โอรีโอ ทำไมจึงกระตุ้นตลาดครั้งใหญ่ด้วยพลังของ BLACKPINK
ตลาดคุกกี้ในช่วงที่ผ่านมาติดลบ 1% ท่ามกลางตลาดบิสกิตรวมเติบโต 6% ด้วยมูลค่า 14,182 ล้านบาท มูลค่านี้อ้างอิงจากโอรีโอ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564-ตุลาคม 2565
ในตลาดบิสกิตจะประกอบด้วย 4 ตลาดหลัก ได้แก่
Wafer สัดส่วน 29% ของมูลค่าตลาด เติบโต 8%
Bitesize หรือขนมขบเคี้ยวขนาดเล็ก เช่น มินิโอรีโอ มีสัดส่วน 27% เติบโต 9%
Cookies 23% ลดลง 1%
Crackers 21% เติบโต 8%
การติดลบของตลาดคุกกี้ ณัฐธิดา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มสินค้าบิสกิต และชีส บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้เหตุผลว่ามาจากยอดจำหน่ายคุกกี้ผ่านช่องทางเทรดดิชันนอลเทรดลดลง จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และทำให้แบรนด์คุกกี้ที่มียอดจำหน่ายหลักผ่านช่องทางนี้มียอดการขายที่ลดลง
จากข้อมูลของโอรีโอพบว่าช่องทางจำหน่ายคุกกี้ในปัจจุบัน แบ่งเป็นช่องทางโมเดิร์นเทรด 73% เติบโต 1.2% และช่องทางเทรดดิชันนอลเทรดมีสัดส่วน 27% ลดลง 8%
ส่วนโอรีโอยังมียอดจำหน่ายที่เติบโตจากการทำตลาดสร้างสีสันในแคมเปญการตลาดตลอดปี เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำในแบรนด์สินค้าและซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องเมื่อต้องการรับประทานคุกกี้
สำหรับตลาดบิสกิตมีการเติบโต 6% ด้วยเหตุผลหลักคือการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย กระตุ้นการจับจ่าย ผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ รวมถึงการกลับมาทำงานในออฟฟิศสำนักงาน การที่ผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้าน และทำงาน โอกาสในการแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อบิสกิตรับประทานระหว่างวันจึงมีมากขึ้นตามมา
และมีช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด 73% เติบโต 8% และช่องทางเทรดดิชันนอลเทรดมีสัดส่วน 27% ลดลง 0.1%
ส่วนปี 2566 คาดการณ์ตลาดบิสกิตจะเติบโตมากกว่า 6% และมีการเติบโตในทุก ๆ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคุกกี้ที่จะกลับมาเติบโตเท่ากับตลาดรวมบิสกิต
การเติบโตของตลาดคุกกี้ส่วนหนึ่งมาจากกำลังซื้อที่กลับมาของผู้บริโภคไทย และการเข้ามาจับจ่ายของนักท่องเที่ยว
ที่มาพร้อมกับการแข่งขันของแบรนด์คุกกี้ ที่นำเสนอสินค้าใหม่ ๆ และแคมเปญการตลาดกระตุ้นยอดขาย
และโอรีโอ เป็นหนึ่งผู้เล่นหลักที่เข้ามาสร้างสีสัน กระตุ้นยอดจำหน่ายให้เติบโตในตลาดคุกกี้ปีนี้
แคมเปญแรกของปี 2566 โอรีโอ สร้างโอกาสทางการขาย สร้างการรับรู้ด้วยการจับมือกับ BLACKPINK ในแคมเปญ OREO X BLACKPINK ผ่านสินค้าใหม่และกิจกรรมต่าง ๆ
เหตุผลที่ โอรีโอ เลือกแคมเปญ OREO X BLACKPINK เป็นแคมเปญการตลาดช่วงต้นปี ซึ่งไม่ใช่ช่วงไฮซีซันของตลาดคุกกี้ โอรีโอ ต้องการเกาะกระแสคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR ที่จัดขึ้นในประเทศต่าง ๆ แถบเอเชีย
ซึ่งแคมเปญนี้เป็นกิจกรรมการตลาดที่โอรีโอ 7 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และเกาหลีใต้ ใช้งบการตลาดรวมกัน 7 ประเทศกว่า 200 ล้านบาท
การร่วมมือกับ BLACKPINK ส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จของโอรีโอ อเมริกา และประเทศอื่น ๆ ในแถบยุโรป จับมือกับ Lady Gaga ก่อนหน้านั้น
ในประเทศไทยแคมเปญ OREO X BLACKPINK ประกอบด้วย
การเปิดตัวโอรีโอ แบล็กพิ้งก์ รุ่น ลิมิเต็ด คุกกี้สีชมพู สอดใส่ครีม ดาร์กช็อกโกแลต ที่นำร่องวางจำหน่ายตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2565
โอรีโอ แบล็กพิ้งก์ รุ่น ลิมิเต็ด เป็นคุกกี้ที่โอรีโอเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดแฟนคลับแบล็กพิ้งก์ได้อย่างน่าสนใจ และสร้างการเติบโตด้านยอดจำหน่ายได้เป็นอย่างดี
เพราะหลังจากที่โอรีโอนำร่องเปิดจำหน่าย โอรีโอ แบล็กพิ้งก์ รุ่น ลิมิเต็ด ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจนสินค้าหมดตลาด
พร้อมกับเปลี่ยนแพ็กเกจโอรีโอรสชาติปกติ ในแพ็กเกจ 6 บาท 30 บาท และ 54 บาท ให้เป็นแพ็กเกจโอรีโอใส่มงกุฎ และมีคำว่า BLACKPINK กับลายเซ็นของ 4 สาว ดึงดูดให้กองทัพชาว Blinks ซื้อโอรีโอเพื่ออุดหนุนและเก็บสะสมสินค้าไปในตัว
และในขนาด 30 บาท มี QR Code ให้แฟนคลับสแกนเพื่อดูคลิปของ 4 สาว และในคลิปสามารถใส่ชื่อตัวเองในนั้นได้ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความเป็น Prisonization
ขนาด 54 บาท มีโฟโต้การ์ด แบล็กพิ้งก์ 10 ดีไซน์ ให้สะสม
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการตลาดอื่น ๆ เข้ามาเสริมแคมเปญ OREO X BLACKPINK ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอด 3 เดือน ตั้งแต่มกราคม-มีนาคม 2566 ในรูปแบบ 360 องศา
เช่น งานเปิดตัวแคมเปญ OREO X BLACKPINK ในวันที่ 6 มกราคม 2566 ที่ Siam Block I
ภาพยนตร์โฆษณา OREO X BLACKPINK ผ่านสื่อทีวี และดิจิทัล
สื่อ Out of Home บน BTS สยาม ใกล้งานคอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR ที่สนามกีฬาแห่งชาติ
ใช้สื่อโซเชียลมีเดียโปรโมตผ่านเพจและชุมชนแบล็กพิงก์ และ KOL ต่าง ๆ
สื่อ และโปรโมชั่น ณ จุดขาย
รวมถึงการแจกของแถมหมอนโอรีโอ สีชมพู และกิจกรรมชิงรางวัลอัลบัมพร้อมลายเซ็น 4 สาว แบล็กพิ้งก์
การที่โอรีโอ ประเทศไทย เป็นหนึ่งใน 7 ประเทศที่มีแคมเปญ OREO X BLACKPINK มาจากประเทศไทยเป็นหนึ่งใน Top3 ด้านยอดขายให้กับโอรีโอในเซาท์อีสต์เอเชีย
และประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ให้การตอบรับกระแส K-Pop อย่างน่าสนใจ
อ้างอิงข้อมูลจากโอรีโอ พบว่า 96% ของชาวไทยที่เคยสัมผัสเนื้อหาวัฒนธรรมของเกาหลียอมรับว่า K-Pop เป็นที่นิยม
และประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ดู K-Pop ผ่านยูทูบเป็นอันดับ 3 ของโลก และใช้เวลาไปกับ K-Pop ผ่านยูทูบเป็นอันดับ 2 ของโลก
นอกจากนี้ คนไทยยังมีการใช้จ่ายไปกับ K-Pop สูงสุดต่อเดือนเป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในเซาท์อีสต์เอเชีย
และการจับมือกับแบล็กพิ้งก์ในแคมเปญ OREO X BLACKPINK ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันภาพลักษณ์โอรีโอให้ดูเด็กลงและเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และ Young Adults มากขึ้น จากเดิมที่โอรีโอจับกลุ่ม Mom with Kid เป็นหลัก
เนื่องจากโอรีโอสำรวจพบว่ากลุ่ม Gen Z และ Young Adults เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ
และเป็นกลุ่มที่มีกำลังจับจ่ายอีกกลุ่มหนึ่ง
และ โอรีโอ เริ่มปรับเปลี่ยนการสื่อสารเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และ Young Adults ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี สำหรับตลาดบิสกิตและตลาดคุกกี้ในปี 2566 โอรีโอมองว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตมากกว่า 6% จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และกำลังซื้อที่กลับมาของคนไทย
และโอรีโอพร้อมรุกตลาดคุกกี้ผ่านกิจกรรมการตลาดและแคมเปญต่าง ๆ ต่อเนื่องทั้งปี ผ่านโฆษณาที่เราได้เห็นตามสื่อต่าง ๆ ทุกสัปดาห์
เพราะโอรีโอต้องการรักษาผู้นำตลาดและเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องยาวนาน
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



