แบรนด์แฟชั่นหรูสัญชาติอิตาลีกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังตำแหน่งหัวเรือใหญ่ด้านดีไซน์ว่างลง จากความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและต่อเนื่องภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

ดาริโอ วิตาเล่ ดีไซเนอร์ใหญ่ของ Versace ได้ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการ โดยทางแบรนด์ระบุว่า เป็นข้อตกลงร่วมกันและจะมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม พร้อมกล่าวขอบคุณที่เขามีส่วนช่วยพัฒนาแบรนด์ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต
การลาออกครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างมากในวงการแฟชั่นหรู เนื่องมาจากหลายประเด็น เริ่มจากดาริโอ วิตาเล่ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก โดนาเทลล่า เวอร์ซาเช่ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมแบรนด์มาอย่างยาวนานถึง 27 ปี นับตั้งแต่การเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมของพี่ชายเธอซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์
ถัดมาคือ Versace ภายใต้การดูแลของ โดนาเทลล่า เวอร์ซาเช่ ต้องเผชิญกับภาวะขาลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะยอดขายที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ จนนำไปสู่การที่เครือแบรนด์หรู Capri ของสหรัฐฯ ยอมขาย Versace ให้กับ Prada ไปแบบขาดทุนเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2025 หลังจากอยู่ภายใต้การดูแลของ Capri มา 7 ปี
ตามด้วยตัว ดาริโอ วิตาเล่ เองสร้างชื่อเสียงจากการปั้นแบรนด์ Miu Miu จนประสบความสำเร็จและมียอดขายดีเยี่ยม แต่กลับต้องลาออกจาก Versace หลังคุมแบรนด์ได้เพียง 9 เดือน และมีผลงานออกมาเพียงคอลเล็กชันเดียวเท่านั้น ซึ่งนำมาสู่ประเด็นสุดท้ายที่ทำให้การลาออกครั้งนี้เป็นข่าวดัง

สื่อในวงการแฟชั่นรายงานว่า การลาออกของ ดาริโอ วิตาเล่ ส่วนหนึ่งมาจาก ความไม่ลงรอยกับ อันเดรีย เกร์รา ซีอีโอคนใหม่ของ Prada โดยฝ่ายหลังไม่มั่นใจในความสามารถของวิตาเล่ในการบริหารควบคู่ไปกับการเป็นดีไซเนอร์ ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากยอดขายของทั้ง Prada และ Versace ยังอยู่ในช่วงที่ต้องฟื้นตัว
นอกจากนี้ ยังมีการประเมินว่า แม้คาดการณ์ว่ายอดขายแฟชั่นแบรนด์หรูทั่วโลกจะดีขึ้นในปี 2026 แต่ก็จะเติบโตขึ้นเพียง 3-5% เท่านั้น
ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ทีมดีไซเนอร์ของ Versace จะร่วมกันประคองแบรนด์ไปก่อน ส่วนผู้ที่อาจได้เป็นดีไซเนอร์ใหญ่คนใหม่ของ Versace ซึ่งจะเป็นคนที่ 4 นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ มีการวิเคราะห์กันว่า อาจเป็น อลิวิเยร์ รูสเตียง ที่เพิ่งออกจาก Balmain เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังทำงานมา 14 ปี หรือ คิม โจนส์ อดีตดีไซเนอร์ใหญ่ของ Fendi
การลาออกของ ดาริโอ วิตาเล่ จน Versace ต้องหาตัวดีไซเนอร์ใหญ่คนใหม่ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ปี 2025 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการแฟชั่นแบรนด์หรู

โดยในขณะที่ Versace ต้องเปลี่ยนดีไซเนอร์ถึง 2 คนภายในปีเดียว แบรนด์ดังอื่น ๆ ก็มีการเปลี่ยนดีไซเนอร์ใหญ่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Valentino, Loewe, และ Christian Dior รวมถึง Hermes ในฝั่งแฟชั่นผู้ชาย
การที่ Prada เข้าซื้อกิจการ Versace มีการวิเคราะห์กันว่า เป็นการรวมพลังของแบรนด์อิตาลี เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับเครือบริษัทแฟชั่นหรูฝรั่งเศสยักษ์ใหญ่อย่าง LVMH (ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังเช่น Celine, Fendi, Givenchy, และ Louis Vuitton) และ Kering (ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Gucci, Saint Laurent, Bottega Veneta และ Balenciaga) / theguardian
