สถานการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ช่วงเปลี่ยนผ่าน มีประเด็นให้ติดตามมากมาย หนึ่งในคือการปรับตัวของบริษัทที่เคยทำเงินจากตลาดรถใช้น้ำมันมายาวนาน อย่าง NGK แบรนด์หัวเทียนสัญชาติญี่ปุ่น
NGK เดินหน้าซื้อกิจการ MGC บริษัทผู้ผลิตเครื่องวินิจฉัยโรคปอด ที่ยังผลิตปอดกับหัวใจเทียมด้วยในสหรัฐ ภายใต้งบ 170 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,900 ล้านบาท) โดยเป็นการซื้อผ่าน Caire บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์สหรัฐใต้ชายคา

ข้อตกลงซื้อกิจการดังกล่าวจะทำให้ NGK สามารถทำเงินจากปีกธุรกิจในแวดวงการแพทย์ได้มากขึ้น ต่อเนื่องจากการผลิตเครื่องผลิตอ็อกซิเจน และเป็นเจ้าห้องตรวจวินิจฉัยโรคในสหรัฐ
การซื้อกิจการครั้งนี้ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ช่วงสิ้นปี 2022 ถูกจับตามองมากกว่าในมิติการรุกสู่ธุรกิจเทคโนโลยีการแพทย์ เพราะแสดงให้เห็นว่า NGK กำลังกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาหัวเทียน

กับเซ็นเซอร์ตรวจจับควันเสีย อันเป็นธุรกิจหลักที่ตลาดกำลังหดตัว สวนทางกับเทรนด์รถ EV ที่กำลังมาแรง
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึง ความล้าหลัง-ล่าช้าของนวัตกรรมและค่ายรถญี่ปุ่น ร่วมไปถึงบริษัทในธุรกิจที่เกี่ยวข้องและย้อยกลับขึ้นไปถึงทางรัฐบาล

เมื่อไม่นานมานี้ อากิระ โยชิโนะ นักเคมีอาวุโสญี่ปุ่น ที่ร่วมพัฒนาแบตเตอร์รี่ลิเทียม-ไอออน จนได้รับรางวัลโนเบลปี 2019 ได้เรียกให้ค่ายญี่ปุ่นเร่งพัฒนาเร่งผลักดันรถ EV รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด
เพื่อช่วยให้ตลาดแบตเตอร์รี่ที่ญี่ปุ่นมีองค์ความรู้อยู่ขยายตัวและเก็บเกี่ยวดอกผลทางธุรกิจได้มากกว่านี้ แทนการปล่อยให้จีนกับเกาหลีใต้ทิ้งระยะห่างไปเรื่อยๆ จนตามไม่ทัน เช่นในปัจจุบัน / nikkei
