Nissan ยังคงเป็นแบรนด์รถญี่ปุ่นเบอร์ใหญ่ที่ไม่ว่าใครก็รู้จัก แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญปัญหามากมายทั้งยอดขายตก และเปลี่ยนผู้บริหารมาหลายคน คล้ายรถผ่านถนนขรุขระที่ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด
มาปีนี้ได้รับข่าวร้ายอีกครั้ง หลังเผยว่าระหว่างเมษายนถึงธันวาคมปี 2019 ทำกำไรได้เพียง 39,300 ล้านเยน (ราว 11,148 ล้านบาท) ลดลงจากเมษายนถึงธันวาคมปี 2018 ถึง 87.6% ท่ามกลางรายงานว่า Makoto Uchida-CEO คนล่าสุดกำลังร้อนๆ หนาวๆ
แม้ Makoto Uchida เพิ่งขึ้นมานั่งเก้าอี้ CEO ของ Nissan ไม่ถึง 3 เดือน แต่ก็มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าบอร์ดบริหาร Nissan เริ่มไม่ปลื้ม Makoto Uchida เพราะยังไม่เคยบอกให้ชัดว่าจะแก้ปัญหามากมายที่รุมเร้าบริษัทอย่างไร และหากยังคงนิ่งเฉย ปีนี้ Makoto Uchida อาจพ้นตำแหน่ง
หากไม่เริ่มพา Nissan พ้นวิกฤต CEO คนล่าสุดอาจหลุดจากตำแหน่ง
ไม่กี่ปีมานี้ Nissan ทำยอดขายทั่วโลกได้ลดลง โดยจาก 5.7 ล้านคันในปี 2017 ลงมาอยู่ที่ 5.5 ล้านคันในปี 2018 และปี 2019 คาดว่าอาจลงอีกมาอยู่ที่ 5 ล้านคัน ส่วนกำไรระหว่างเมษายนถึงธันวาคมปี 2019 ลงมาอยู่ที่ 39,300 ล้านเยน (ราว 11,148 ล้านบาท)
ในกรอบเวลาเดียวกันมูลค่าแบรนด์ของ Nissan ยังลดลงด้วย โดยจาก 24,768 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 767,808 ล้านบาท) ในปี 2017 ลงมาอยู่ที่ 19,172 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 594,332 ล้านบาท) ในปี และลดอีกจนมาอยู่ที่ 18,753 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 581,343 ล้านบาท) ในปี 2019
เหตุผลที่ทำให้ทั้งยอดขาย กำไร และมูลค่าแบรนด์ของ Nissan ลดลงมาจากยอดขายโดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีนลดลง หลังรถรุ่นใหม่ๆไม่สามารถสร้างความโดดเด่นเหนือคู่แข่งได้
ประกอบกับเศรษฐกิจโลกหดตัว จนต้องทยอยปลดพนักงานนับหมื่นในอีก 3 ปีจากนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดตัวเลขขาดทุน
Makoto Uchida
Makoto Uchida–CEO ของ Nissan ยอมรับว่าเป็นตัวเลขกำไรที่ออกมาต่ำเกินคาด และเป็นไปได้ว่าหากรวมผลกระทบจากการระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ทำให้ต้องปิดโรงงานในจีนหลายสัปดาห์เข้าไปด้วย ตัวเลขในการดำเนินธุรกิจของ Nissan ในปีงบประมาณล่าสุด ซึ่งจะสิ้นสุด 31 มีนาคมปีนี้ อาจแย่ลงไปอีก
ตัวเลขเชิงลบเหล่านี้ทำให้ Makoto Uchida เก้าอี้ร้อน โดยสำนักข่าว Reuters รายงานอ้างแหล่งข่าวใน Nissan ว่า บอร์ดบริหารเริ่มไม่พอใจ
และเริ่มกดดันให้ Makoto Uchida เร่งกอบกู้สถานการณ์ของบริษัท หรืออย่างน้อยก็ควรเผยแผนกู้วิกฤตที่ชัดเจน เพราะอยากให้ปัญหาที่สะสมมานานคลี่คลายเสียที
Ashwani Gupta
รายงานเดียวกันยังเผยด้วยว่า Makoto Uchida ไม่ลงรอยกับ Ashwani Gupta ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ที่ต้องทำงานร่วมกัน โดยภายในกลางปีนี้ หากสถานการณ์ของ Nissan ยังไม่ดีขึ้นบอร์ดบริหารอาจปลด Makoto Uchida พ้นตำแหน่ง CEO
ส่วนกรณีที่ Makoto Uchida ถูกปลดจะเป็นการเปลี่ยน CEO คนที่ 3 ของ Nissan ในรอบ 2 ปี ถัดจากการปลด Carlos Ghosn เพราะกรณีทุจริตเมื่อปี 2018 และ Hiroto Saikawa ที่ขึ้นมารับตำแหน่งแทนก็ลาออกในปีต่อมา หลังยอมรับทำผิดกฎในการรับเงินโบนัส
Hiroto Saikawa
สำหรับ Makoto Uchida นอกจากพา Nissan กลับมาทำกำไรแล้ว ยังต้องเยียวยาความสัมพันธ์ระหว่าง Nissan กับ Renault และ Mitsubishi อีกสองสมาชิกกลุ่มพันธมิตรยานยนต์ ที่ร้าวฉานจากการทุจริตของ Carlos Ghosn ด้วย
จาก Super CEO สู่ศัตรูเบอร์หนึ่ง
อีกประเด็นที่ยังถูกจับตามองคือความเคลื่อนไหวของ Carlos Ghosn ที่เปลี่ยนจาก CEO ผู้พลิกฟื้น Nissan ไปเป็นฝ่ายตรงข้าม โดยปี 1999 Carlos Ghosn เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้บริหาร Nissan หลัง Renault เข้ามาถือหุ้น
พร้อมเดินหน้าใช้แผนปรับโครงสร้างและลดค่าใช้จ่ายที่เห็นว่าไม่จำเป็นทั้งหมด ซึ่งจากแผนดังกล่าวทำให้พนักงาน Nissan ถึง 21,000 คนทั่วโลกต้องตกงาน
Carlos Ghosn
การปรับโครงสร้างครั้งนั้นประสบผลสำเร็จ โดยในปี 2003 Nissan เปลี่ยนจากแบรนด์รถขาดทุนสะสมมาสู่แบรนด์ที่ทำกำไร จน Carlos Ghosn ได้ฉายาว่า มือพิฆาตต้นทุน (Le Cost Killer) และเป็นชาวต่างชาติส่วนน้อยที่ชาวญี่ปุ่นยกย่อง
ถัดมาในปี 2016 Carlos Ghosn ก็ตั้งกลุ่มพันธมิตรยานยนต์ขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย Nissan Renault และ Mitsubishi ที่เขาเป็นผู้บริหารสูงสุดของทั้ง 3 แบรนด์
ปี 2017 กลุ่มพันธมิตรยานยนต์ภายใต้การดูแลของ Carlos Ghosn ทำยอดขายรวมกันได้กว่า 10.6 ล้านคัน แซงหน้า Toyota และเป็นอันดับ 2 ของโลกรองแค่เพียง Volkswagen Group เท่านั้น
แต่ปีถัดมาชื่อเสียงทั้งหมดที่ Carlos Ghosn สร้างมาต้องเสื่อมเสียจากการถูกปลดและจำกัดบริเวณให้อยู่แต่ในญี่ปุ่นจากกรณีทุจริต
ปลายปี 2019 Carlos Ghosn เป็นข่าวดังไปทั่วโลกอีกครั้ง หลังหลบหนีออกจากญี่ปุ่นด้วยการซ่อนตัวในกล่องเครื่องเสียงหรือเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ที่รอดพ้นการตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์ในสนามบินไม่นานหลังออกจากญี่ปุ่น
Carlos Ghosn ก็ปรากฏตัวตามสื่อและวิจารณ์ Nissan อย่างรุนแรง แน่นอน Nissan ไม่นิ่งเฉยได้ยื่นฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึง 90 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2,790 ล้านบาท)
เรื่องระหว่าง Carlos Ghosn กับ Nissan คงไม่จบง่ายๆ ท่ามกลางการจับตามองของแวดวงยานยนต์ว่า Nissan จะใช้วิธีการไหนหรือแนวทางใดในการกลับมา “เครื่องแรง” ได้อีกครั้ง/cnn, reuters, nissan, japantiday, branddirectory, wikipedia
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ