SMEG เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์นี้ดีไหม ? คลายข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้
เพราะราคาและโปรโมชั่นเป็นอีกตัวแปรสำคัญ ในการตัดสินใจซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้คน
แม้เครื่องใช้ไฟฟ้าจะเป็นสินค้าประเภทที่ผู้คนมีการวางแผนก่อนไปซื้อ แต่หากเจอแบรนด์อื่นที่อยู่ข้าง ๆ และมีสเปกใกล้เคียงกัน ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปซื้อของคู่แข่งก็เป็นได้
จะเห็นได้ว่าในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าจึงมีป้ายลดราคา-ผ่อนบัตรเครดิต 0% ติดเอาไว้อยู่มากมาย
แต่กลับมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่สองแบรนด์ ที่แม้จะไม่ลงมาเล่นในสงครามราคาจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมมากมายสักเท่าไร
และก็ยังสามารถขายได้ แม้จะแพงกว่าแบรนด์อื่น ๆ มากกว่าเท่าตัวก็ตาม
สองแบรนด์ที่เราพูดถึงอยู่นี้คือ SMEG และ DYSON

ทำความรู้จักกับกับแบรนด์SMEG กันดีกว่า
SMEGคือแบรนด์สัญชาติอิตาลีที่เกิดขึ้นในปี 1948
สินค้าเด่นของSMEG คือตู้เย็นสีแดง โดยรุ่นยอดนิยมอย่าง FAB28RRD3 นั้นมีราคาสูงถึง 95,000 บาท ซึ่งถ้าเป็นแบรนด์ทั่วไปที่ใช้กันตามบ้าน ตู้เย็นขนาดประมาณ 9 คิวนั้นขายอยู่ที่ราคา 10,000 บาทต้น ๆ เท่านั้น
และหากเทียบในเชิงเทคโนโลยีSMEG ก็ไม่ได้แตกต่างจากแบรนด์อื่นมากสักเท่าไร
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนยอมจ่ายซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของ SMEG ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็นหรือที่ปิ้งขนมปัง ก็คือเรื่องของแบรนด์และดีไซน์ล้วน ๆ
ซึ่งหากรถในฝันของใครหลายคนคือซูเปอร์คาร์
เครื่องครัวในฝันของคนรักการทำครัวก็คือSMEG เช่นกัน

อีกแบรนด์คือ DYSON กับจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่มาจากความผิดพลาดกว่า 5,126 ครั้งของ James Dyson วิศวกรชาวอังกฤษ (อ่านเรื่องราวของ James Dyson เพิ่มเติมได้ที่ marketeeronline.co/archives/106482 )
จุดเด่นของ Dyson คือการเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายแบรนด์แรก ๆ ของโลก
โดยมอเตอร์ที่ใส่ในเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson ถูกคิดมาจากหลักวิศวกรรมอากาศพลศาสตร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องบิน ตัวเครื่องก็ทำมาจากสารประกอบแบบเดียวกับที่ใช้ทำดาวเทียม
ซึ่งนอกจากเครื่องดูดฝุ่นแล้ว พัดลมและไดร์เป่าผมที่ดูแวบแรกแล้วสะดุดตา ใครเห็นก็เกิดความสงสัยว่าลมออกมาจากช่องทางไหน ก็เป็นไอเทมที่ได้รับความนิยมเช่นกัน


และแน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ผู้คนยอมซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของทั้งสองแบรนด์แม้จะมีราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่นหลายเท่าตัว คงไม่ใช่เพราะแค่ฟังก์ชันการใช้งานของมันเท่านั้น
เปรียบให้เห็นภาพก็คงเหมือนกับเสื้อผ้าหรือกระเป๋าหรูที่ผู้คนยอมจ่ายเงินราคาแพงให้กับบางสิ่งบางอย่าง
แม้จับต้องไม่ได้ แต่ให้ความรู้สึกทางใจ จริงไหม ?
ซึ่งนั่นก็คือ ‘ความเป็นแบรนด์นั่นเอง’
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
