Work/หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงสำคัญในโลกการทำงานยุคนี้คือ บริษัทส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสมดุลระหว่างการทำงานและเวลาหยุดพักผ่อนของพนักงาน หรือ Work-Life Balance กันมากขึ้น

หลักฐานอย่างเป็นรูปธรรมของเทรนด์นี้คือ แทบทุกบริษัทพากันยืดหยุ่นอนุญาตให้พนักงานทำงานได้จากที่บ้าน (Work from Home) ทำงานจากที่บ้านสลับกับเข้าบริษัทเน้นตามสะดวกเป็นหลัก (Hybrid First)

และลดวันทำงานจาก 5 ลงมาเหลือ 4 วัน หลังมีผลศึกษายืนยันว่าช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานและ Work-Life Balance ดีขึ้น โดยผลที่ตามมาคือพนักงานอยู่ทำงานต่อในระยะยาว

ทว่าตั้งแต่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศหนึ่งในยุโรปกลับประกาศใช้แผนเศรษฐกิจสวนกระแสดังกล่าว

กรีซ เริ่มให้บริษัทในประเทศเลือกได้ว่าสั่งให้พนักงานทำงานเพิ่มเป็น 48 ชั่วโมงหรือ 6 วันต่อสัปดาห์ พร้อมเพิ่มค่าจ้างอีก 40% หรือเพิ่มชั่วโมงทำงานอีก 2 ชั่วโมงสำหรับการทำงานแบบ 5 วัน

นายกรัฐมนตรี Kyriakos Mitsotakis กล่าวว่านี่เป็นนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมือและคนวัยทำงานไม่เพียงพอเพราะประชากรสูงวัยมากแต่อัตราเกิดน้อย

นายกรัฐมนตรี Kyriakos Mitsotakis

พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่ปี 2024 จะโตมากเกินค่าเฉลี่ยของประเทศยุโรป ให้โตต่อเนื่อง โดยแม้รัฐบาลอ้างว่าเป็นนโยบายที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจ น่าจะช่วยให้การคลังของประเทศดีขึ้น

และจะสามารถลดปัญหานายจ้างเอาเปรียบพนักงาน สั่งให้พนักงานทำงานเกินเวลาแต่ไม่จ่ายค่าจ้างเพิ่มได้ถูกจุด แต่ก็เป็นนโยบายที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก

สหภาพแรงงานโจมตีว่า รัฐบาลฉวยโอกาสผ่านกฎหมายขณะที่ประเทศกำลังต้องประหยัดงบประมาณ และประโยชน์ที่ได้จะตกกับเจ้าของธุรกิจมากกว่าพนักงาน

เพราะฝ่ายหลังต้องทำงานหนักกว่าเดิม พร้อมชั่วโมงทำงานนานขึ้นแต่วันหยุดน้อยลง และฝ่ายที่เลือกจะเปลี่ยนไปทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์เป็นนายจ้าง ซึ่งที่สุดจะส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตของพนักงาน

ด้านนักวิชาการชาวกรีกที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้เช่นกัน วิจารณ์ว่า คนวัยทำงานในกรีซจะเจ็บหนักจากนโยบายนี้ เพราะกรีซเป็นประเทศที่ชั่วโมงการทำงานมากเกินค่าเฉลี่ยของยุโรปอยู่แล้ว

แถมค่าแรงยังต่ำแบบบัลแกเรีย แต่ค่าครองชีพสูงพอ ๆ กับอังกฤษ นอกจากนี้ การเพิ่มวันทำงานเป็น 6 วันในกรีซ ยังเป็นข้ออ้างให้เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารบริษัทใจร้ายเอาเปรียบพนักงานได้มากขึ้น

เพราะกรีซเป็นประเทศที่ไม่มีการตรวจตราเรื่องสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ส่วนจากนี้ต้องติดตามกันต่อไปว่านโยบายสวนกระแสของกรีซจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโตได้อีกมากน้อยแค่ไหน หรือจะยิ่งทำให้ปัญหาสมองไหล

ที่คนวัยทำงานและวัยรุ่นย้ายไปทำงานประเทศอื่นในยุโรป เหมือนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2009 รุนแรงยิ่งขึ้น 

สำหรับการเปลี่ยนไปทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ บริษัททั่วเบลเยียมใช้มาตั้งแต่ปี 2022 ส่วนประเทศอื่น ๆ ในยุโรป อย่างเยอรมนีและกลุ่มประเทศในสหราชอาณาจักร รวมไปถึงประเทศเอเชียที่ขึ้นชื่อเรื่องชั่วโมงทำงานยาวนาน อย่างญี่ปุ่น ยังอยู่ในระหว่างทดลองใช้แต่ก็เห็นข้อดี จนมีแนวโน้มว่าต่อไปจะลดวันทำงานเหลือ 4 วันเช่นกัน/ theguardian


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer