บาร์บีคิวพลาซ่า GON BUFFET เพื่อทุก GEN มากกว่าบุฟเฟต์ คือ มื้อครอบครัวที่อบอุ่น กลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์ครองใจคนไทย

เปิดศักราช 2568 มา สมรภูมิร้านอาหาร ไม่ว่าจะปิ้งย่าง ชาบู หรือสุกี้ ถือว่าดุเดือดเป็นอย่างมาก แต่ละแบรนด์ต่างชูเรื่องของ “ราคา” และ “ความคุ้ม” มาห้ำหั่นกันอย่างเต็มที่

แต่ท่ามกลางเสียงเชียร์ของโปรโมชันลด แลก แจก แถม มีแบรนด์หนึ่งกลับเลือกยืนในจุดที่แตกต่างอย่างมั่นใจ นั่นคือ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ผู้คร่ำหวอดในตลาดมากว่า 38 ปี หรือสัญลักษณ์ของร้านอย่าง “พี่ GON” ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี

เพราะสำหรับบาร์บีคิวพลาซ่า “บุฟเฟต์” ไม่ใช่แค่เกมราคา แต่คือ Branding Strategy ที่ออกแบบอย่างตั้งใจ เพื่อสะท้อนตัวตนของแบรนด์ที่เป็น “มื้อของครอบครัว” อย่างแท้จริง และแคมเปญล่าสุด “GON BUFFET ตั้งเตารอ คุ้มตาแตก” ก็ได้กลายเป็นหมากกลยุทธ์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า หากแบรนด์เข้าใจลูกค้าจริง ๆ ก็สามารถสร้างความหมายใหม่ให้กับคำว่าบุฟเฟต์ได้

บุฟเฟต์ปีละ 2 ครั้ง : ความท้าทายที่ยอมแลก เพื่อรักษาโมเมนต์แห่งการรอคอย

ตลอดเส้นทางมากกว่า 3 ทศวรรษ “บุฟเฟต์” กลายเป็นเหมือนธรรมเนียมที่แฟนพันธุ์แท้เฝ้ารอ และทุกครั้งที่บาร์บีคิวพลาซ่าจัดแคมเปญเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ก็มักจะกลายเป็น “โมเมนต์แห่งความสุขที่ลูกค้ารอคอย” เสมอ

คุณรัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด อธิบายว่า “การทำบุฟเฟต์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องบริหาร Peak ลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า แต่เรายอมเหนื่อยเพราะนี่คือการตอบสนองลูกค้ากลุ่มที่รอคอย และเป็นโอกาสให้เขากลับมาเจอเราในความถี่ที่เหมาะสม”

นี่คือการตัดสินใจที่สะท้อนความเชื่อของบาร์บีคิวพลาซ่าว่า “ประสบการณ์ของลูกค้าต้องมาก่อนความสะดวกในการจัดการของแบรนด์เสมอ”

GON BUFFET มื้อของทุกคนในครอบครัว

เมื่อเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค ทีมหลังบ้านของบาร์บีคิวพลาซ่าพบอินไซต์สำคัญว่า บุฟเฟต์ในตลาดทั่วไปมักทำให้ครอบครัวลังเล เพราะ “เด็กกินไม่เยอะ” หรือ “ผู้สูงอายุกินไม่คุ้ม” กลายเป็นเหตุผลที่คนรุ่นใหม่เลือกไม่ชวนคนในครอบครัวมาร่วมโต๊ะ

แต่สำหรับบาร์บีคิวพลาซ่านี่คือโอกาสที่จะ “ท้าทายกฎของบุฟเฟต์” และนำเอา Family Time กลับคืนสู่โต๊ะอาหาร

“เราไม่อยากเห็นใครถูกทิ้งให้นั่งอยู่บ้าน เราอยากเห็นทั้งเด็กและผู้สูงอายุยังนั่งล้อมเตาไปด้วยกัน เพราะถ้าไม่มีพวกเขา มื้อครอบครัวก็ไม่สมบูรณ์”

“GON BUFFET ตั้งเตารอ คุ้มตาแตก” จึงเลือกเดินหน้าเสิร์ฟสิทธิพิเศษที่ออกแบบเฉพาะให้เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น

เด็กสูงไม่เกิน 110 ซม. กินฟรี
เด็กสูง 111–140 ซม. คิดครึ่งราคา
ผู้สูงอายุ 60–84 ปี ลดครึ่งราคา
ผู้สูงอายุ 85 ปีขึ้นไป ทานฟรี

แนวคิดนี้ไม่ใช่การลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่คือ Empathy Marketing ที่สะท้อนว่า บาร์บีคิวพลาซ่ามองลูกค้าเป็น “ครอบครัว” มากกว่ากลุ่มเป้าหมาย

“เราลงทุนตรงนี้เพราะอยากเห็นภาพของปู่ย่า-ตายายมานั่งอยู่ในร้านกับลูกหลาน ไม่ใช่แค่ได้ยินเรื่องราวทีหลัง นี่คือความสุขเล็ก ๆ ที่เราคืนให้กับเขาและครอบครัว และคือรอยยิ้มของแบรนด์เช่นกัน”

ยิ่งไปกว่านั้น ความคุ้มค่าของบุฟเฟต์ในแบบบาร์บีคิวพลาซ่าไม่ได้หยุดอยู่ที่จำนวนอาหาร แต่คือ การสร้าง “Extraordinary Ordinary” หรือประสบการณ์ธรรมดาที่พิเศษกว่าเล็กน้อย เช่น การจัดเตรียมหมวกและเบาะรองนั่งสำหรับเด็ก ที่วางมือถือสำหรับคนรุ่นใหม่ ตลอดจนการบริการจากพนักงานที่ยังคงมาตรฐานเท่ากับช่วงเวลาปกติ และที่สำคัญคือคุณภาพวัตถุดิบที่คงไว้มาตรฐานเดียวกับ A La Carte เช่นเดิม

นี่คือรายละเอียดที่อาจดูเล็กน้อย แต่กลับสร้างความรู้สึกใหญ่ในใจลูกค้า และ ทำให้คำว่า “คุ้มค่า” มีความหมายมากกว่าราคา

CRM ที่ออกแบบ “เพื่อคุณโดยเฉพาะ”

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่บาร์บีคิวพลาซ่านำมาเสริมทัพบุฟเฟต์ครั้งนี้ คือการใช้ ระบบสมาชิก GON member ที่ปัจจุบันมีฐานข้อมูลมากกว่า 3 ล้านคน และถูกพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นเครื่องมือ CRM ที่สร้างความรู้สึก “เฉพาะคุณจริง ๆ”

สมาชิกถูกวิเคราะห์ผ่าน RFM Model แบ่งออกเป็น 11 Persona ทำให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าอย่างละเอียด และสามารถส่งสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่น ลูกค้าที่ห่างหายไปจะได้รับคูปองเชิญชวนกลับมา ส่วนลูกค้าที่ชอบปาร์ตี้กลุ่มใหญ่ก็จะได้ส่วนลดสำหรับชุดใหญ่โดยเฉพาะ

สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกว่า บาร์บีคิวพลาซ่าไม่ได้สื่อสารกับ “มวลชน” แต่สื่อสารกับ “คุณ”

และเพื่อให้เข้าถึงครอบครัวมากขึ้น ด้วย GON จองโต๊ะข้ามวัน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลด Pain Point ให้คนในครอบครัวสามารถหาวันและเวลาที่สะดวกพร้อมกัน ได้เข้ามากินบุฟเฟต์ที่ร้านกันแบบไม่ต้องรอคิว โดยไม่เพียงช่วยจองที่นั่งล่วงหน้าได้สะดวกเท่านั้น แต่ยังกลายเป็น Time-based Promotion ที่มอบสิทธิพิเศษเฉพาะช่วงเวลา เช่น ลดราคาบุฟเฟต์เฉพาะรอบที่เลือก

หนึ่ง Fun Fact ที่แบรนด์อยากนำเสนอคือ “ยิ่งจอง ยิ่งรู้ใจ ยิ่งคุ้ม!” เพราะนี่ไม่ใช่แค่การจองล่วงหน้า แต่ทุกครั้งที่คุณจองโต๊ะผ่าน ไลน์ Official GON member ก่อนไปบุฟเฟ่ต์ คุณจะได้เลือกช่วงเวลาพร้อมด้วยโปรโมชันพิเศษ เช่น

หมู เพียง 349.- (ปกติ 399.-)
หมูเนื้อ เพียง 449.- (ปกติ 499.-)
หมูทะเล เพียง 479.- (ปกติ 529.-)
หมูเนื้อทะเล เพียง 549.- (ปกติ 599.-)

โดยสามารถเลือกช่วงเวลาได้ 3 รอบ — 11.00 น., 14.00 น. และ 16.00 น. (ระยะเวลาทาน 1 ชม. 30 นาที *เฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์เท่านั้น) และ Check-in ได้ภายใน 15 นาทีหลังเวลาที่จองไว้

นี่คือ CRM ที่ไม่ได้หยุดแค่ “ทำให้สะดวก” แต่ยกระดับเป็นการออกแบบประสบการณ์แบบ Personalization ที่แท้จริง เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่า “GON เข้าใจคุณ และเตรียมสิ่งที่ใช่ไว้ให้คุณเสมอ”

“CRM ไม่ควรเป็นเรื่องเทคนิคหรือฐานข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเข้าใจเขาจริง ๆ”

9 สาขาปิดดึกถึงตี 5 สนองตอบไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

อีกหนึ่งการ “ฟังเสียงลูกค้า” ที่แปรเปลี่ยนเป็นการลงมือจริง คือการ “เปิดบริการ 9 สาขาปิดดึกถึงตี 5” เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปของคนไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงานที่มี “เวลาหลังเลิกงาน” เป็นช่วงเวลาสำคัญของการใช้ชีวิตร่วมกัน

คุณรัฐยอมรับว่า Insight นี้เกิดจากการเรียนรู้จากคู่แข่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่ามีตลาดจริง และบาร์บีคิวพลาซ่าเลือกปรับตัวเพื่อเป็นคำตอบให้กับไลฟ์สไตล์ของผู้คน โดยยังคงรักษามาตรฐานของตัวเอง

“บางครั้งคู่แข่งก็สอนเรา ทำให้เราเห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจริง ๆ เราจึงนำมาปรับในแบบที่เป็นตัวเรา”

สาขาปิดดึกจะมีทั้งหมด 9 สาขา ได้แก่ แจส กรีน วิลเลจ บางบัวทอง, ซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน, เดอะซีน ทาวน์ อิน ทาวน์, นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว (มาร์เก็ตเพลส นวมินทร์), เนอวานา พอร์ช, มาร์เก็ตเพลส เทพรักษ์, มาร์เก็ตเพลส สุขาภิบาล 1, สายไหม อเวนิว และโลตัส ประชาอุทิศ เปิดบริการตั้งแต่ 11.00–05.00 น.

รักษา Top-of-Mind ด้วย “Now Moment”

แม้บาร์บีคิวพลาซ่าจะครองตำแหน่ง Top-of-Mind ของปิ้งย่าง แต่คุณรัฐมองว่านั่นคือความท้าทายยิ่งกว่าความสำเร็จ

“เราเชื่อเรื่องการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด หรือ Now Moment เพราะ Top-of-Mind จะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อเรายังตอบโจทย์ปัจจุบันของลูกค้าเสมอ เราไม่เคยคิดว่าจุดแข็งคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตรงกันข้าม เราเป็น Underdog ที่ต้อง Dynamic ตลอดเวลา”

นี่คือเหตุผลว่าทำไมบาร์บีคิวพลาซ่าถึงยังคงปรับโมเดลร้าน เปิดรูปแบบ Quick หรือ Smart เพื่อจับกลุ่มลูกค้าใหม่ แต่ยังคง DNA ของแบรนด์ไว้อย่างเหนียวแน่น

Branding ที่เข้าใจ “ทั้งโต๊ะ” ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง

แคมเปญ “GON BUFFET ตั้งเตารอ คุ้มตาแตก” ไม่ได้เป็นเพียงโปรโมชั่นบุฟเฟต์ แต่คือ Brand Strategy ที่ชัดเจนที่สุดของบาร์บีคิวพลาซ่าเพราะมันสะท้อนแก่นแท้ของแบรนด์ที่มอง “ครอบครัวทั้งโต๊ะเป็นหนึ่งเดียว”

ในวันที่คู่แข่งยังคงแข่งกันที่ราคา บาร์บีคิวพลาซ่า เลือกใช้ Empathy Marketing และ Data-driven CRM เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกกว่า และนี่เองที่ทำให้ “GON” ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์ปิ้งย่าง แต่เป็น Top-of-Mind ของมื้อครอบครัวไทย ที่อบอุ่นทุกเจเนอเรชัน

สำหรับแคมเปญ “GON BUFFET ตั้งเตารอ คุ้มตาแตก” เริ่มตั้งแต่ 14 สิงหาคม 2568 – 3 กันยายน 2568 (เพียง 21 วันเท่านั้น) ที่ ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ทุกสาขาทั่วประเทศ ทานได้ทันทีไม่ต้องเป็นสมาชิก กับราคาคุ้มฟิน กินได้ครบ