
พัฒนาการที่สำคัญของจีนหลัง สี จิ้นผิง ขึ้นเป็นประธานาธิบดี นับจากปี 2012 เป็นต้นมาคือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและการผงาดขึ้นเป็นขั้วอำนาจใหม่ของโลก ตามด้วยโครงการขยายอิทธิพลอย่าง One Belt-One Road

แต่สิ่งหนึ่งซึ่งจีนยังคงไว้ คือมาตรการคุมเข้มผ่านการจัดระเบียบรูปแบบและระดับต่าง ๆ ทั้งกับประชาชนและบริษัทใหญ่ ๆ เช่น การสั่งเบรก IPO ของ Ant บริษัทกลุ่ม Fintech ใต้ชายคา Alibaba ที่เชื่อมโยงกับที่ แจ็ค หม่า หลุดปากวิจารณ์รัฐบาล

จนมาถึงการจัดระเบียบธุรกิจมากมาย ตั้งแต่เทคโนโลยี ภาคการเงิน ไปจนถึงอุตสาหกรรมบันเทิง หรือแม้กระทั่งขนมไหว้พระจันทร์ โดยท่ามกลางการจัดระเบียบเหล่านี้ มีประเด็นเกี่ยวกับเด็กและวัยรุ่นรวมอยู่ด้วยพอสมควร
โรงเรียนกวดวิชา
กรกฎาคม 2021 จีนเปิดตัวการจัดระเบียบเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กและวัยรุ่นพร้อมความสะเทือนด้วยการสั่งห้ามบริษัทในธุรกิจกวดวิชาทำ IPO เพราะเห็นว่าเป็นการสร้างความเครียดให้เด็กนักเรียนและเพิ่มค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง หลังไฟเขียวให้มีลูกได้เพิ่มขึ้น เพื่อป้อนสู่ตลาดแรงงาน

ผลกระทบที่ตามมาทันทีคือหุ้นของ New Oriental บริษัทใหญ่ในธุรกิจโรงเรียนกวดวิชาจีนวูบหายไปถึง 50% และถ้ารวมกับความเสียหายหลังมีกระแสข่าวจะถูกจัดระเบียบ มูลค่าหุ้นของ New Oriental ที่หายไปคิดเป็นเงินสูงถึง 7,700 ดอลลาร์ (ราว 253,000 ล้านบาท)

ผลกระทบรุนแรงจากมาตรการจัดระเบียบดังกล่าว ยังทำให้โรงเรียนกวดวิชาจีนต้องทำทุกทางเพื่ออยู่รอด ทั้งขายโต๊ะเก้าอี้ หันไปทำ E-commerce แทรกสอนศัพท์ และหันไปผลิต Tablet โดยปัจจุบันแม้ฟื้นแล้วแต่ก็ยังถูกรัฐบาลจับตามองอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางรายงานว่าอาจมีจัดระเบียบรอบใหม่
วงการบันเทิงและแวดวงไอดอล
ถัดจากจัดระเบียบโรงเรียนกวดวิชา จีนก็หันมาตีกรอบวงการบันเทิง โดยปลายสิงหาคมปี 2021 รัฐบาลจีนสั่งไม่ให้สื่อทุกแขนงเผยแพร่ภาพกลุ่มศิลปินชายหน้าสวย เพราะเห็นว่า เป็นต้นแบบที่ไม่เหมาะสม
ต่อมาช่วงต้นกันยายน รัฐบาลได้เรียกคนบันเทิงเข้าพบครั้งใหญ่ เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎเข้มต่าง ๆ โดยเฉพาะการวางตัวและไม่ทำตัวเห็นแก่เงิน ซึ่งสืบเนื่องมาจากการถูกจับของไอดอลและดาราจีนหลายคน พร้อมกำชับว่าใครฝ่าฝืนจะเจอบทลงโทษสถานหนัก

มาตรการดังกล่าว ทำให้คนในวงการบันเทิงจีนต้องประพฤติตัวอยู่ในกรอบ โดยเมื่อรวมกับการจำกัดอิทธิพลสื่อบันเทิงต่างชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ที่ร้าวฉาน ทำให้ยอดขายเพลง K-pop ในจีนลดลง ขณะที่ค่ายเพลง K-pop ก็ลด การคัดตัวชาวจีนไปเป็นศิลปินหรือปั้นเข้าวงอีกด้วย

มาตรการคุมเข้มสื่อบันเทิงที่เกี่ยวกับเด็กของจีนยังลามไปถึงคอนเทนต์อื่นจากต่างชาติด้วย อย่าง Ultraman, My Little Pony และ Detective Conan โดยเรื่องแรกอ้างว่ามีเนื้อหารุนแรงเกินไป ส่วนสองเรื่องหลังกังวลว่าจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก
เกมออนไลน์
ช่วงไล่เลี่ยกับที่จัดระเบียบวงการบันเทิง จีนก็มองมาที่อุตสาหกรรมเกมออนไลน์ โดยตามข้อมูลของรัฐบาลจีนสิงหาคมปี 2021 ระบุว่า เด็กทั่วประเทศราว 62% เล่นเกมออนไลน์ และปัญหาเด็กติดเกมกำลังเป็นเรื่องที่คนในสังคมกังวล

รัฐบาลจีน สั่งจำกัดเวลาเล่นเกมออนไลน์ของเด็กอายุ 18 ปีลงมาให้อยู่ที่เพียง 1 ชั่วโมงต่อวัน เฉพาะช่วง 20-21 นาฬิกา และเล่นได้เพียง 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อไม่ให้เด็กติดเกมและปกป้องเหล่าอนาคตของชาติทั้งกายและใจ
มาตรการดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของ Tencent บริษัทเทคโนโลยีจีนที่มีค่ายเกมอยู่หลายแห่ง และ Ubisoft ค่ายเกมฝรั่งเศสลดลง
สมาร์ตโฟน
มาปีนี้จีนยุค สี จิ้นผิง ยังเดินหน้าจัดระเบียบประเด็นเกี่ยวกับเด็กและวัยรุ่นต่อ โดยเมื่อ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาประกาศว่า ตั้งแต่กันยายนนี้เป็นต้นไปจะจำกัดเวลาใช้สมาร์ตโฟนของเด็กอายุ 16-18 ปีให้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน ต่ำกว่า 16 ปีอยู่ที่ 1 ชั่วโมงต่อวัน และเด็ก 8 ขวบลงมาอยู่ที่เพียงวันละ 8 นาที

บริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟน ระบบปฏิบัติการรวมไปถึงบริษัททำแอปต้องให้ความร่วมมือด้วยการทำโหมดสำหรับเด็ก (Minor-mode) ด้วย เพื่อจำกัดเวลาใช้ให้อยู่ตามที่กำหนด
ใช้ได้ช่วงระหว่าง 22 นาฬิกาทุกวันไปจนถึง 6 นาฬิกาวันรุ่งขึ้น แต่ยังยกเว้นกรณีฉุกเฉิน พร้อมขึ้นข้อความเตือนให้เด็กหยุดใช้เมื่อใช้ไปได้ 30 นาที

ผลกระทบจากมาตรการนี้ทำให้หุ้นของ Tencent Alibaba และ Bilibili เบอร์ใหญ่ในแวดวงเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์จีนเมื่อ 3 สิงหาคมต่างก็ปิดในแดนลบ/theguardian, bbc, wikipedia, cnn
–
