แสนสิริ กลยุทธ์ปี 68 ชูแผน Dynamic Growth เติบโตแข็งแกร่ง ลุยขยายพอร์ตพรีเมี่ยม-กลาง
ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านของธุรกิจอสังหาฯ ไทย แต่ “แสนสิริ” ยังคงตอกย้ำความยอดเยี่ยม ด้วยผลการดำเนินงานปี 2567 ที่โดดเด่น สามารถเติบโตอย่างสม่ำเสมอ สร้างยอดขายรวมถึง 50,000 ล้านบาท และยอดโอน (รวมโครงการร่วมทุน) ทะลุเป้าอยู่ที่ 43,700 ล้านบาท สามารถ Sold Out ได้ถึง 25 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มสัดส่วนการเปิดตัวโครงการ โดยเฉพาะโครงการแนวราบ รวมทั้งการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับสูง
หนึ่งในไฮไลต์ความสำเร็จที่น่าสนใจในปีที่ผ่านมา คือการเดินหน้ารุกหนักแผน Strategic Location ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขยายธุรกิจอย่าง “ภูเก็ต” และ “เชียงใหม่” ที่ส่งผลให้แสนสิริสร้างยอดขายในตลาดต่างจังหวัดได้ถึงระดับ 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 120% โดยเฉพาะการเปิดตัว “The Society” (เดอะ โซไซตี้) โซเชียล สเปซ แห่งแรกของแสนสิริในภูเก็ต ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจและเติบโตสูงสุดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุด อุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ ประธานผู้บริหารสายงานกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มาอัพเดทภาพรวม พร้อมเตรียมปลุกตลาดและสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการประกาศแผนธุรกิจปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Dynamic Growth” เติบโตแข็งแกร่ง
รายละเอียดเป็นอย่างไร Marketeer พาไปเจาะลึกพร้อมกัน
แผนปี 68 “Dynamic Growth” ปลุกตลาด สร้างความเชื่อมั่น ลุยเปิด 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการใหญ่ แสนสิริ เปิดเผยว่า ปี 2568 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทาย โดยเฉพาะภาคอสังหาฯ ที่มีชาเลนจ์ในหลากหลายด้าน สำหรับแสนสิริในฐานะรายใหญ่และเป็นเจ้าตลาดฯ จึงขอร่วมขับเคลื่อนตลาด และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรม ผ่านแผนธุรกิจปี 68 ภายใต้แนวคิด Dynamic Growth เติบโตแข็งแกร่ง

ไฮไลต์สำคัญ คือการวางแผน เปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท โดยเน้นลุยขยายพอร์ตสินค้าระดับพรีเมี่ยม-กลางในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูง เร่งเครื่องเปิดตัวคอนโดทำเลในเมือง เติมเต็ม Backlog ระยะยาว รุกต่อ Strategic Locations เมืองท่องเที่ยวใหญ่ ภูเก็ต – พัทยา – ขอนแก่น และขยายโอกาสในการลงทุน จับมือพันธมิตรธุรกิจรายใหม่ๆ พัฒนาโครงการร่วมกัน โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 53,000 ล้านบาท เป้าหมายยอดโอน 46,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
แผนแนวราบ 14 โครงการ มูลค่า 31,600 ล้านบาท
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี ที่แสนสิริบุกตลาดพรีเมี่ยมและมีเดียมครอบคลุมทุกทำเลมากที่สุด โดยมีไฮไลต์ คือ
- บ้านเดี่ยวแบรนด์ “นาราสิริ” 3 โครงการใหม่ ครอบคลุมมุมเมืองรอบกรุงเทพฯ อาทิ นาราสิริ บางนา กม.10 ราคาเริ่ม 60-150 ล้านบาท อยู่ใน SANSIRI 10 EAST ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้ใหม่ในย่านบางนา (พรีเซลมีนาคมนี้)

- “DEMI” (เดมี) ลักซ์ชัวรี เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ ซึ่งแสนสิริได้ตอกย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯ ลักซ์ชัวรีไทยโดยการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการแรกเดมี สาธุ 49 ด้วยการเปิดตัว เดมี พระราม 9 เหม่งจ๋าย ราคาเริ่ม 27.9 ล้านบาท (พรีเซลไตรมาส 2)

- การกลับมาของแบรนด์ “บุราสิริ” ที่ลูกค้ารอคอยมานาน กับ บุราสิริ จตุโชติ ราคา 13.5-25 ล้านบาท(พรีเซลไตรมาส 3) อยู่ในจตุโชติ คอมมูนิตี้ ขนาดกว่า 184 ไร่ และครั้งแรกกับเศรษฐสิริ เกาะแก้ว (ภูเก็ต) ราคา 12-20 ล้านบาท (พรีเซลไตรมาส 3)

แผนคอนโดมิเนียม 15 โครงการ มูลค่า 20,400 ล้านบาท
เดินหน้าเร่งขยายพอร์ตคอนโดฯ ในเมืองและ Strategic Location โครงการที่เป็นไฮไลต์ได้แก่
- “พีทีวาย เรสซิเดนซ์ สาย 1” (PTY Residence Sai 1) โครงการใหม่ที่แตกต่างไม่เหมือนใครและได้รับความสนใจมากที่สุดบนถนนพัทยา สาย 1 มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ราคาเริ่ม 6.99 ล้านบาท

- คอนโดมิเนียมใหม่ในทำเล “นางลิ้นจี่” ครั้งแรกของการเปิดตัวบนทำเลที่เป็น Hidden Gem กลางเมืองโลเคชันที่หายาก มูลค่า 3,100 ล้านบาท

- “เวีย สุขุมวิท 34” คอนโดมิเนียมใจกลางสุขุมวิท มูลค่า 1,300 ล้านบาท ที่เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทุกคนจับตามอง

- คอนโดมิเนียมแบรนด์ HAUS โครงการล่าสุดใน T77 มูลค่า 2,800 ล้านบาท ที่จะเติมเต็ม Portfolio แสนสิริให้แข็งแกร่งและครอบคลุมทุกความต้องการและระดับราคามากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ชู 5 กลยุทธ์สำคัญขับเคลื่อนองค์กรอย่างแข็งแกร่ง
ต่อทิศทางและภาพรวมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ ประธานผู้บริหารสายงานกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ได้เห็นเซ็นทิเมนต์ตลาดหลายประการที่มีการตั้งคำถาม ไม่ว่าจะเป็นทิศทางดอกเบี้ย กำลังซื้อของผู้บริโภค แต่สำหรับแสนสิริแล้วขอชวนมองในปัจจัยอื่น ที่เป็นแรงสนับสนุนแผนการเติบโต Dynamic Growth ในปี 2568 อาทิ การโอนบ้านมือสอง การปล่อยเช่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนทำงานหาที่พักอาศัยเพิ่มขึ้น จึงพบว่าคนยังหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อบ้านอยู่ (บ้านยังเป็นปัจจัย 4) รวมถึงการขยายแนวรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ และรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายอีกด้วย”

และเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ และรักษาอันดับความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย แสนสิริให้ความสำคัญกับ 5 คีย์ไดร์เวอร์ในการขับเคลื่อนองค์กร ได้แก่
- ขยายการพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มสินค้าระดับลักซ์ชัวรีและพรีเมี่ยมในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูง
อาทิ บางนา บรมราชชนนี สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งมีดีมานด์อย่างต่อเนื่องและไม่อ่อนไหวตามสภาพตลาด โดยเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ ได้แก่ นาราสิริ บางนา กม.10, นาราสิริ วิคตัวร์ กรุงเทพกรีฑา, นาราสิริ บรมราชชนนี และเดมี พระราม 9-เหม่งจ๋าย ที่ต่อยอดความสำเร็จในทำเล หลัง Sold Out บูก้าน พระราม 9-เหม่งจ๋าย ในวันแรกที่เปิดจองทันที

- เร่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในกรุงเทพฯ เพิ่ม Backlog สนับสนุนการสร้างรายได้ระยะยาว
ปัจจุบัน แสนสิริมีคอนโดมิเนียมในเมืองที่สร้างเสร็จพร้อมโอน เหลือแค่ XT พญาไท และ เนีย บาย แสนสิริ เท่านั้น ซึ่งคาดการว่าจะสามารถขายหมดได้ในปีนี้ และก็มีอีกไม่กี่โครงการที่จะเริ่มสร้างเสร็จพร้อมโอนในอนาคต เช่น โฟล บาย แสนสิริ ที่พร้อมโอนในปลายปีนี้ ดังนั้นเราจึงมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ เพื่อเติมเต็ม Portfolio ของแสนสิริให้แข็งแกร่งขึ้นในปีนี้ อาทิ เดอะ เบส รัชดา 19, เดอะ เบส เออร์เบิร์น พระราม 9, เวีย สุขุมวิท 34 และครั้งแรกของคอนโดมิเนียมใหม่ในทำเล นางลิ้นจี่
- รุกต่อ Strategic Locations ขยายการพัฒนาโครงการไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต พัทยา และขอนแก่น
แสนสิริเดินหน้ารุกต่อ Strategic Locations เมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ เช่น ภูเก็ต พัทยา และขอนแก่น เพื่อคว้าโอกาสจากความต้องการของตลาดที่สูงขึ้น โดยในปี 2568 จะไฮไลต์ที่ “ภูเก็ต” โดยวางกลยุทธ์ 5 ปี (2568-2572) เปิดตัวโครงการใหม่รวม 27 โครงการ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ในทุกโปรดักส์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ซึ่งในปีนี้จะเปิดตัวโครงการใหม่ อาทิ เดอะ เบส เชิงทะเล, เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต

- ขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน
เร่งขยายโอกาสในการลงทุน โดยการจับมือพันธมิตรธุรกิจรายใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน โดยปี 2568 จะมีโครงการ Joint Venture ใหม่ 7 โครงการ มูลค่า 19,500 ล้านบาท
และมีความร่วมมือใหม่กับ บริษัท มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในโครงการบุราสิริ จตุโชติ และนาราสิริ บางนา กม.10 หนึ่งในแบรนด์สำคัญใน Sansiri 10 East ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้กว่า 165 ไร่ ซึ่ง มิตซุย ฟุโดซัง ถือเป็น Partner ใหม่รายล่าสุด เพิ่มจาก Partner เดิมของ คือ บีทีเอส กรุ๊ป, โตคิว และ เ
- มุ่งมั่นเดินหน้าในพันธกิจสีเขียวและเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ผนวกเข้าไปในทุกๆ กระบวนการทำงาน
ปี 2568 แสนสิริ ยังคงพัฒนา Green Living Design ในโปรดักต์ใหม่ (เซ็กเมนต์ กลาง-พรีเมี่ยม) กับการตั้งเป้าลดพลังงานสูงสุด 50% จากปีก่อนหน้าทำได้ 40%
ตลอดจนการผลักดันการทำงานร่วมกันใน Ecosystem โดยตั้งเป้าการทำ R&D กรีนโปรดักต์ โดยร่วมพัฒนากับ 3 ราย เอ็กคลูซีฟเฉพาะแสนสิริ ตลอดจนเตรียมเปิดตัว “Sustainable Home Prototype” อีกก้าวสำคัญของวงการอสังหาฯ ที่พร้อมจะเปิดให้ชมในเร็ว ๆ นี้แน่นอน

ต่อยอดการขับเคลื่อนเพื่อสังคมอย่างจริงจัง สนับสนุนความเสมอภาค เท่าเทียม
คุณภูมิภักดิ์ ยังเสริมในส่วนของการทำงานเพื่อสังคมว่า นอกจากการดำเนินธุรกิจแล้ว แสนสิริยังมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนในเชิงสังคมซึ่งเป็นเรื่องที่แสนสิริดำเนินการมาอย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยไม่ได้ยึดกับข้อจำกัดว่าต้องเกี่ยวกับธุรกิจ
“ในฐานะอสังหาฯ รายใหญ่ของประเทศสนับสนุนความเสมอภาค เท่าเทียม และให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ผ่านโครงการต่าง ๆ ได้แก่ Live Equally ผลักดันต่อจากที่มีส่วนร่วมผลักดันเรื่องสมรสเท่าเทียมสำเร็จ
ในปี 2568 เราจะแสวงหาความร่วมมือจากพันธมิตรธุรกิจของเรา เพื่อช่วยกันผลักดันเรื่องของ DE&I (Diversity, Equality, and Inclusion), Zero dropout ปีที่ 3 สานพันธกิจลดเหลื่อมล้ำทางการศึกษา, Sansiri Academy เดินหน้าต่อเป็นปีที่ 19
เป็นหนึ่งในอะคาเดมี่ไม่กี่แห่งที่ยังคงเปิดให้เด็กเข้าร่วม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมายาวนาน, No One Left Behind ยังคงเดินหน้าให้การช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มเปราะบางตามวาระที่เหมาะสม และล่าสุดกับ Future Harvest แนวคิดต้นแบบความร่วมมือกับสมาคมธุรกิจกาแฟพิเศษและชุมชนในการสนับสนุนปลูกกาแฟในพื้นที่เชียงใหม่เพื่อทดแทนการปลูกอ้อย เพื่อแก้ปัญหาเผาไร่อ้อยและลดฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาว”
ทั้งหมดเป็นทิศทางการขับเคลื่อนภายในปี 2568 ของ แสนสิริ ซึ่งจะเห็นว่าเป็นกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในทุกจุด ตั้งแต่การวางพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ลุยขยายพอร์ต บริหารสต๊อก รักษาผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ตลอดจนบทบาทการเป็นผู้ให้ร่วมเติมเต็มสังคมในทุกมิติ
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.sansiri.com
Website : Marketeeronline.co /
