‘ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่’ ในไทยไม่เคยมีพักยก
จากยุคที่แข่งกันด้วยราคา แข่งกันอัดโปรแรงหวังดึงดูดผู้ใช้งาน
ในวันนี้… ฟู้ดเดลิเวอรี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของหลายๆ คนไปแล้ว
สมรภูมินี้ต้องแข่งขันกันต่อก็คงหนีไม่พ้นแข่งกันว่า
“ใครสามารถเข้าใจและอยู่ในใจผู้ใช้งานได้มากกว่ากัน”
GrabFood เองก็เชื่อว่าการจะเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคได้ดีที่สุด ต้องเริ่มจากมองไปที่ Pain points ของลูกค้า เพื่อให้รู้ถึงความต้องการที่แท้จริง และใช้ข้อมูลดาต้ารวมถึงอินไซท์ที่มีมานำเสนอความคุ้มค่าให้กับลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
นี่จึงกลายเป็นเริ่มต้นของแคมเปญ “GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์*” แคมเปญที่ GrabFood ตั้งใจยกระดับความคุ้มค่าให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ผู้บริโภคสัมผัสได้
ผ่านการใช้ทั้งข้อมูลอินไซท์ที่มี และตีบวกด้วยความคิดสร้างสรรค์ จนกลายเป็นแคมเปญการสื่อสารที่ทั้งสนุกและทรงพลัง รวมถึงเรายังจะได้เห็นการทุ่มสุดตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของปีแบบนี้ด้วยการชิงพื้นที่มิเดียแบบจัดเต็ม!
แคมเปญที่ว่านี้จะน่าสนใจแค่ไหน… Marketeer สรุปไว้ในบทความนี้

4 หมัดฮุกถูกกว่าชัวร์ รับรองว่าลูกค้าได้ใช้ชัวร์!
แคมเปญนี้ GrabFood เริ่มต้นจากการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มที่มีอยู่ในมือ ซึ่งยังคงพบว่า “ผู้ใช้จำนวนมากตัดสินใจสั่งอาหารจากความคุ้มค่า” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีลสุดคุ้ม โค้ดลดเพิ่มสำหรับร้านโปรด หรือค่าส่งพิเศษจากร้านโปรด แต่ในขณะเดียวกัน การหาดีลกลับเป็น pain point ที่หลายคนมองว่ายุ่งยาก
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแคมเปญ GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์*
ที่รวมความคุ้มค่าทั้งหมดไว้ในออเดอร์เดียว ผ่าน 4 หมัดฮุก ที่ทำให้การได้รับดีลพิเศษง่ายกว่านั้น
1. Hot Deals ที่มีดีลถูกเยอะมากกกกก จากร้านค้าทั่วประเทศ ทั้งร้านอาหารยอดฮิต ร้านที่กำลังเป็นกระแส ไปจนถึงร้านสตรีตฟู้ดส์ ร้านเล็ก ร้านดัง เพื่อตั้งใจให้ครอบคลุมทุกการสั่งในทุกๆ มื้อของผู้ใช้งานได้มากที่สุด
2. “โค้ดลดแรง” ลดสูงสุด 100 บาท** ที่สามารถกดเลือกใช้ได้ที่หน้าโปรโมชัน แบบไม่ต้องเก็บโค้ดหรือมองหาส่วนลดให้ยุ่งยาก แค่กดเลือกก็ใช้ได้เลย
3. สามารถ stack โค้ดเพื่อลดเพิ่มได้ สูงสุดถึง 100 บาท** เพียงกรอกโค้ด ‘MEGA’
4. ส่งฟรี* 0 บาทแบบไม่ต้องคิดมาก เพียงแค่เลือกการจัดส่งแบบ “ส่งถูก Saver” เท่านั้น
นี่คือฝั่งของการมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าแบบจับต้องได้ เข้าใจง่าย และเข้าใจ pain point เพื่อให้รู้สึกว่าทุกมื้อที่สั่งผ่าน GrabFood ถูกกว่าชัวร์*

แบรนด์พรีเซนเตอร์กับแคมเปญที่เกิดจากอินไซท์คนไทยแท้ๆ
แคมเปญ GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์* เลือกคนที่ใช่อย่าง เบลล่า ราณี มาเป็นแบรนด์พรีเซนเตอร์คนสำคัญ ที่จะมาช่วยยืนยันความถูกกกกผ่านแคมเปญต่างๆ
อย่างในช่วงนี้หากใครผ่านไปผ่านมาตามจุดสำคัญในกรุงเทพ ก็คงไม่พลาดที่จะได้เห็น เบลล่า ทำปากจู๋ อยู่ตามสื่อบิลบอร์ดทั่วเมือง และแน่นอนว่าแคมเปญนี้มีที่มาสนุกๆ เช่นกัน
‘ปากจู๋ Fever’ แคมเปญนี้มีที่มาจากทาง GrabFood สังเกตเห็นว่าเวลาที่ คนไทยพูดคำว่าถูกกกกก จะต้องทำปากจู๋กันทุกคน
ดังนั้นจึงหยิบเอากิมมิคที่ว่านี้มาเป็นไอเดียในการสื่อสารแบบที่ใครเห็นก็เก็ทได้ทันที ว่านี่คือความถูกกกกของ GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์*
และไม่ใช่แค่ขึ้นบิลบอร์ด… GrabFood เองก็เล่นใหญ่สร้างปรากฏการณ์ ปากจู๋ Fever ผ่านการใช้ KOLs อินฟลูเอนเซอร์ในช่องทางต่างๆ ในหลากหลายโซเชียล
รวมถึงยังจับมือกับ พาร์ทเนอร์ร้านชั้นนำอย่าง คาเฟ่ อเมซอน เบอร์เกอร์คิงส์ และแบรนด์อีกมากมาย จนเป็นแมสเซจที่ทุกคนเก็ทได้ทันทีว่าทำปากจู๋จะต้องคิดถึงความถูกของ GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์* อย่างแน่นอน

11.11 ปีนี้ GrabFood Mega Sale เล่นใหญ่!
เลือกยอดตึกใบหยก เปิดตัว “ดีล 11 บาทสุดช็อก”
เพราะวันที่ 11.11 คือวันที่คนทั้งประเทศรู้กันดีว่าเป็นวันแห่งการลดราคา โปรแรง ส่วนลดคุ้ม
GrabFood จึงเลือกที่จะชิงช่วงพีคทราฟฟิกที่ทุกคนกำลังอยู่ในโหมดอยากช้อป อยากสั่งด้วยการปล่อย “ดีลสุดช็อค เพียง 11 บาท” จับมือกับพาร์ทเนอร์แบรนด์ดัง อย่าง Popcorn Major, Potato Corner, Five Star, Chester’s และ Shinkanzen Sushi ปล่อยเมนูสุดฮิตในราคาเพียง 11 บาท เฉพาะสั่งผ่าน GrabFood เท่านั้น
และงานนี้ก็ยังไม่หยุดแค่บนแอปฯ … เพราะแคมเปญนี้ตั้งใจเล่นใหญ่ให้เห็นกันทั่วเมือง ด้วยการเปิดตัวบนยอดตึกใบหยกเพื่อประกาศให้คนทั้งเมืองรู้ว่า 11.11 ปีนี้ดีลแรงที่สุดอยู่ที่ GrabFood รวมถึงไดร์ฟกระแสให้เกิด Talk of the Town จนใครๆ ก็ต้องพูดถึง

“บนถุงซอส” กลายเป็นพื้นที่สื่อได้
เพราะเข้าใจดีว่าคนไทยติดซอส!
จากป้ายบิลบอร์ดกลางเมืองหรือยอดตึกสูง แคมเปญนี้ไม่ได้จบแค่การทุ่มสุดตัวเพื่อใช้พื้นที่ OOH สุดอลังในการขับเคลื่อนแคมเปญเพียงเท่านั้น แต่ GrabFood ยังมองเห็นพลังของพื้นที่เล็กๆ ที่หลายแบรนด์อาจมองข้ามอย่างบน “ถุงซอส” ที่อยู่ในมือผู้บริโภคแทบทุกมื้อ
แคมเปญนี้ถือว่ามาจากอินไซท์คนไทยจริงๆ เพราะ GrabFood รู้ว่า “คนไทยติดซอส”
ไม่ว่าจะเมนูไก่ทอด พิซซ่า หรือของทอดอะไรก็ต้องมีซอสไว้ก่อน
จึงพลิกของใกล้ตัวให้กลายเป็นสื่อใหม่สุดครีเอทีฟ “Sauce Ads” ด้วยการจับมือ Pizza Hut ทำการ Hijack ถุงซอสที่ต้องแถมให้ลูกค้า ด้วยการพิมพ์ข้อความ และโค้ดส่วนลดสำหรับมื้อถัดไปเมื่อสั่ง GrabFood แถมไปให้ลูกค้าด้วย
นี่คือไอเดียในการเปลี่ยนพื้นที่เล็กๆ ให้กลายเป็นช่องทางในการสื่อที่เข้าถึงลูกค้าได้อย่างสุดครีเอทจริงๆ
*ค่าส่งถูกกว่าชัวร์เมื่อเลือกการจัดส่งแบบส่งถูก (Saver) โดยเปรียบเทียบกับค่าส่งสำหรับการจัดส่งแบบปกติบน GrabFood
*ค่าส่ง 0 บาท เมื่อเลือกการจัดส่งแบบส่งถูก (Saver) จากร้านค้าที่ร่วมรายการและมีระยะการจัดส่งไม่เกิน 3 กม.
**ส่วนลดและยอดคำสั่งซื้อขั้นต่ำอาจแตกต่างไปตามประเภทของร้านค้า I เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ I เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
