใจแทนทีมงานทุกคน เพราะนี่คือการสะท้อนอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจของเราที่จะตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อเนื่องถึง 14 ปีเต็ม”

ส่วนสถานการณ์ตลาดน้ำมันเครื่องปัจจุบันถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่แบรนด์ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรง การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งคุณรชาอธิบายว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโจทย์ที่ท้าทาย และต้องอาศัยกลยุทธ์ที่แม่นยำเพื่อรักษาการเป็นผู้นำไว้ให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับตัวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

จิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จที่ยั่งยืน
เข้าใจคนยุคใหม่ ให้ไวและตรงจุด

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ PTT Lubricants สามารถรักษาตำแหน่งแบรนด์อันดับหนึ่งไว้ได้คือการไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ คุณรชากล่าวว่า “เราเป็นแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ระดับโลก มีประวัติในตลาดน้ำมันเครื่องยาวนานกว่า 40 ปี และมีการลงทุนในด้าน R&D อย่างจริงจังเสมอมา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง พิสูจน์ได้จริงจากผู้ใช้งาน ทั้งในเรื่องความแรงของเครื่องยนต์ เสียงที่เบาลง และการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”

และในยุคที่ผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว คุณรชาชี้ชัดว่าการตามให้ทันเทรนด์เป็นสิ่งสำคัญ “ต้องมองความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก และตอบสนองด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย PTT Lubricants จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานล่าสุด ระดับสากลอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน API SQ และ ILSAC GF-7A จาก American Petroleum Institute ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับการรับรองจากกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นรายแรกในประเทศไทย

นอกจากนี้การสื่อสารถึงผู้บริโภคในเรื่องการเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับเทคโนโลยียานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปก็เป็นสิ่งสำคัญ เราจึงมีระบบแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมครอบคลุมทุกกลุ่มยานยนต์ที่มีในตลาดผ่านเว็บไซต์PTT Lubricantsเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค”

“ปลุกร่างทองให้รถคุณ” กลยุทธ์ลุยตลาด 2568

ในรอบปีที่ผ่านมาPTT Lubricantsประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการสื่อสาร เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม EVOTEC ซึ่งมีจุดเด่นใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ Environment ช่วยลดการปล่อยมลพิษ Endurance เพิ่มความทนทานของเครื่องยนต์ และ Efficiency ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เต็มประสิทธิภาพพร้อมประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด อีกทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ Performa Synthetic Hybrid” น้ำมันเครื่องเพื่อรถยนต์ Hybrid โดยเฉพาะ เพื่อรองรับกลุ่มรถยนต์ไฮบริดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

สำหรับปี 2568 นี้ แบรนด์ได้ส่งแคมเปญใหญ่ภายใต้แนวคิด “ปลุกร่างทองให้รถคุณ” โดยผลักดันให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์ 100% ซึ่งโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและมาตรฐานระดับโลก ซึ่งจะมาปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่ ยกระดับสมรรถนะของเครื่องยนต์ เปรียบเสมือนปลุกเครื่องยนต์ให้กลับมามีพลังเต็มเปี่ยมและลื่นไหลเหมือนวันแรกที่ใช้งานอีกครั้ง และพร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถในทุกกลุ่ม ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล เบนซิน และจักรยานยนต์

โดยจะสื่อสารถึงผู้บริโภคผ่านสื่อทุกรูปแบบ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างผ่าน Key Message ที่กระชับและเข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ง่ายที่สุดในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ ในส่วนของปี 2569 คุณรชายังแอบเผยอีกว่าPTT Lubricantsจะมีแคมเปญใหญ่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการ “พลิกโฉมวงการน้ำมันเครื่องไทย” อย่างแท้จริง พร้อมเชิญชวนให้ติดตาม รับรองว่ายิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนครบวงจร

ไม่เพียงการดูแลเครื่องยนต์PTT Lubricantsยังมองหาโอกาสที่จะดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ “โครงการเซฟโลก เซฟรถ เพื่ออนาคตน้อง ๆ” ที่นำแกลลอนน้ำมันเครื่องเก่าไป Upcycling เป็นชุดโต๊ะเรียน ส่งมอบให้กับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2567 โดยส่งมอบชุดโต๊ะเรียนไปแล้วทั้งสิ้น 5 โรงเรียน รวมจำนวนทั้งสิ้น 100 ชุด จากการใช้แกลลอนพลาสติกกว่า 4,900 แกลลอน ทำให้ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้ถึง 1,200 กิโลกรัม พร้อมยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 8,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์

“พวกเรา PTT Lubricants จะตั้งใจดำเนินธุรกิจอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมน้ำมันเครื่องของประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภคมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล ครอบคลุมทุกความต้องการทั้งภาคอุตสาหกรรมและยานยนต์ รวมไปถึงการได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ง่ายครับ

ด้วยความตั้งใจของเรา จึงอยากให้ผู้บริโภคมองเราด้วยสายตาของความเชื่อมั่น ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ด้วยมาตรฐานที่เทียบเท่าแบรนด์ระดับโลก และภูมิใจในเป็นแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งยังดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่ให้ความสำคัญทั้งในด้านสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม”

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer