ภาพจ๋าย วงไททศมิตร สวมเสื้อทัวร์วินเทจแรร์ หรือเสื้อวงดนตรีรุ่น Nirvana Staff Blue Long Sleeve – Nevermind UK Tour 1991 ขึ้นเวทีงาน Marathon Concert ที่ผ่านมา ได้สร้างกระแสการพูดถึงมูลค่าของเสื้อตัวนี้ที่จ๋ายซื้อมาในราคาหลักล้านบาท
แม้เสื้อทัวร์วินเทจตัวนี้จะมีราคาหลักล้านบาท ซึ่งหลายคนมองว่าสูงเกินจำเป็น แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของศิลปินและเสื้อวินเทจ มูลค่านี้สะท้อนถึงคุณค่าทางใจและประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อเคยถูกสวมใส่จริงโดย Kurt Cobain ศิลปินผู้ล่วงลับ และมีจำนวนการผลิตเพียง 70 ตัว สำหรับทีมงานในทัวร์ Nirvana – Nevermind UK Tour 1991 เท่านั้น

สิ่งนี้เป็นหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า ตลาดเสื้อทัวร์วินเทจเป็นหนึ่งในตลาดที่สร้างมูลค่าให้กับผู้ขาย และมูลค่าทางใจให้กับนักสะสมได้ และมูลค่าการซื้อขายขึ้นอยู่กับความนิยมในศิลปิน คุณค่าทางประวัติศาสตร์ จำนวนการผลิต และความลึกของปี ที่ยิ่งปีที่ผลิตเก่ามาแค่ไหน คุณค่าทางใจอาจมากขึ้นเท่านั้น เพราะการได้ครอบครองและสวมใส่เสื้อวงดนตรีที่ผลิตวางจำหน่ายในปีเก่า ๆ เป็นหนึ่งในการแสดงออกให้เห็นว่าเป็นแฟนตัวยงที่ติดตามมานาน
แต่กว่าจะเป็นเสื้อทัวร์วินเทจที่สร้างแรงเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจกับนักสะสมในวันนี้ ย่อมมีที่มาที่ไปจากจุดเริ่มต้นเสื้อทัวร์ตัวแรกในปี 1950 ที่ Elvis Presley ทำแจกให้กับแฟนคลับของศิลปินเป็นที่ระลึก ซึ่งในเวลานั้น เสื้อทัวร์ของ Elvis Presley กลุ่มแฟนคลับไม่ได้นำมาสวมใส่เพื่อโปรโมตศิลปินมากนัก
กระทั่งในปี 1968 Bill Graham นักจัดคอนเสิร์ตผู้ทรงอิทธิพลในสหรัฐอเมริกา มองเห็นโอกาสทางการตลาดจากเสื้อทัวร์ เขานำเสื้อยืดมาสกรีนภาพศิลปินไว้ด้านหน้า และพิมพ์ตารางทัวร์คอนเสิร์ตด้านหลัง ทำแจกฟรีให้แฟนคลับวงดนตรีได้สวมใส่ เพื่อคาดหวังให้เสื้อทัวร์ของศิลปินต่าง ๆ ทำหน้าที่เสมือนป้ายโฆษณาเคลื่อนที่ ที่ช่วยโปรโมตตารางงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้น
ไอเดียการตลาดนี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จนวงดนตรี ค่ายเพลง และผู้จัดอื่น ๆ นำไปปรับใช้ในรูปแบบของตัวเอง ผ่านดีไซน์ที่หลากหลาย รวมถึงการนำมาจำหน่ายเป็นสินค้าที่ระลึกให้แฟนคลับได้ซื้อสวมใส่ เพื่อแสดงถึงไลฟ์สไตล์และรสนิยมทางดนตรี พร้อมทั้งสร้างรายได้และช่วยโปรโมตวงหรือศิลปินไปในตัว
ปัจจุบัน วงดนตรีและศิลปินทั่วโลกยังคงผลิตและจำหน่ายเสื้อทัวร์ต่อเนื่อง เพื่อมอบคุณค่าทางจิตใจแก่แฟนคลับและนักสะสม ในฐานะสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวของวงและช่วงเวลาสำคัญในชีวิต อีกทั้งยังเป็นช่องทางสร้างรายได้มหาศาลให้แก่นักลงทุน เมื่อเสื้อรุ่นนั้นกลายเป็นที่ต้องการในตลาดจากเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับวง เช่น การประกาศรียูเนียนของวง Oasis ในปี 2025 ที่ทำให้เสื้อทัวร์ยุค 90s ของ Oasis มีความต้องการพุ่งสูงในตลาดอังกฤษ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี บนเส้นทางของเสื้อทัวร์ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา สะท้อนภาพวงการดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จากเสื้อที่ระลึกแจกแฟนคลับกลุ่มเล็ก ๆ สู่สินค้าที่แสดงตัวตนของผู้สวมใส่ และของสะสมมูลค่าสูงที่หลายคนตามหา เนื่องจากการได้ครอบครองหรือสวมใส่เสื้อทัวร์เก่าตัวหนึ่ง เปรียบเสมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสช่วงเวลานั้นของวงการเพลง ส่วนสำหรับนักสะสมและนักลงทุน เสื้อวงหายากก็ไม่ต่างอะไรจากงานศิลป์บนผืนผ้ายืดที่มีเรื่องราว และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
สุดท้าย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด เสื้อทัวร์ยังคงความขลังและเสน่ห์ของมันเอาไว้ได้อย่างไม่มีวันตกยุค เพราะมันคือบทบันทึกแห่งความทรงจำเพลงที่สวมใส่ได้จริง
