ในปี 2025 ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยยังเติบโตต่อเนื่อง และนับเป็นตลาดที่มีการขยายตัวเร็วที่สุดในภูมิภาค
Lazada เปิดเผยข้อมูลว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2024 มีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านบาท อัตราการเติบโตถึง 21.7% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 12% คาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจะมีมูลค่ารวม 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2030
ขณะที่นักช้อปไทยถึง 68.2% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ครองแชมป์จับจ่ายออนไลน์ต่อสัปดาห์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีผู้บริโภคประมาณ 43.5 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มนักช้อปตัวยง กลุ่ม Gen Z และ Gen Y สัดส่วน 62% ของตลาด กลุ่ม Gen X สัดส่วน 33% ของตลาด แต่กลุ่มนักช้อปเหล่านี้มีความยูนีคสูง เป็น High Engagement User ชอบมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์ม มองหาประสบการณ์ที่ได้ช้อปและสนุกไปด้วย สะท้อนจากความสำเร็จของ LazGame บนลาซาด้า
วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2025 คนไทยเล่น LazGame ไปแล้ว 4.5 พันล้านนาที จำนวนผู้เล่น LazGame ต่อวันเพิ่มขึ้น 25% และนักช้อปไทยเก็บ LazCoins ไป 2.1 หมื่นล้าน ซึ่งจำนวน LazCoins ที่นักช้อปเก็บต่อวันเทียบเท่าส่วนลดกว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีผู้ใช้งาน Lazzie ในช่วงแคมเปญ 6.6 อยู่ที่ 4 ล้านคน และ 50% ของคำสั่งซื้อในช่วงแคมเปญมีการใช้คูปองหลายต่อ ทั้งคูปองส่งฟรีร่วมกับคูปองส่วนลด
นอกจากนี้ ยังเผยว่าผู้บริโภคยุคใหม่ทุกเจนที่หันมาช้อปออนไลน์เป็นหลัก มีความคาดหวังกับสินค้ามากขึ้น มองเรื่องความคุ้มค่ามากกว่าราคา ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและประสบการณ์ที่ไว้วางใจได้ สะท้อนจากการเติบโตของยอดคำสั่งซื้อบน LazMall แหล่งรวมสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำที่เพิ่มขึ้นกว่า 22% ตั้งแต่ต้นปี 2025
Lazada พร้อมบุกเบิกทิศทางและสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยแนวคิด ‘Next-Level eCommerce’ มุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่มอบประสบการณ์การช้อปแบบพรีเมียม ชูจุดแข็งด้านสินค้าแบรนด์และบริการคุณภาพ ด้วย 3 โฟกัสหลัก พร้อมนำเทคโนโลยี AI เข้ามายกระดับประสบการณ์ให้กับทั้งผู้ซื้อ แบรนด์ และผู้ขาย
1.คัดสรรสินค้าคุณภาพครบทุกหมวดหมู่ (High-Quality Assortment) นำเสนอสินค้าแบรนด์แท้ 100% ตลอดจนสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ลาซาด้า ผ่าน LazMall และ LazMall Luxury ศูนย์รวมร้านค้าทางการของแบรนด์ชั้นนำ 32,000 แบรนด์ทั่วทั้งภูมิภาค ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายด้วยหมวดหมู่ขายดีอย่าง LazBEAUTY, LazLOOK และ Lazada Electronics
พร้อมนำร่องโมเดลค้าส่งสำหรับลูกค้าธุรกิจ (B2B) ตอบโจทย์ความต้องการผู้ประกอบการ ด้วยสินค้า 15,000 รายการ ครอบคลุมหมวดเกษตรกรรม อุปกรณ์ประปา และอุปกรณ์ไฟฟ้า
2.สร้างความมั่นใจให้กับนักช้อป (High-Quality Experience) อาทิ ‘4 การันตี’ จาก LazMall การันตีสินค้าแบรนด์แท้ 100% จัดส่งตรงเวลา คืนสินค้าพร้อมเงินคืนไว การันตีสต็อกพร้อม, โปรแกรมส่งเร็วพิเศษ Priority Delivery 24 Hours สั่งซื้อสินค้าภายในเที่ยง ได้รับสินค้าในวันถัดไป ตลอดจนประสบการณ์การช้อปไร้รอยต่อกับบริการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า โปรแกรมเก่าแลกใหม่และอัปเกรดรุ่นในหมวดโทรศัพท์มือถือ และประกันสินค้าในประเภทต่าง ๆ
รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี AI เช่น Lazzie แชตบอตอัจฉริยะผู้ช่วยแนะนำสินค้า ช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็นให้กับร้านค้า นอกจากนี้ ยังเตรียมส่งบริการใหม่ Lazada Membership ระบบสมาชิกสะสมคะแนนเพื่อมอบสิทธิพิเศษมากมายให้กับนักช้อป
3.ดึงอินไซต์สร้างอิมแพ็กผ่านแคมเปญคุณภาพ (High-Quality Campaign) ด้วยอินไซต์ที่ชี้ว่ากว่า 50% ของยอดขายบนแพลตฟอร์มมาจากแคมเปญ ลาซาด้าจึงเดินหน้าสร้างสรรค์แคมเปญหลากหลายรูปแบบตลอดทั้งปี โดยไม่เพียงทุ่มงบเพิ่มคูปองส่วนลดเอาใจนักช้อปในช่วงแคมเปญมากกว่าเดิมถึง 45% แต่ยังยึดพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม สร้างความเหนียวแน่นกับนักช้อป และสร้างโอกาสให้ผู้ขายเติบโตไปพร้อมกัน
สะท้อนความสำเร็จในช่วงเมกะแคมเปญและแคมเปญ Double Digit ด้วยยอดขายบนแพลตฟอร์มเติบโตกว่า 300% เมื่อเทียบกับวันปกติ ในขณะที่แคมเปญ Mid-Month ยอดโต 70% ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพบการเติบโตในแคมเปญหมวดหมู่สินค้า นำโดยหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าโตกว่า 2 เท่า ส่วนสินค้าแฟชันและความงามโตเพิ่มขึ้น 40%
