กวาดตามองไปตลาดสมาร์ตโฟนวันนี้ มีตลาดหนึ่งที่กำลังเริ่มขยายตัว นั่นคือรุ่นจอพับ ทั้งของ Samsung และกลุ่มแบรนด์จีนอย่าง Vivo และ Oppo เพื่อตอบสนองเรื่องความสะดวกในการพกพา และความต้องการได้จอใหญ่ขึ้นเพื่อดูคอนเทนต์หรือใช้งานได้หลากหลายขึ้น 

ตลาดที่เริ่มขยายตัวนี้อาจทวีความน่าสนใจยิ่งขึ้น เพราะมีข่าวว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนา iPhone แบบจอพับอยู่ โดยหากเปิดตัวและส่งลงตลาดมาสู้กับแบรนด์อื่นๆ สมาร์ตโฟนแบบจอพับจะโตได้อีกมาก 

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่หนุนให้ตลาดสมาร์ตโฟนแบบจอพับเติบโต และเมื่อเจาะลึกลงไป สมาร์ตโฟนแบบจอพับก็คือทายาทของอุปกรณ์สื่อสารรูปทรงเตะตา แถมตายยากอีกด้วย 

โทรศัพท์แบบพับ ปรากฏขึ้นครั้งแรกในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Armageddon 2419 A.D. ของ ฟิลลิปส์ ฟรานซิส นาวแลน ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1928 แต่ก็ยังเป็นแค่อุปกรณ์สื่อสารล้ำยุคในจินตนาการเท่านั้น 

ข้ามมาปี 1989 บริษัท Motorola ของสหรัฐฯ ที่เคยสร้างชื่อจาก DynaTAC โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบปุ่มกดมีเสาอากาศและวางตั้งได้ หรือที่ชาวไทยเรียกกันว่า “รุ่นกระดูกหมา” ได้ส่ง MicroTAC ลงตลาด ซึ่งถือได้ว่าเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพับรุ่นแรก 

จากนั้นตลอดยุค 90 ต่อเนื่องมาถึงปี 2006 โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพับก็มีการผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งของ Ericsson, Nokia และ Samsung 

ซึ่งทุกครั้งที่มีการเปิดตัวก็กระตุ้นยอดขายของแต่ละแบรนด์ได้ทุกครั้ง ทั้งจากการพับทำให้ตัวอุปกรณ์เล็กลง และช่วยให้พกพาได้สะดวกขึ้น ขณะเดียวกันยังดูทันสมัย เตะตา และดูแพงอีกด้วย 

แต่แล้วขาลงของโทรศัพท์แบบพับก็มาถึง โดยปี 2007 Apple บริษัทเทคโนโลยีที่เคยดังจากคอมพิวเตอร์ McIntosh เมื่อยุค 80 เปิดตัว iPhone รุ่นแรก ซึ่งมาพร้อมหน้าจอสัมผัส รูปทรงเรียบหรูแต่ล้ำสมัย 

จากนั้นโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพับก็ทยอยหายไปจากตลาด ท่ามกลางตลาดอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาที่เปลี่ยนมาสู่ยุคสมาร์ตโฟนจอสัมผัส จนผู้ที่ยังใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพับอยู่ถูกมองว่าล้าสมัยและตกยุคไป เช่นเดียวกับแบรนด์อย่าง Motorola, Ericsson และ Nokia ที่ผลิตและเคยดังจากอุปกรณ์สื่อสารประเภทดังกล่าว 

ทว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพับ ก็กลายเป็นของตกยุคที่ไม่ตายแต่ก็ไม่โตหรือ Zombies Tech โดยในปี 2023 รุ่นจอพับ ทั้งของ Samsung คือ Flip และ Galaxy Fold ตามลำดับยอดขายเริ่มโต นำมาสู่การผลักดันรุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ยังอยู่เลขหลักเดียวก็ตาม 

ในปีเดียวกันยังมีโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพับอีกกลุ่มที่โต นั่นคือแบบพับมีปุ่มกดของ Nokia โดยวางตัวเป็นอุปกรณ์สื่อสารราคาเข้าถึงได้ ตรงข้ามกับของ Samsung ที่ราคาสูง 

นอกจากนี้ยังเจาะกลุ่ม Gen Z ที่อยากได้โทรศัพท์แบบโลว์เทค แจ้งเตือนน้อยๆ เพราะไม่อยากให้ความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์มารบกวนชีวิต ตามคนดังรุ่นเดียวกัน 

สำหรับในปี 2025 มีการประเมินกันว่ายอดขายสมาร์ตโฟนจอพับทั่วโลก จะอยู่ที่ประมาณ 19 ล้านเครื่อง ท่ามกลางการประเมินมูลค่าตลาดสมาร์ตโฟนแบบพับทั่วโลกจะอยู่ที่ 29,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 958,000 ล้านบาท) 

แต่ในปี 2026 จะโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยปัจจัยอยู่ที่การลงสู่ตลาดนี้ของ Apple โดยJPMorgan สื่อเศรษฐกิจและธุรกิจดังของสหรัฐฯ รายงานว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนา iPhone แบบจอพับ โดยจะเปิดตัวช่วงกันยายน 2026 และตั้งราคาไว้ที่เครื่องละ 1,999 ดอลลาร์ (ประมาณ 65,000 บาท) 

JPMorgan วิเคราะห์ว่า เพราะ Apple เป็นแบรนด์ดัง ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบ และยังเป็นผู้ที่สร้างตลาดสมาร์ตโฟนขึ้นมา การลงสู่ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับจึงอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสมาร์ตโฟนจอพับ และอาจทำให้ตลาดนี้โตขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดบนของผู้มีกำลังซื้อ ผ่านเหล่าสาวกของแบรนด์เอง 

JPMorgan วิเคราะห์ต่อว่า Apple จำเป็นต้องรุกสู่ตลาดสมาร์ตโฟนจอพับ เพราะตลาดสมาร์ตโฟนอิ่มตัวมานานแล้ว ประกอบกับคนปัจจุบันกำลังต้องการอุปกรณ์สื่อสารแบบจอพับกันมากขึ้น ทั้งเพื่อทำงาน ติดตามเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ และดูคอนเทนต์ต่างๆ ด้วยจอที่ใหญ่ขึ้น 

นอกจากนี้ยังอยากให้การพับปิดเป็นการพักจากการใช้เทคโนโลยี แบบเดียวกับการพับหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอีกด้วย / theguardian, cnn, wikipedia


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer