Life: โลกการทำงาน ณ ปัจจุบันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเฉพาะเรื่องบทบาทของเทคโนโลยี โดยเฉพาะเอไอ ที่เพิ่มขึ้น และความหลากหลายของช่วงวัยที่ต้องทำงานร่วมกันในบริษัท 

ไล่ตั้งแต่คนรุ่นปู่-ย่าไปจนถึงรุ่นหลานเท่านั้น เพราะประเด็นอย่างสุขภาวะและสภาพจิตใจของคนทำงานก็ได้รับการใส่ใจมากขึ้น ทว่าปัญหาโลกการทำงานบางอย่างก็ยังไม่ถูกพูดถึงน้อยเกินไป 

ซึ่งสาเหตุไม่ได้มาจากการถูกละเลย แต่มาจากมันเป็นภัยเงียบ ที่หากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่รู้ว่ามีและกำลังเป็นปัญหาที่อาจถึงขั้นให้พนักงานลาออกไป 

ปัญหาที่ว่านี้คือ Brown out หรือภาวะหมดใจ ซึ่งต่อเนื่องมาจากภาวะเบื่อหน่ายกับงาน โดยหากผู้ที่เป็นไม่ได้แก้ไข และทางหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือบริษัทไม่ตรวจพบเข้า ก็มีแนวโน้มว่าจะทำให้สถานการณ์แย่ลง ๆ จนที่สุดพนักงานคนนั้นหมดไฟและตัดสินใจลาออกไปแบบเงียบ ๆ 

Brown out เป็นศัพท์เทคนิคด้านไฟฟ้า เมื่อสัญญาณบ่งชี้กำลังไฟของอุปกรณ์หรี่ลงกว่าปกติ เตือนว่าหากไม่ได้ชาร์จหรือซ่อมแซมแผงวงจรอุปกรณ์นั้นอาจดับได้ 

และการเชื่อมโยงระหว่าง Brown out กับอีกสองภาวะไม่ได้มาจากการอยู่ตรงกลางของปัญหาเท่านั้น แต่ยังมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษที่ต่างก็เริ่มด้วยตัว B เหมือนกัน 

ซึ่งเมื่อนำมาเรียงกันก็จะได้เป็น Bore out, Brown out และ Burnout อีกด้วย 

 

พิษร้ายภายในสู่โลกหมุนไวไปจนล้า 

ต้นเหตุของภาวะ Brown out แบ่งได้เป็นต้นเหตุจากภายในและภายนอก โดยต้นเหตุจากภายในประกอบไปด้วย

ปัญหาความเป็นพิษ (Toxic) ในองค์กร เช่น การดูถูก เหยียดหยาม เล่นเส้นสายหรือการเมืองในบริษัท 

ต่อด้วยปัจจัยอื่น ๆ เช่น การถูกลืม โอกาสก้าวหน้าในอาชีพน้อยเกินไป และภาระงานหนักเกินไป 

ส่วนต้นเหตุจากภายนอก คือ การแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือด การเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี และสถานการณ์โลก เช่น ปัญหาเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ส่งต่อการทำธุรกิจ 

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า ไม่ว่ารุ่นไหนก็สามารถเป็น Brown out กันได้ทั้งสิ้น  

 

5 สัญญาณอันตราย 

แม้ Brown out เป็นภัยเงียบแต่ก็ยังมีสัญญาณเตือนให้เห็น 5 ข้อ คือ 

ขาดแรงจูงใจ: คนที่ Brown out จะไม่ต่างจากรถที่พลังไฟหรือน้ำมันใกล้หมด จึงไปได้ด้วยแรงเฉื่อย ดังนั้น จึงทำงานไปแบบไม่มีกะจิตกะใจหรือซังกะตาย   

ประสิทธิภาพการทำงานลด: สัญญาณเตือนข้อสองของคนที่ Brown out คือประสิทธิภาพการทำงานลดลงไป ไม่กระตือรือร้นกับงานเหมือนเคย ซึ่งผลงานที่ออกมาก็อาจไม่เป็น No.1 เหมือนก่อน  

ลดการมีส่วนร่วม: สัญญาณเตือนข้อถัดมาของพนักงานที่ Brown out คือ ลดการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทุกอย่างของบริษัท

เช่น ไม่แสดงความเห็นในการประชุม ขอทำงานคนเดียว และลดการสังสรรค์หรือไปเที่ยวพักร้อนกับบริษัท  

ไม่พอใจ: สัญญาณเตือนอีกข้อของพนักงานที่ Brown out คือมักจะแสดงความไม่พอใจออกมาให้เห็น เช่น อาจเถียงในประเด็นทั้งที่คนส่วนใหญ่เห็นชอบ หรือถ้าไม่เถียงก็มีสีหน้าไม่พอใจ 

พ่นพิษ: สัญญาณเตือนสุดท้ายของใครก็ตามที่ Brown out คือ อาจเกรี้ยวกราดกับคนใกล้ตัว โดยถ้าเป็นระดับพนักงาน เพื่อนอาจสังเกตเห็นได้ผ่านการอารมณ์เสียกับเรื่องที่เคยปล่อยผ่านได้ 

ส่วนถ้าเป็นในระดับผู้บริหาร อาจหันมาใส่อารมณ์กับลูกน้องในแผนก ซึ่งหากไม่แก้จะกลายเป็นปัญหา เพราะอาจทำให้บรรยากาศในการทำงานเป็นพิษ 

Brown out สามารถคลี่คลายลงได้ด้วยการให้คำปรึกษา ลดปริมาณงานลงบ้างและจัดการฝึกอบรบเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับพนักงานรุ่นใหญ่

ส่วนพนักงานรุ่นใหม่ก็อาจให้โอกาสได้ออกความคิดเห็นและลงมือปฏิบัติมากขึ้น โดยที่ตั้งเกณฑ์ความผิดพลาดที่สามารถยอมรับได้เอาไว้

เพื่อให้พวกเขากล้าคิดกล้าทำ และลดอาการกลัวความผิดพลาดได้อีกด้วย 

ส่วนบริษัทก็ควรจัดให้มีจิตแพทย์ประจำองค์กรหรือให้จิตแพทย์เข้ามาดูเป็นระยะ ๆ เพื่อให้พนักงานที่มีปัญหาได้ไปพูดหรือระบายกับจิตแพทย์ กันไว้ก่อนที่พวกเขาจะหมดไฟและลาออกไป ♦/intuition  


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer