Trend / เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในดัชนีสำคัญในตลาดหุ้นสหรัฐฯ สะท้อนถึงทิศทางใหม่ทางเทคโนโลยีและขาลงของหนึ่งในยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมชิป

S&P Dow Jones Indices บริษัทร่วมทุนที่บริหารจัดการซื้อ-ขายหุ้น ในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ ประกาศตัดหุ้น Intel ออกจากดัชนี Dow Jones Industrial Averages (DJIA) หรือหุ้น 30 บริษัทในอุตสาหกรรมใหญ่ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ปี 2024 ราคาที่หุ้นตกเกิน 50% ลงมาอยู่ที่เพียง 23 ดอลลาร์ (ราว 772 บาท) ต่อหุ้นเท่านั้น แสดงถึงขาลงของบริษัทอายุเกือบทศวรรษ และหนึ่งในบริษัทที่คิดค้นชิป โดยคนทั่วโลกต่างจดจำได้จากแคมเปญ Intel Inside ซึ่งชิปของบริษัทอยู่ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนใหญ่ทั่วโลก

พัฒนาการดังกล่าวพาให้ Intel สู่ขาขึ้น ประสบความสำเร็จด้านยอดขายและได้เข้าไปอยู่ใน DJIA มาตั้งแต่ปี 1999

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทิศทางเทคโนโลยีก็เปลี่ยน โดยช่วงไม่กี่ปีมานี้ Intel ปรับตัวช้า เสียความเป็นเบอร์ต้น ๆ ในตลาดโลกให้ TSMC บริษัทคู่แข่งจากไต้หวัน ไม่ได้ลงทุนในชิปเอไอ และยังมองข้าม OpenAI บริษัทที่ต่อมาจะมีบทบาทสำคัญด้านเอไออีก

ขณะที่ Intel ร่วงสู่ขาลง บริษัทที่แรงขึ้นมาและคาดการณ์ถูกต้องว่าชิปเอไอ กับเอไอ จะเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีคือ Nvidia ซึ่งก็พิสูจน์ได้จากความตื่นตัวเรื่องเอไอทั่วโลกช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ความตื่นตัวเรื่องเอไอ ที่มีอยู่ตั้งแต่ในอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ตโฟนไปจนถึงยานพาหนะขนาดมหึมาอย่างเครื่องบินนี้ พาให้หุ้นราคาหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าในช่วง 2 ปี จนแซง Intel และเมื่อปี 2023 ถือเป็นบริษัทชิปแห่งแรกที่มูลค่าสูงถึงล้านล้านดอลลาร์

มาปี 2024 Nvidia คือบริษัทมูลค่าสูงสุดมากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยจากสถานการณ์ทั้งหมดทำให้เมื่อ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา S&P Dow Jones Indices ประกาศตัดหุ้น Intel ออกไปจาก DJIA ซึ่งหุ้นบริษัทชิปเหมาะสมที่สุดที่ได้เข้ามาแทนตั้งแต่ 8 พฤศจิกายนเป็นต้นไป คือ Nvidia นั่นเอง

สำหรับ Intel ก่อตั้งเมื่อปี 1968 โดยวิศวกรระดับหัวกะทิชาวอเมริกัน 3 คนคือ กอร์ดอน มัวร์, โรเบิร์ต นอยส์ และ อาร์เธอร์ ร็อค

ใน 3 คนนี้ คนแรกคือผู้คิดค้นกฎของมัวร์ ที่คาดการณ์ว่าความสามารถในการประมวลผลของอุปกรณ์จะพัฒนาต่อเนื่องแบบทวีคูณในทุก ๆ 2 ปี ตามจำนวนชิปและแผงวงจรด้านใน

กฎดังกล่าวยังคงใช้กันอยู่และคนในวงการอุตสาหกรรมเทคโนโลยียังจดจำได้ แต่ก็น่าเสียดายบริษัทที่ผู้คิดค้นกฎนี้ก่อตั้งขึ้น กลับกลายเป็นบริษัทตกยุคและตามไม่ทันเทคโนโลยีเสียเอง / cnbc, cnn, japantoday


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer