Trend / ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2024 เหมือนรถที่เครื่องสะดุด หลังเผชิญทั้งปัญหาและขาลง ตัวอย่างที่ชัดเจนของเรื่องนี้คือ Volkswagen ของเยอรมนีที่ประกาศปลดพนักงานล็อตใหญ่และปิดโรงงานหลายแห่งในประเทศ หลังยอดขายตก

ล่าสุดค่ายรถที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งก็จำเป็นต้องใช้แนวทางเดียวกันเพื่อรับมือกับวิกฤต

Nissan ประกาศปลดพนักงานทั่วโลก 9,000 คน ตามแผนลดรายจ่ายและปรับโครงสร้างองค์กร หลังไตรมาส 2 ที่ผ่านมา (สิ้นสุดเมื่อกันยายน) ขาดทุน 62 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,112 ล้านบาท) ส่วนตัวเลขสำคัญในการดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ของไตรมาสเดียวกันอย่างผลประกอบการและกำไรต่างก็ลดลง

ซึ่งส่งผลสืบเนื่องให้ต้องลดคาดการณ์ผลประกอบการและกำไรของปี 2024 ลงตามไปด้วย

ขาลงของ Nissan ครั้งนี้เกิดจากหลายสาเหตุ สาเหตุแรกมาจากยอดขายรถในทวีปอเมริกาและจีนตกลงอย่างมาก โดยในสหรัฐฯ มีปัจจัยลบจากภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ชาวอเมริกันระงับการซื้อรถใหม่ออกไปก่อน

ส่วนในจีน Nissan แพ้ให้กับแบรนด์จีนทั้งเรื่องเทคโนโลยีและราคา อันเป็นปัญหาเดียวกับที่แบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์ต่างชาติอื่น ๆ กำลังประสบอยู่

ส่วนสาเหตุต่อมาที่ทำให้ Nissan เจอวิกฤตมาจากปัญหาเรื่องภาพลักษณ์และการปรับตัวช้า

สื่ออังกฤษวิเคราะห์อิงจากทัศนะของกูรูวงการยานยนต์ว่า Nissan ดูเชยในสายตาผู้บริโภคส่วนใหญ่ทั่วโลก ปรับตัวช้าหลังอุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนผ่านจากรถใช้น้ำมันสู่รถพลังงานไฟฟ้าหรืออีวี ทำให้มีรถอีวีผลิตออกมาน้อย

และยังเน้นผลิตรถเครื่องยนต์ลูกผสมระหว่างน้ำมันกับไฟฟ้าออกมามากกว่ารถอีวีอีกด้วย

ส่วนสาเหตุสุดท้ายมาจากสถานการณ์ในตลาดยานยนต์และผลกระทบต่อเนื่องจากสาเหตุที่สอง โดยปัจจุบันกลายเป็นว่าตลาดรถอีวีโตไม่มากเท่าที่คาดกันไว้ เพราะจุดชาร์จไฟฟ้าหลายประเทศยังมีไม่ครอบคลุม จนทำให้ยุโรปบางประเทศลดเงินสนับสนุนในโครงการจูงใจซื้อรถอีวี

ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า เป้าหมายในการซื้อ-ขายรถใช้น้ำมันแล้วเปลี่ยนไปเป็นรถอีวีเต็มรูปแบบในปี 2030 ของสมาชิกสหภาพยุโรปต้องเลื่อนออกไป

และคงมีเพียงยุโรปประเทศที่มั่งคั่งและผลักดันรถอีวีมาก่อน อย่าง นอร์เวย์เท่านั้นที่ถึงเป้าหมายนี้ได้ หลังปี 2024 ยอดขายรถอีวีแซงรถใช้น้ำมันไปเรียบร้อย

การโตช้ากว่าที่คาดของตลาดรถอีวียังเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ด้วย จนทำให้ 2 ค่ายรถใหญ่ของประเทศคือ GM และ Ford เลื่อนเป้าหมายการผลิตรถอีวีทั้งสายการผลิตออกไป

เมื่อสถานการณ์ในหลายประเทศเป็นเช่นนี้ แม้ยอดขายรถไฮบริดโตกว่าที่คาดไว้และ Nissan ก็มีรถประเภทนี้ แต่เมื่อ Nissan ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้ซื้อรถ จึงฉุดยอดขายโดยรวมลดลงมา โดยผู้ซื้อรถมองข้าม จุดนี้ Nissan เองก็ยอมรับว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง  

สำหรับแผนตัดลดรายจ่ายของ Nissan ไม่ได้มีแค่การปลดพนักงานครั้งใหญ่ทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมการลดกำลังผลิตลง 20% ลดการลงทุนและงบส่วนต่าง ๆ ขณะที่สัดส่วนหุ้นใน Mitsubishi ก็ลดลงจาก 34% ลงมาเหลือ 24%

ขณะที่ มาโกโตะ อูชีดะ ซีอีโอ Nissan ประกาศขอลดเงินเดือนตัวเองลงมา 50% ส่วนบอร์ดบริหารก็จะลดเงินเดือนโดยสมัครใจ ซึ่งจะเริ่มพร้อมกันตั้งแต่พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยกอบกู้สถานการณ์ขององค์กรอีกทางหนึ่งด้วย / bbc, japantoday, cnbc

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer