เวลาที่มีข่าวเจาะลึกเปิดเผยเรื่องดัง นอกจาก ‘ข่าว’ ที่คนจะให้ความสนใจแล้ว
‘ผู้สื่อข่าว’ ก็เป็นสิ่งที่สังคมให้ความสนใจตามมาเช่นกัน
ณ เวลานี้ ชื่อที่ขับเคลื่อนกันมาในวงการข่าวสังคม ถ้าไม่ใช่ หนุ่ม กรรชัย ก็ต้องเป็นเขาคนนี้ “พุทธ อภิวรรณ” หรือที่ทุกคนเรียกว่าคุณพุทธ
ด้วยสไตล์การอ่านข่าวที่ฉะฉาน เสียงดังฟังชัด ขยี้ประเด็นโดยเฉพาะเมื่อเป็นข่าวชาวบ้าน ยิ่งทำให้ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วมไปด้วย จึงทำให้มีผู้ติดตามรายการของเขาจำนวนมาก คุณพุทธมักจะมีวลีฮิตติดปากที่ผู้ชมทุกคนรู้กันดีคือ “ใช่ไหมครับคุณจิตดี” และ “เปิดภาพขึ้นมาครับทีมงาน”
ก่อนอื่นเล่าประวัติคร่าว ๆ ของคุณพุทธ อภิวรรณ ว่าได้เริ่มต้นในสายงานสื่อในฐานะผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจที่สำนักข่าว INN และจัดรายการวิทยุกับสถานีร่วมด้วยช่วยกันตอนปี 2543 และทำงานวนอยู่ในวงการข่าว กระทั่งปี 2557 ย้ายมาทำงานที่อมรินทร์ทีวี กับรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” ประกบคู่กับ จิตดี ศรีดี และรายการดีเบตเชิงสังคม “ต่างคนต่างคิด” ในรูปแบบพิธีกรเดี่ยว โดยมักตั้งคำถามจี้ประเด็นไม่อ้อมค้อม
ปัจจุบันปี 2566 กลายเป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าวช่อง 8 และดำรงบทบาทพิธีกรในรายการข่าวใหม่ เช่น ลุยชนข่าว ที่ออกอากาศตั้งแต่ปี 2566 เป็นรายการข่าวหลักของช่อง และสไตล์ยังคงดุดัน ตรงไปตรงมา เน้นการเปิดโปงเช่นเดิม
บางครั้งเขาได้รับเสียงวิจารณ์จากโลกอินเทอร์เน็ตในทำนองว่าใช้น้ำเสียงกดดันทีมงานภาพมากเกินไปจนกลายเป็นประเด็นที่โซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง แต่มีไม่น้อยที่ชื่นชมว่าเขาเป็นผู้ประกาศข่าวที่ตรงไปตรงมา จุดประเด็นชัดเจน และกัดไม่ปล่อย
ล่าสุด เขาได้เคลื่อนไหวด้วยการมาทำช่อง Youtube ในชื่อว่า “Phutta Talk” หลังเปิดช่องได้ไม่นานก็มีผู้ติดตามกว่า 1.11 แสนคน เพิ่มขึ้นวันละ 2 หมื่นกว่าผู้ติดตาม แต่เพิ่งมีคอนเทนต์วิดีโอที่เพิ่งอัปโหลดลงไปไม่ถึง 3-4 วันก่อนนี้เอง ซึ่งชาวช่องก็คอมเมนต์ไปในทิศทางเดียวกันว่ามาถูกทางแล้ว
การขยับมาทำรายการ Talks ส่วนหนึ่งมาจากข้อจำกัดด้านเวลาของรายการข่าวในสื่อโทรทัศน์ และบางเรื่องไม่สามารถลงรายละเอียดได้เนื่องจากมีกฎเกณฑ์กำหนดเข้มงวด แต่รายการในยูทูปจะมีอิสระเสรีมากกว่า
อย่างไรก็ดี สะท้อนอินไซต์เทรนด์ในยูทูปที่รายการ Podcast และรายการนั่ง Talks เล่าเรื่องที่น่าสนใจกำลังมาแรงบน YouTube ทำให้คนมีชื่อเสียงหลายคนหันมาทำช่องบนแพลตฟอร์มนี้กันมาก เพราะเข้าถึงผู้ชมง่ายกว่า มีโอกาสโตไว สร้างตัวตนของตัวเองซึ่งส่งผลดีในอนาคตได้ รวมถึงสร้างรายได้หลากหลายช่องทาง ทั้งค่าโฆษณา (AdSense), สปอนเซอร์, Affiliate Marketing, การสมัครสมาชิก (Membership)
เนื่องจาก YouTube คือแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานจำนวนมาก โดยคนไทยกว่า 90% ใช้ YouTube ทุกเดือน โอกาสเจอผู้ชมผู้ฟังสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นมาก เพราะอัลกอริทึมยูทูปช่วยดันคอนเทนต์ประเภทนี้ทำให้ช่องมีโอกาสถูกค้นเจอ
ผู้ใช้งานใช้ยูทูปเป็นห้องสมุดความรู้และพื้นที่บันเทิง ซึ่งรายการทอล์กข่าวตอบโจทย์ตรงให้ความรู้และคุยกันยาว อารมณ์เหมือนนั่งฟังเพื่อนคุย เหมาะกับการเปิดฟังระหว่างขับรถ ทำงานบ้าน อีกอย่างคือรายการทอล์กผู้ชมสนใจที่จะติดตามประเด็นต่าง ๆ ที่รายการนำเสนอเพื่อทำความเข้าใจและหาข้อมูลเพิ่มเติม ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่นำเสนอ
