สยามพิวรรธน์ ความสำเร็จที่เป็นมากกว่าศูนย์การค้า สู่ Soft Power ไทยบนเวทีโลก (วิเคราะห์)
ถ้าพูดถึงผู้นำค้าปลีกไทย “สยามพิวรรธน์” คือชื่ออันดับต้น ๆ ที่ทุกคนต้องเอ่ยถึง
ภาพการเป็นผู้พัฒนาโครงการศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในระดับโลก จนสามารถดึงดูดผู้มาเยือนจากทั้งชาวไทยและทั่วโลกปีละกว่า 100 ล้านคน เป็นที่ประจักษ์ชัด
แต่รู้หรือไม่ว่า การผสมผสานระหว่างความเป็นไทยกับมาตรฐานสากลในศูนย์การค้าของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ไม่เพียงสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ ยังนับเป็นมิติใหม่ของ Soft Power ที่ช่วยเผยแพร่ภาพลักษณ์ด้านความทันสมัยและความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านนวัตกรรมการค้าปลีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เบื้องหลังความสำเร็จดังกล่าวคืออะไรลองมาวิเคราะห์ไปพร้อม ๆ กัน
ผู้บุกเบิกสร้างมาตรฐานใหม่
จุดแข็งสำคัญของสยามพิวรรธน์คือการเป็น “ผู้บุกเบิก” (Pioneer) ที่พัฒนา “จุดหมายปลายทางระดับโลก” (Global Destination) แห่งแรกของประเทศไทยที่กลายเป็นต้นแบบในธุรกิจอุตสาหกรรม โดยทุกโครงการของสยามพิวรรธน์ล้วนสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการด้วยการออกแบบพื้นที่ให้เป็นมากกว่าศูนย์การค้า
การนำเสนอนิยามใหม่ของความเป็นเลิศในทุกมิติ ทั้งการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ล้ำสมัย การสร้างประสบการณ์ที่ผสมผสานศิลปะ เทคโนโลยี และวัฒนธรรมไทยผนวกกับความหรูหราระดับโลก คือหัวใจสำคัญของทุกโครงการ
Marketeer มองว่า สยามพิวรรธน์สามารถสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างให้กับแต่ละโครงการได้อย่างชัดเจน โดยที่แต่ละที่มีจุดยืนทางการตลาด (Positioning) ที่ไม่ซ้ำกัน แต่กลับเสริมแรงกันและกันได้อย่างลงตัว นี่คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และสะท้อนตัวตนของการเป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง

ผู้นำที่กำหนดทิศทางวงการรีเทล
สยามพิววรธน์เป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้าแห่งแรกที่ประกาศว่า ศูนย์การค้าจะไม่ใช่เพียงสถานที่ขายสินค้าหรือบริการ แต่เป็นสถานที่นำเสนอประสบการณ์เหนือความคาดหมาย เพื่อให้ทุกคนได้มาใช้ชีวิตในสถานที่ของสยามพิวรรธน์อย่างมีคุณค่า สร้างแรงบันดาลใจ เหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2
นอกจากเราจะเห็นการออกแบบของแต่ละศูนย์การค้าที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัว การเป็นผู้นำของสยามพิวรรธน์ยังสะท้อนผ่านเรื่องราวต่าง ๆ เช่น
1. ผู้นำในตลาด Luxury Retail: ด้วยส่วนแบ่งยอดขาย Luxury brand ในศูนย์การค้ารวม 70% ทำให้สยามพารากอนและไอคอนสยามเป็น Luxury Destination ศูนย์กลางแบรนด์แฟชั่นและลักชัวรีชั้นนำระดับโลกที่ครบครันและครอบคลุมมากที่สุดในไทย ทั้งเครื่องประดับ High Jewelry, accessories และ Supercar จึงได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ระดับโลกให้เปิดร้านแห่งแรกในประเทศไทยและแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในภูมิภาค
2. ผู้นำในธุรกิจแฟชั่น: สยามเซ็นเตอร์เป็นศูนย์การค้ามาตรฐานระดับโลกแห่งแรกของไทย เป็นศูนย์กลางแฟชั่น และเป็นที่แจ้งเกิดของดีไซเนอร์ไทยมากมาย

3. ผู้นำในการสร้างประสบการณ์ Art in Mall: สยามพิวรรธน์คือผู้บุกเบิกแนวคิด Art & Culture ในศูนย์การค้าไทย โดยเฉพาะที่ไอคอนสยาม ด้วยการทำงานร่วมกับศิลปินไทยและระดับโลก เพื่อยกระดับประสบการณ์รูปแบบใหม่ ผสานสุนทรียะเข้ากับการใช้ชีวิต หรือล่าสุดกับการยกระดับสู่ ‘Grand Stage of The World’ ของสยามพารากอน มุ่งมั่นสู่การเป็นเวทีระดับโลกที่รวบรวมไลฟ์สไตล์และศิลปะไว้ในพื้นที่เดียว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxury for All” นิยามใหม่ของความลักชัวรีที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้
4. ผู้นำในการสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย: การนำเสนอ “ประสบการณ์แรก” ทำให้ผู้มาเยือนจดจำประสบการณ์พิเศษและรู้สึกเป็นคนสำคัญเสมอ
นอกจากนี้ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ยังเป็น Luxury outlet แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอีกด้วย

การผสานความยั่งยืนกับการพัฒนาธุรกิจ
ตลอดระยะเวลากว่า 66 ปีในการดำเนินธุรกิจ สยามพิวรรธน์นำแนวคิดความยั่งยืนมาใช้ในการพัฒนาโครงการ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้คน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
ภายใต้แนวคิด “วิถีสยามพิวรรธน์” ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนแพลตฟอร์มแห่งโอกาส (Opportunity Platform) ที่เปิดโอกาสให้พันธมิตรและทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ล้ำสมัยและเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ ไอคอนคราฟต์ พื้นที่แห่งงานคราฟต์ไทยที่นำเสนอศักยภาพ 6 แขนงช่างฝีมือไทย ส่งงานคราฟต์ร่วมสมัยสู่เวทีโลก ซึ่งเป็นการยกระดับงานศิลปะไทยและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าท้องถิ่น
![]()
ไอคอนสยามเป็นต้นแบบของโครงการด้านความยั่งยืนที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับย่านฝั่งธนบุรี ขยายไปสู่การพัฒนาพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา เป็นความสำเร็จที่เห็นเป็นรูปธรรมของการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าของดีจาก 77 จังหวัดมาไว้ในที่เดียว ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งสะท้อนแนวคิดการพัฒนาไอคอนสยามด้วยการนำสิ่งที่ดีที่สุดของไทยมาบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก
นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ผ่านโครงการ Siam Piwat 360 Waste Journey to Zero Waste และการสร้างแบรนด์ภายใต้ธุรกิจรีเทล

Global Recognition ที่ได้รับการการันตีด้วยรางวัลระดับโลก
อีกหนึ่งปัจจัยที่สะท้อนความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ได้ชัดเจนที่สุด คือการได้รับการยอมรับจากสถาบันชั้นนำระดับโลกมากที่สุดในประเทศไทย โดยได้รับรางวัลกว่า 219 รางวัล ซึ่งมากถึง 104 รางวัลเป็นรางวัลจากองค์กรระหว่างประเทศหรือสถาบันระดับโลก และหลายรางวัลเป็นรางวัลที่สยามพิวรรธน์เป็นองค์กรเดียวในประเทศไทยที่ได้รับ
โดดเด่นด้วยรางวัลอันทรงเกียรติอย่าง ICSC’s VIVA Award ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดในวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อธุรกิจค้าปลีกของโลก ที่มอบให้กับสยามดิสคัฟเวอรี่ในฐานะโครงการที่มีคอนเซ็ปต์และดีไซน์การออกแบบอันล้ำสมัย จากสมาคมศูนย์การค้าโลก (International Council of Shopping Centers) ซึ่งเป็นสมาคมศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในขณะที่สยามพารากอนติดอันดับ 6 ของสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเช็กอินสูงสุดในโลกบน Facebook และเคยเป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับ 1 จากการแชร์ภาพบน Instagram มากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงการเป็น Global Destination ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยือน
ไอคอนสยาม โครงการล่าสุดที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 อย่างแข็งแกร่ง ได้รับการยกย่องด้วยรางวัลทั้งในประเทศและสถาบันระดับโลกกว่า 46 รางวัล รวมถึงรางวัลชนะเลิศ MAPIC Award 2019 ในสาขา Best Shopping Centre หรือศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเปรียบเสมือนรางวัลออสการ์ของวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ล่าสุดในปี 2024 ยังได้รับรางวัล Asia’s Most Innovative Shopping Experience จาก Cathay Pacific’s Cathay Members’ Choice Awards, Iconic Thai Brand Awards จาก Tatler Best of Asia และ Best Luxury Shopping Mall in Thailand จาก Luxury Lifestyle Awards 2024
ไอคอนสยาม: การปฏิวัติแนวคิดศูนย์การค้าสู่จุดหมายปลายทางระดับโลก
ถ้าให้พูดถึงความสำเร็จล่าสุดของสยามพิวรรธน์ ไอคอนสยามคือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด ในฐานะแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน และได้รับการปักหมุดให้เป็นแลนด์มาร์กเคานต์ดาวน์ระดับโลกแห่งเดียวในไทย
โดยการได้รับรางวัลชนะเลิศ MAPIC Award 2019 ในสาขา Best Shopping Centre หรือศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลก เป็นการเอาชนะคู่แข่งจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยการผนวกความคิดสร้างสรรค์ร่วมกับนวัตกรรมล้ำสมัย บุกเบิกแนวคิดแปลกใหม่ในการพัฒนาโครงการ เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของไทยบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก
ทำให้ไอคอนสยามได้รับการยอมรับว่าเป็น Lifestyle Destination ที่มีความโดดเด่นรอบด้าน เป็นมากกว่าศูนย์การค้า ทั้งเรื่องแนวคิดในการพัฒนาโครงการ สถาปัตยกรรมการออกแบบระดับโลก และนำเสนอประสบการณ์ครบทุกมิติ ทั้งศิลปวัฒนธรรม นวัตกรรม ความหลากหลายของแบรนด์สินค้า และความบันเทิงที่แตกต่าง
เรียกได้ว่าที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์การค้าที่ประสบความสำเร็จ แต่ได้กลายเป็นต้นแบบของธุรกิจรีเทลรูปแบบใหม่ และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกโลก การผสมผสานระหว่างความเป็นไทยกับมาตรฐานโลกได้อย่างลงตัวคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ไอคอนสยามโดดเด่นและแตกต่างจากศูนย์การค้าอื่น ๆ ทั่วโลก
บทบาทของ สยามพิวรรธน์ ในฐานะ Soft Power ของไทย
สยามพิวรรธน์ได้ทำหน้าที่มากกว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลายเป็นตัวแทนของ Soft Power ไทยที่แสดงให้นานาชาติเห็นว่า ประเทศไทยสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ล้ำสมัยและมีมาตรฐานระดับโลกได้
การนำเสนอความเป็นไทยในรูปแบบร่วมสมัยผ่านโครงการต่าง ๆ ของสยามพิวรรธน์ ทำให้วัฒนธรรมไทยถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกในรูปแบบที่ทันสมัย สร้างความประทับใจ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
ผ่านโครงการอย่างสุขสยามและไอคอนคราฟต์ สยามพิวรรธน์ได้ช่วยยกระดับสินค้าไทย งานฝีมือไทย และศิลปวัฒนธรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลก นี่คือการสร้าง Soft Power ที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ในมุมมองของ Marketeer การเติบโตอย่างต่อเนื่องของสยามพิวรรธน์เกิดจากความสามารถในการปรับตัวและมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ การดำเนินการปรับปรุงพื้นที่และคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ ที่เป็นต้นแบบของวงการ (Prototype) เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและแนวโน้มของตลาด คือกลยุทธ์ที่ทำให้สยามพิวรรธน์อยู่แถวหน้าของวงการมาโดยตลอด
สยามพิวรรธน์ไม่เพียงเปลี่ยนโฉมหน้าของธุรกิจค้าปลีกไทย แต่ยังทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมที่นำเสนอความเป็นไทยในมิติใหม่สู่สายตาชาวโลก ความสำเร็จของกลุ่มสยามพิวรรธน์จึงเป็นตัวอย่างอันน่าภาคภูมิใจของธุรกิจไทยที่สามารถยืนหยัดบนเวทีโลกได้อย่างสง่างาม และตอกย้ำการเป็น Global Destinations ที่สร้างความประทับใจ แรงบันดาลใจ และประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับผู้มาเยือนอยู่เสมอ
–
อัปเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website: Marketeeronline.co /
