บีวายดี อัปเดตโรงงานใน EEC จะเริ่มผลิตได้ มิ.ย. 2024 รุ่นนำร่อง BYD Dolphin ด้านเรเว่ฯ ตัวแทนขายในไทยส่งกลยุทธ์เทิร์นไมล์เป็นคาร์บอนเครดิต ร่วมทุน ชาร์จ แมเนจเม้นท์ ขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 1,110 จุด ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 40,000 คัน
วันนี้ (19 ก.ย. 2023) บีวายดี, เรเว่ฯ และพันธมิตร จัดแถลงวิสัยทัศน์บริษัทครั้งใหม่ และเสวนากลุ่มโครงการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ โดยในงานมีอัปเดตความคืบหน้าน่าสนใจของบริษัท ดังนี้
Mr. Ke Yubin General Manager of BYD Thailand กล่าวว่า อัปเดตความคืบหน้าโรงงาน BYD ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 เขต EEC มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 20,000 ล้านบาท แบ่งงบเป็นส่วนของฐานการผลิตประมาณ 17,300 ล้านบาท และส่วนของการตลาดประมาณ 2,300 ล้านบาท
คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเริ่มผลิตภายในเดือน มิ.ย. 2024 คงเป้าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา สูงสุด 150,000 คันต่อปี BYD Dolphin จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกของสายพานการผลิต
อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ BYD ในประเทศไทยจะเป็นแรงส่งสำคัญที่กำหนดทิศทางกำลังผลิตของโรงงาน หลังเริ่มผลิตตามกำหนดการข้างต้น
ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวว่า บริษัทซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในไทยที่ได้รับแต่งตั้งจาก BYD
อัปเดตยอดขายปี 2566 ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 50,000 คัน รวม BYD Atto 3 และ BYD Dolphin ตอนนี้รับรู้ยอดขายอยู่ที่ 20,000 คัน คาดว่าจะมียอดขายทั้งปี เบื้องต้นอยู่ที่ 40,000 คัน
ทั้งมีโอกาสเติบโตไปถึงเป้าสูงสุดได้ไม่ยาก หลังการเปิดตัวรถยนต์ BYD รุ่นใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตภายในปีนี้ (คาดการณ์ว่าเป็น BYD Seal)
ยอดขายตามเซกเมนต์ BYD Dolphin มีการรับรู้ยอดขายรายวันดีกว่า BYD Atto 3 โดยเฉพาะรุ่น Standard Range เนื่องจากเพิ่งเคาะราคาเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. 2023
โดยเป็นไปตามกลไกตลาดของโปรดักต์เปิดตัวใหม่ และอยู่ในกลุ่มราคาต่ำล้าน ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายสุดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แต่บาลานซ์ยอดขายของ 2 เซกเมนต์ก็ยังเดินไปตามแผนงานที่บริษัทวางไว้ และได้นำเข้า BYD Atto 3 มาสต๊อกไว้ทยอยส่งมอบให้ลูกค้าต่อเนื่อง
ด้านกรณีลูกค้า BYD Atto 3 รายหนึ่ง ประสบเหตุการณ์ควันออกมาบริเวณฝากระโปรงหน้ารถ ขณะกำลังชาร์จไฟกระแส DC อยู่ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใน จ. อุดรธานี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2023
ข้อสรุปเบื้องต้น หลังส่งทีมวิศวกรจากบีวายดีและเรเว่ฯ เข้าตรวจสอบสาเหตุในทันที พบความเสียหายบริเวณชุดสายไฟที่เชื่อมต่อไปยังแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดความร้อน ส่งผลไปยังท่อแอร์ได้รับความเสียหายจนทำให้น้ำยาแอร์รั่วออกมา และเกิดควันจากน้ำยาแอร์ที่ผสานกับความร้อนในบริเวณดังกล่าว แต่ไม่เกิดเปลวไฟแต่อย่างใด
ซึ่งบริษัทได้ดูแลลูกค้ารายดังกล่าวด้วยการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ให้ที่ศูนย์ BYD ประจำจังหวัดดังกล่าวเรียบร้อย
โดยเหตุการณ์นี้มีผลกระทบเล็กน้อยต่อยอดขายที่ชะลอตัวลง แต่ส่วนสำคัญจริง ๆ น่าจะมาจากการรอตัดสินใจของผู้บริโภค หลังการเปิดตัวรถยนต์ BYD รุ่นใหม่ของบริษัทภายในปีนี้
ส่วนการดำเนินงานขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทได้ Joint Venture กับบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (Sharge) ด้วยสัดส่วนการเข้าไปถือหุ้น 15%
พีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (Sharge) กล่าวว่า บริษัทจะเดินหน้ารีแบรนด์สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Sharge เป็น Reversharger และตั้งเป้าร่วมกับเรเว่ฯ ขยายสถานีชาร์จทั่วไทยอีก 1,110 จุด แบ่งเป็น DC Sharge 394 จุด และ AC Sharge 716 จุด ภายในปี 2023 ทุกสถานีจะรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ไม่จำกัดเฉพาะ BYD
ส่วนของเรเว่ฯ ประธานพร เสริมว่าบริษัทจะยังมีการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ หลังจากนี้ อย่างโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด, โครงการแสนสิริ และโครงการชาญอิสระ อีกทั้งสถานีบริการน้ำมันบางจาก และสถานีบริการน้ำมันซัสโก้
ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรเว่ฯ กล่าวว่า ปี 2024 บริษัทจะออกกลยุทธ์จูงใจลูกค้าที่ขับรถยนต์ไฟฟ้า BYD อย่างโครงการ Reverlution โดยมอบคาร์บอนเครดิตจากการคำนวณอัตราการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากระยะทางขับขี่ทั้งหมดของลูกค้า
ให้นำไปใช้แลกส่วนลดในการชาร์จรถยนต์ EV กับ Reversharger และยังมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่สามารถนำไปแลกใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งจะเปิดเผยออกมาเร็ว ๆ นี้
เตรียมเริ่มเคลมคาร์บอนเครดิตให้ลูกค้าต้นปี 2024 ก่อนนำยอดรับรู้ดังกล่าวมาตั้งค่าเป็นอัตราแลกเปลี่ยนมาตรฐานที่เป็นธรรมที่สุดแก่ลูกค้า และจะได้ประกาศตัวเลขแลกเปลี่ยนระยะทางขับขี่เป็นคาร์บอนเครดิตที่ชัดเจนในตอนนั้น
พร้อมเดินหน้าเคลมคาร์บอนเครดิตให้ลูกค้า 2 ครั้งต่อปี ปัจจุบันมีฐานลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านแอปฯ Rever แล้ว 30% และเชื่อว่าจะเข้ามาในสัดส่วนใกล้ 100% หลังเริ่มเคลมให้ลูกค้าครั้งแรกในช่วงเวลาข้างต้น
ภาพรวมการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ประธานวงศ์ เสริมว่า การเกิดขึ้นของผู้เล่นใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เชื่อว่าเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดให้เติบโต มากกว่ามาแย่งมาร์เก็ตแชร์กันเอง และช่วยให้อัตราเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่เซกเมนต์รถยนต์สันดาปต่อเนื่อง
ส่วนมาตรการสนับสนุนรถยนต์ EV จากภาครัฐ ซึ่งจะสิ้นสุดปีนี้ บริษัทเชื่อว่าจะมีการออกนโยบายใหม่มาสนับสนุนผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ตามแผนงานผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) แน่นอน
อ่านเพิ่มเติม: ผ่าไทม์ไลน์ BYD รุกตลาดไทย
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ