Trends / สถานการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถอีวีตลอดปี 2024 ไม่สู้ดีนัก ซึ่งต่อเนื่องมาสู่ปี 2025 หนึ่งในค่ายรถที่ประสบปัญหามากสุดคือ Tesla จึงต้องทำทุกทางเพื่อกู้สถานการณ์ โดยล่าสุดถึงขั้นต้องไปเปิดตัวในประเทศยักษ์น้ำมัน

Tesla เผยว่า 10 เมษายนนี้จะจัดงานเปิดตัวครั้งใหญ่ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีทั้งรถรุ่นต่าง ๆ รถแท็กซี่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ CyberCap รวมไปถึงหุ่นยนต์ติดตั้งเอไอ Optimus เพื่อให้ผู้มาเข้าร่วมงานได้สัมผัสกับรถอีวี เทคโนโลยีแห่งอนาคตและความก้าวหน้าของ Tesla

แม้นี่คืองานโปรโมตครั้งใหญ่ที่มีการจัดแสดงเทคโนโลยีมากมาย แต่ผลที่ออกมาอาจตรงกันข้าม เพราะซาอุฯ คือประเทศที่มีปริมาณน้ำมันสำรอง กำลังการผลิต และตัวเลขการส่งออกน้ำมันมากอันดับต้น ๆ ของโลก จนได้ชื่อว่ายักษ์น้ำมัน

นอกจากนี้ นี่ยังเป็นงานเปิดตัวรถอีวีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศที่รายได้หลักมาจากน้ำมัน ซ้ำร้ายตลาดรถอีวีของซาอุฯ ยังเล็กมาก โดยคิดเป็นเพียงกว่า 1% ของตลาดรถยนต์ทั้งประเทศเท่านั้น

ดังนั้น จึงเป็นการย้ำถึงขาลงของ Tesla ค่ายรถที่ได้ชื่อว่าทำให้บริษัทยานยนต์ทั่วโลก ลดการผลิตรถสันดาปใช้น้ำมัน แล้วหันมาผลิตรถอีวีกันอย่างจริงจัง 

สำหรับขาลงของ Tesla ท่ามกลางช่วงซบเซาของตลาดรถอีวี ทยอยปรากฏออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เช่น ปัญหาภาพลักษณ์แบรนด์เสื่อมเสียจากการที่ซีอีโอไปทำตัวเป็นมือขวาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แบบออกนอกหน้า จนฉุดยอดขายในสหรัฐฯ

ส่วนเจ้าของรถ Tesla ก็พากันตัดความเชื่อมโยงระหว่างรถกับซีอีโอ และพยายามขายรถทิ้งไป ขณะที่ยุโรปก็ยอดขายร่วงไปถึง 40% ดึงยอดขายทั่วโลกยังลดลง จนตามหลัง BYD คู่แข่งอันดับ 1 จากจีน

ปี 2024 Tesla ทำยอดขายรวมได้ 97,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท) น้อยกว่า BYD ที่ตัวเลขยอดขายสูงถึง 107,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.6 ล้านล้านบาท) ซ้ำร้ายเทคโนโลยีของ Tesla ก็เริ่มตามหลัง BYD แล้ว

BYD เพิ่งประกาศว่า ได้พัฒนาระบบชาร์จไฟล่าสุดที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที แต่รถวิ่งไปได้ไกล 250 ไมล์ (ราว 402 กิโลเมตร) เหนือกว่าของ Tesla ที่ใช้เวลาชาร์จ 15 นาที แต่วิ่งไปได้ 200 ไมล์ (ราว 321 กิโลเมตร)

นอกจากนี้ Tesla ยังมีปัจจัยลบเรื่องการต้องจ่ายเพิ่ม เพราะต้องจ่ายอีก 8,000 ดอลลาร์ (ราว 272,000 บาท) เมื่อแรกซื้อและอีก 99 ดอลลาร์ (ราว 3,360 บาท) ต่อเดือน เพื่อให้ได้ใช้เอไอช่วยขับที่อัพเดตเป็นประจำ

ต่างจากของ BYD ที่รถรุ่นราคาต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์ (ราว 340,000 บาท) ได้ใช้และอัปเดตเอไอตลอดไปแบบฟรีๆ

ทั้งนี้การประกาศจัดอีเวนต์ใหญ่ของ Tesla ในซาอุฯ มีขึ้นหลังแผนรุกอินเดีย ประเทศที่ตลาดรถใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและสหรัฐฯ และยังเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองแค่จีน ด้วยการประกาศรับสมัครพนักงานหลายตำแหน่ง เพื่อการเปิดโชว์รูมในอนาคตอันใกล้

แต่ก็มีการวิเคราะห์กันว่า หากเปิดโชว์รูมในอินเดียอย่างเป็นทางการแล้วคงไม่ได้ช่วย Tesla มากนัก เพราะมีปัจจัยลบมากมาย

เช่น Tata ที่เป็นแบรนด์เจ้าถิ่นครองส่วนแบ่งถึง 70% จุดชาร์จไฟในอินเดียยังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ประเทศอันกว้างใหญ่ สภาพอากาศร้อนทำให้แบตฯ รถเสื่อมไว และที่สำคัญ Tesla เองยังเป็นรถราคาแพงเกินเอื้อมสำหรับชาวอินเดียส่วนใหญ่ /cnn


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer