
ด้วยวัยใกล้ 40 ปีเข้าไปทุกที ๆ จึงกล่าวได้ว่า Lionel Messi กำลังนับถอยหลังสู่วันแขวนสตั๊ดเลิกเล่น โดยคอบอลทั่วโลกก็รู้ว่ายอดนักเตะแห่งยุครายนี้ ยังมีฝันอย่างหนึ่งที่ต้องการทำให้เป็นจริงนั่นคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครอง

Lionel Messi สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ โดยแม้ประเดิมนัดแรกอย่างน่าผิดหวัง แพ้ ซาอุดีอาระเบียแบบช็อกโลก และต้องลุ้นลูกโทษตัดสินกับฝรั่งเศส ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์เก่า แต่ที่สุดเขาก็พาทีมคว้าแชมป์มาได้สำเร็จ
ฟุตบอลโลกครั้งนี้ Lionel Messi ลงสนามรับใช้ชาติทั้งหมด 6 นัด และเสื้อที่ใส่ในทั้ง 6 นัดนี้ ได้ถูกนำมาออกประมูลด้วยราคาติดอันดับโลก

Sotheby’s บริษัทประมูลในสหรัฐฯ นำเสื้อทีมชาติอาร์เจนฯ ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2022 ของ Lionel Messi ที่ได้มาจากบริษัทสตาร์ทอัปบ้านเกิดของเจ้าตัว ออกมาประมูลตั้งแต่ 30 พฤศจิกายน และปิดประมูลเมื่อ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา

ปรากฏว่าราคาไปปิดที่ 7.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 271 ล้านบาท) และทางผู้ที่ได้ไปไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยแม้เป็นราคาที่ต่ำกว่าคาดไว้ แต่ก็ยังถือเป็นเสื้อชุดแข่งที่ Lionel Messi เคยใส่ที่ประมูลได้ราคาสูงสุด
มากกว่าราคาประมูล 450,000 ดอลลาร์ (ราว 15 ล้านบาท) เมื่อปี 2022 ของเสื้อสโมสร Barcelona ต้นสังกัดเก่า นัดเจอกับ Real Madrid สโมสรคู่ปรับเมื่อปี 2017

และที่สำคัญยังเป็นราคาประมูลเสื้อของนักกีฬาดังสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเสื้อทีม Chicago Bulls ที่ Michael Jordan ใส่ในนัดแรกของ NBA Finals ปี 1998 ซึ่งปรากฏอยู่ในซีรีส์ Last Dance
และเสื้อทีมชาติอาร์เจนฯ ที่ Diego Maradona ใส่ในฟุตบอลโลกปี 1986 นัดทำ Hand of God

ซึ่งปิดประมูลที่ 10.1 ล้านดอลลาร์ (ราว 351 ล้านบาท) และ 9.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 323 ล้านบาท) ตามลำดับ
ราคาประมูลมากเป็นสถิติโลกของ Lionel Messi แสดงให้เห็นว่า ตลาดประมูลของสะสมในวงการกีฬาจะโตได้อีก หลังช่วงสถานการณ์โควิดโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ต่อเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ที่ตลาดโตอย่างเป็นระบบและช่วยสร้างงานใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย
เช่น บริษัทเพิ่มความคมชัดของภาพเพื่อประโยชน์ในการพิสูจน์ของแท้ และบริษัทห้องนิรภัยสำหรับของสะสมวงการกีฬา
นอกจากนี้ ยังช่วยให้ห้องประชุมใหญ่ ๆ คึกคักขึ้นทุกครั้งที่มีการประมูลของสะสมวงการกีฬา ทั้งด้วยยอดผู้เข้าใช้ประชุมที่เพิ่มขึ้น และความกว้างกับความจุห้องที่เพิ่มขึ้น

มีการคาดการณ์ว่าตลาดประมูลของสะสมวงการกีฬาทั่วโลกซึ่งเมื่อปี 2021 อยู่ที่ 26,100 ล้านดอลลาร์ (ราว 9 แสนล้านบาท) เมื่อถึงปี 2032 จะเพิ่มขึ้นเป็น 227,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.9 ล้านล้านบาท)
ท่ามกลางรูปแบบของสะสมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่ของเก่าเก็บ อย่างไพ่ ตามด้วยชุดหรืออุปกรณ์ที่นักกีฬาดังเคยสวมใส่ เช่น เสื้อทีมชาติอาร์เจนฯ ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกของ Lionel Messi ที่เพิ่งประมูลกันไป

รวมไปถึงลายเซ็นที่มีวิธีมากมายในการได้มา และราคาจะพุ่งสูงทันทีหลังนักกีฬาคนใดคนหนึ่งดังขึ้นมา เช่น ลายเซ็นของโชเฮย์ โอตานิ นักเบสบอลดังชาวญี่ปุ่น เมื่อปี 2022 สมัยที่ยังเล่นให้ LA Angels ซึ่งก็สูงถึง 9,999 ดอลลาร์ (ราว 348,000 บาท) แต่ปี 2023 คงสูงขึ้นอีกมาก เพราะเพิ่งย้ายทีมด้วยค่าเหนื่อยมากเป็นสถิติโลก
สำหรับการตีราคาของสะสมวงการกีฬาจะพิจารณาหลัก 4 ข้อคือ ความเป็นของจริงของแท้ เรื่องราวที่ทำให้มีความสำคัญ สภาพ และความหายาก

แต่อายุต่างกันก็จะสนใจประมูลของสะสมที่ต่างกัน เช่น คนรุ่น Babyboom ก็จะสนใจไพ่ภาพนักกีฬา Gen X ก็สนใจชุดหรือรองเท้าของนักกีฬาจากยุค 90 ส่วนคนรุ่นใหม่ก็สนใจ ชุดหรือรองเท้าของนักกีฬาดังช่วงราว 10 ปีมานี้
และการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบของของสะสมวงการกีฬาก็ทำให้เกิดบริษัทประมูลของสะสมขึ้นมากมาย และบางแห่งก็เน้นไปที่ของสะสมวงการกีฬาเลย
เช่น Goldin ที่อยู่ในซีรีส์สารคดี King of Collectabies :The Goldin Touch ซึ่ง Ken Goldin ตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 จากความชอบวัยเด็กแล้วพัฒนาเป็นธุรกิจ จนปี 2022 ทำเงินได้ถึง 800,000 ดอลลาร์ (ราว 27 ล้านบาท) ♦/abc, cnn, wikipedia, robbreport, theguardian
–
