สร้างความสมดุลให้กับชีวิต ( Well-being Concept ) ตอนที่ 1 โดยพลอย จริยะเวช

ระหว่างออกเดินทางฤดูร้อนนี้ทั้งไปต่างแดนและเดินเล่นซอกแซกเจอะเจอพิกัดเข้าข่ายของดีหลบเร้น (Hidden Gem Places) ในกรุงเทพฯ ทำให้ดิฉันเห็นเทรนด์การสร้างบริการอันเกี่ยวพันกับเรื่องราวของ Wellness, Well-being ที่ยังคงเติบโตอย่างน่าจับตาในทิศทางที่มีลักษณะเป็นไปได้จริงและยั่งยืน ถูกสอดแทรกอยู่ในหลายกิจการงานบริการที่เกี่ยวพันกับการใช้ชีวิตของผู้คนไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่พักแรม สายการบิน และอาหารการกิน

Wellness, Well-being Concept ดิฉันเรียกมันว่าแนวคิดเพื่อชีวาอันสมดุล หมายถึงสุขภาวะที่เกิดจากการที่คนเรามีร่างกายจิตใจแข็งแรง นำมาซึ่งความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย และเป็นสุข แนวคิดนี้จึงเน้นการทำความเข้าใจเรื่องราวการเชื่อมโยงของร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ให้สมดุลเนียนกลืนกันอันเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตอย่างสดชื่น เรื่องราวของ Wellness จึงครอบคลุมถึงการออกกำลังกาย อาหารการกิน การทำจิตให้สงบสบาย การจัดการกับอารมณ์ เป็นต้น

Well-being Hotel : 137 Pillars Suites & Residences Bangkok

สำหรับตอนที่ 1 ขอเริ่มด้วยที่พักแรม หนึ่งหมุดหมายทีเด็ดหลบเร้นใจกลางสุขุมวิทที่สร้างความประหลาดใจให้เรา คือรีสอร์ตที่มีรายละเอียดน่าสนใจตรงที่เขาให้ความสำคัญกับแนวคิด Well-being ที่พักนี้เป็นสาขาสองของโรงแรมแบรนด์ไทยที่สร้างชื่อมาจากจังหวัดเชียงใหม่ 137 Pillars House Chiang Mai เจ้าของรางวัล World Best จากนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดัง Travel + Leisure สองปีซ้อนคือ ค.ศ. 2016 & 2017

เป็นที่น่าภูมิใจที่โรงแรมสัญชาติไทยนี้ได้ใจนักเดินทางคุณภาพระดับโลก ทั้งด้านการให้บริการแบบพิเศษเฉพาะ ห้องพักที่กว้างขวางสะดวกสบาย รวมถึงที่ตั้งของโรงแรมอยู่บนที่ดินเก่าแก่พร้อมมีอาคารประวัติศาสตร์ของเชียงใหม่ซึ่งรู้จักกัน ในนาม ‘บ้าน 137 เสา’ ที่มีทั้งเรื่องราวความเป็นมาและสถาปัตยกรรมเรือนไม้สร้างความสนใจให้กับกลุ่มลูกค้าผู้สนใจเรื่อง ศิลปะ วัฒนธรรม

สามผู้บริหารหนุ่มสาวของโรงแรม คุณจักริ รุจิรัตน์ คุณหนึ่งฤทัย สงวนศักดิ์ภักดี และคุณนิดา วงศ์พันเลิศ ได้ช่วยกันเล่าให้ฟังถึงการขยายสาขานำพาแบรนด์ 137 เสา สู่กรุงเทพฯ “การออกแบบของ 137 Pillars Suites & Residences กรุงเทพฯ เราคำนึงถึงจุดเด่นของ 137 Pillars House เชียงใหม่ จึงนำตั้งแต่การออกแบบห้องสวีทขนาดใหญ่ ระเบียงขนาดกว้าง ทุกๆส่วนของห้องออกแบบโดยคำถึงการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย วัสดุที่เลือกใช้คุณภาพสูงสะท้อนความหรูหราของการพักผ่อน”

Landscape หรือการจัดภูมิทัศน์พื้นที่สีเขียวโดยเฉพาะสวนกำแพงแนวตั้ง (Green Wall) เป็นจุดเด่นที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ 137 Pillars เชียงใหม่ “ลูกค้าทุกคนประทับใจ Green Wall ผนังต้นไม้เขียวที่กรุด้านข้างสระว่ายน้ำที่เชียงใหม่ พอ มาที่กรุงเทพฯ เราจึงสร้าง Green Wall ไว้ทั้งสองสระว่ายน้ำด้วยเช่นกัน”

รายละเอียดที่ชนะใจนักเดินทางส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการเข้าใจออกแบบพื้นที่ ให้มีสัดส่วนตอบสนองความสบายของการใช้ชีวิต พร้อมสัดส่วนของสวนและพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ที่ให้โอโซน เป็นตัวสร้างเสน่ห์ให้ที่พักกลางกรุงนี้ ถ้าคุณขับรถเข้ามาในซอยพร้อมพงศ์ที่การจราจรติดขัดแทบทั้งวัน เวลารถติดอยู่ในรถเราจะได้หย่อนใจเมื่อมองไปเห็นสวนและพาวิลเลี่ยนสีขาว Garden on the ground floor ของโรงแรมซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้หลายคนขับรถเข้ามาทำความรู้จัก

เมื่อบรรยากาศเป็นใจสร้างความสดชื่นรื่นรมย์ขนาดนี้แล้ว ไม่แปลกที่โรงแรมนี้จะมุ่งเน้นบริการส่งเสริมการใช้ชีวิตให้แข็งแรงสมดุลโดยการปรับสภาพร่างกายจิตใจ ด้วยวิธีการที่มนุษย์เรียนรู้จากธรรมชาติ

“กลุ่มลูกค้าของโรงแรมเป็นกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี่ ที่เราสังเกตและพบว่ากลุ่มตลาดนี้ให้ความสนใจเรื่องดูแลสุขภาพมาก เลือกดื่ม เลือกรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมทั้งยังให้ความสนใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม”

137 Pillars กรุงเทพฯจึงสร้างสรรค์พื้นที่ที่เรียกว่า นิทรา สปา & เวลเนส ให้บริการ Holistic Therapies ต่างๆ หลากหลาย การบำบัดด้วยการนวดด้วยเทคนิคดั้งเดิมของหลายเชื้อชาติ มีอาหารออร์กานิครสดีบริการ มีการออกแบบโปรแกรมและทรีตเม้นต์ดูแลร่างกายจิตใจสำหรับแต่ละบุคคล เน้นให้แขกสร้างความสมดุลในแบบเฉพาะตัว เดือนที่แล้วมีการจัดกิจกรรม Farmer Market เล็กๆน่ารักบริเวณสวนของโรงแรม ให้ผู้คนมาจับจ่ายผลิตภัณฑ์ปลอดสารคัดสรรเพื่อนำไปปรุงอาหารในชีวิตประจำวัน

“ในงาน Farmer Market ที่เพิ่งผ่านไป เราจัด Cooking Demonstration โดยเชิญเชฟจากทั่วโลกและนักโภชนาการมืออาชีพมาร่วมให้ความรู้เรื่องการใช้อาหารเป็นยา (Food as Medicine) เชฟที่เราเชิญมาเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปรุงอาหารจากวัตถุดิบใกล้ตัว เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย นอกจากเรื่องอาหารเรายังลงลึกถึงเรื่องการออกกำลังกายและพักผ่อนอย่างถูกวิธี เพื่อทำให้ชีวิตมี energy ที่ดี แข็งแรง”

ช่วงปลายเมษายนถึงปลายมิถุนายนนี้ เป็นเวลา 9 สัปดาห์ โรงแรมจัดกิจกรรม SEASON OF WELLNESS เชิญเวลเนสกูรูผู้นำในวงการที่มีประสบการณ์มานานหลายสิบปีมีชื่อเสียงระดับสากล กลุ่มผู้นำที่ทำการศึกษาศาสตร์โบราณต่างๆที่มนุษย์แต่ละชาติใช้ดูแลรักษาความสมดุลร่างกายจิตใจให้มาประจำการและเปิดคอร์ส จัดโปรแกรมให้ผู้สนใจได้ลองสัมผัส เรียนรู้

กูรูแต่ละคนมีประสบการณ์มากว่ายี่สิบปีบ้างก็ทำหน้าที่ Wellness Coach ออกแบบสร้างโปรแกรมบำบัดต่างๆ ที่ผสมผสานศาสตร์โบราณนานาชาติในแบบตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Reiki, Tai Chi และ Singing Bowl Therapy อันนี้เป็นศาสตร์ทิเบต มีการใช้หม้อทรงคล้ายบาตรทำจากโลหะชนิดพิเศษหลอมรวมในสัดส่วนที่เป็นสูตรเฉพาะ เนื้อโลหะมีคุณสมบัติสร้างเสียงที่มีพลังสะเทือนของคลื่นเสียง เหมาะใช้ในการบำบัดและเสริมสร้างพลังงานดีให้ไหลเวียน

บางกูรูมีความรู้ทางด้านจักระ การฝังเข็ม การใช้วิธีการตามธรรมชาติสร้างความสมดุลให้สมองสองส่วน ศาสตร์โบราณว่าด้วยการหายใจ การเคลื่อนไหวร่างกาย โยคะ ไทชิ กังฟู เก้าสัปดาห์นี้โรงแรมจึงกลายเป็นพื้นที่ที่อาจเรียกว่าเป็นอาศรม Wellness แบบสมัยใหม่เต็มรูปแบบที่น่าจะดึงดูดผู้คนที่สนใจเรื่องราวการดูแลสุขภาพสายธรรมชาติให้มารวมตัวกันอย่างคึกคัก

ที่พักแบรนด์ไทยแบรนด์นี้ยังเดินหน้าให้ความสำคัญกับแนวคิดเพื่อชีวาอันสมดุลเต็มพิกัด “เรากำลังจะเปิด 137 Pillars Estate Phuket ตั้งอยู่บริเวณหาดกะตะ ประกอบด้วยพูลวิลล่าหลากหลายรูปแบบ พูลสวีท, พูลวิลล่าและซุปเปอร์วิลล่า ประมาณ 66 ห้อง ทุกห้องเห็นวิวทะเล และที่นี่ 137 Pillars จะเปิดตัว Nitra Spa Wellness Retreat ซึ่งเป็น Flagship Well-being Brand ของเรา พร้อมเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 2020” ตามด้วยการออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยจะเปิดรีสอร์ตที่ Bagan พม่า

ช่วงครึ่งปีหลัง 137 Pillars กรุงเทพฯยังจะจัดงานอีกหลากหลายรูปแบบที่เกี่ยวพันกับเรื่องราวกล่อมเกลาจิตใจ ทั้งในหมวดดนตรี ศิลปะ แฟชั่น ซึ่งงาน Hotel Art Fair 2018 ก็จะจัดขึ้นที่ Wellness Hotel แห่งนี้

แนวคิดเพื่อชีวาอันสมดุล (Well-being Concept) ยังไม่หยุดอยู่ที่แค่ธุรกิจที่พักแรม ตอนหน้าเราจะพาไปพบกับแนวคิดมาแรงนี้ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในธุรกิจสายการบินและอาหารการกิน

137 Pillars Suites & Residences Bangkok 59/1 สุขุมวิทซอย 39 https://137pillarsbangkok.com

Curated by Ploy Apr 2018