ในวันที่ภาพรวมตลาดค้าปลีกไทย ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้านตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือน และสถานการณ์การเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน

ศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล / พลอยชมพู อัมพุช
คุณศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นตลาดเดียวที่ยังมีการเติบโตในระดับเลขสองหลัก สำหรับปี 2025 เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ ในกลุ่มค้าปลีกเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ไฮเปอร์มาร์เก็ต หรือเทรดดิชันนอล เทรด (ร้านค้าสะดวกซื้อ) ซึ่งมีตัวเลขติดลบ ส่วนคอนวีเนียนสโตร์ (ร้านค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคหรือร้านโชห่วย) ก็น่าจะติดลบเช่นกัน หากไม่มีโครงการคนละครึ่งพลัสที่เข้ามาส่งเสริมการใช้จ่าย
การเติบโตของตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต อยู่บนการแข่งขันที่สูง ผู้ประกอบการต่างก็มีการปรับตัวและสร้างฟอร์แมตใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและกำลังซื้อของลูกค้าในตลาดกลางถึงบนซึ่งยังคงดีอยู่ และเป็นฐานสำคัญที่ทำให้ตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตยังเติบโต
ส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ต ได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ลดความถี่ในการเข้าใช้บริการ อาจเหลือเพียงเดือนละครั้งจากสัปดาห์ละครั้ง และหันไปช้อปออนไลน์มากขึ้น โดยจะพบการปรับตัวด้วยการเพิ่มสัดส่วนของอาหารสด และเพิ่มร้านค้าแบบ Shop in Shop ภายในพื้นที่มากขึ้น
ด้านการปรับตัวของเทรดดิชันนอล เทรด พบว่ามีการปรับพื้นที่สาขาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ใกล้เคียงกับคอมแพคซูเปอร์มาร์เก็ต และมีการปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการ โดยมีการเพิ่มสินค้าอาหารสด สินค้านำเข้า และมีรถเข็นให้บริการในหลายสาขา
ขณะที่ทิศทางการปรับตัวเพื่อรักษาการเติบโตของซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่ได้วัดกันที่ขนาดอีกต่อไป แต่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการช้อปปิ้ง และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ
อีกทั้งปัจจุบัน ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลง่ายขึ้นและมีความต้องการที่ซับซ้อนขึ้น การแบ่งกลุ่มลูกค้าด้วยรายได้หรือราคาสินค้าจึงไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะทุกรายต่างแข่งขันด้านการบริการที่ใกล้เคียงกัน เช่น การส่งถึงบ้าน การเสนอโปรโมชันที่ครบถ้วน
ส่งผลให้ปัจจัยสำคัญที่จะตัดสินการแข่งขันของตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต จึงเป็นการที่ใครมีข้อมูลและเข้าใจลูกค้าได้มากที่สุด และมีความเร็วในการนำสินค้าหรือบริการออกสู่ตลาด โดยจะได้เห็นการเน้นทำการตลาดแบบ Personalization และจะขยับไปสู่ Hyper Personalization อย่างชัดเจนในอนาคต
ส่วนเทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์ บริษัทมองว่าส่งผลกระทบที่แตกต่างกันตามรูปแบบร้านค้าปลีก และก็ได้ผลักดันให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
ทั้งบริษัทก็มองว่าผู้บริโภคชาวไทยยังคงมีการปรับสมดุลการช้อปปิ้ง คือช้อปออนไลน์เมื่อสะดวก แต่ก็ยังต้องการเห็น สัมผัส หรือเดินทางไปช้อปปิ้งด้วยตนเอง ผู้ประกอบการร้านค้าปลีก จึงต้องปรับตัวให้ทันกับเทรนด์ผู้บริโภค โดยคงได้เห็นการพัฒนาไปสู่รูปแบบออมนิชาแนลหลังจากนี้
คุณพลอยชมพู อัมพุช ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ส่วนการดำเนินงานในปี 2025 ของ Gourmet Market (กูร์เมต์ มาร์เก็ต) พรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือบริษัท ยอมรับว่าถึงแม้จะเป็นปีที่เหนื่อย แต่ก็ยังสามารถรักษาการเติบโตไว้ได้จากการวางตำแหน่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางบนที่มีกำลังซื้อ และจัดสรรพื้นที่ 50% สำหรับอาหารสดเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำในความถี่ที่สูง
ทั้งมีสัดส่วนสินค้านำเข้าจากทั่วโลกคิดเป็น 15% ของพื้นที่วางขายในสาขา โดยปีนี้ยังเป็นปีแรกที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต เริ่มนำเข้าสินค้าเองบางส่วน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และตั้งเป้าให้ยอดขายในกลุ่มนี้เติบโตในระดับเลขสองหลักต่อปี
หากมองมายังผลการดำเนินงานของกูร์เมต์ มาร์เก็ตตามสาขา พบว่าโซนชานเมือง เช่น เดอะมอลล์ ท่าพระ, บางแค, งามวงศ์วาน, บางกะปิ มีการเติบโตในระดับเลขสองหลัก หลังได้รับการปรับปรุงสาขาครั้งใหญ่ เนื่องจากตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าในพื้นที่ซึ่งมักจะเป็นกลุ่มที่ซื้อบ้านหลังใหญ่หรือคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ารอบนอกเมือง ซึ่งมีพฤติกรรมทำอาหารทานเองบ่อย
บริษัทวางเป้าการเติบโตของ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทั้งปีนี้ไว้ในเชิงบวก แม้จะมองว่าไม่ถึงระดับเลขสองหลัก ซึ่งในช่วงสิ้นปี บริษัทก็ได้เปิดตัวแคมเปญกระเช้าของขวัญ Gourmet Market Blissful Hampers 2026 มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร หลังปีที่ผ่านมาเป็นกำลังซื้อสำคัญที่คิดเป็นสัดส่วนราว 85% ของยอดขายกระเช้าทั้งหมด โดยคาดหวังให้แคมเปญปีนี้ ส่งเสริมยอดขายกระเช้าเติบโตขึ้นอีก 10%
ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 2026 บริษัทวางเป้าการเติบโตของกูร์เมต์ มาร์เก็ต อยู่ในระดับเลขสองหลัก เน้นการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อส่งเสริมการสร้าง Experiential Retail เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า
ทั้งจะมีการขยายสาขากูร์เมต์ มาร์เก็ตใหม่ 1-2 แห่ง และแพลนรีโนเวทอีกหลายสาขาในช่วงครึ่งปีหลัง เน้นการพัฒนาสาขาในรูปแบบผสมผสานระหว่างการกิน ดื่ม ช้อปไว้ในที่เดียว และยังคงวางนโยบายชัดเจนว่าทุกสาขาต้องมีกำไรและสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง
