Yakiniku Like ทำความรู้จักปิ้งย่างญี่ปุ่น อยู่มา 3 ปี ไม่เคยทำการตลาด แต่ขยายสาขาได้ 15 แห่ง
เศรษฐกิจที่ซบเซาตลอดทั้งปีส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากกำลังซื้อที่หดตัว ผู้คนระมัดระวังการใช้จ่าย จนแม้แต่ตลาดปิ้งย่างที่ดูจะเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมยังแผ่วลงเช่นกัน
ในตลาดปิ้งย่างแสนล้านบาท แบ่งเป็น ปิ้งย่างไทยที่มีทั้งสตรีทฟู้ดและปิ้งย่างขึ้นห้างเป็นกลุ่มที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ตามด้วยปิ้งย่างสไตล์เกาหลี และปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น
“ยากินิกุ ไลค์” ร้านปิ้งย่างสัญชาติญี่ปุ่น ภายใต้การบริหารโดยบริษัทในไทย บริษัท เอ็มเอ็กซ์ แจแปนนิส ฟู้ด คอนเซ็ปต์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่หวั่นเปิดสาขาต่อเนื่อง เชื่อมั่นตลาดไทยยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก
คุณทิพย์สุดา อเนกวัชรากรณ์ Marketing Manager (Thailand Market) บริษัท เอ็มเอ็กซ์ แจแปนนีส ฟู้ด คอนเซ็ปต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดปิ้งย่างในไทยจะมีการแข่งขันที่สูงมาก โดยที่ปิ้งย่างไทยสไตล์จะครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ในอันดับหนึ่ง แต่ยากินิกุในไทยเป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน (ดำเนินการในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และจะขยายสาขาไปยังกัมพูชาและลาวในต้นปีหน้าด้วยเช่นกัน) ทั้งในแง่การขยายสาขาและยอดขาย
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่ง จำนวนสาขา การขยายสาขาต่อปี รวมถึงการรับรู้แบรนด์ของยากินิกุ ยังเป็นรองจากคู่แข่งมาก
ดังนั้น กลยุทธ์ในปีหน้าจึงเป็นการเร่งสร้างการรับรู้ในแบรนด์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผ่านการร่วมมือกับ KOL และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ หลังเห็นการตอบรับที่ดีของลูกค้าจากคอนเทนต์รีวิวช่องเสือร้องไห้ ทำให้บริษัทเห็นโอกาสในการทำการตลาดกับผู้มีอิทธิพลในโลกโซเชียล
ทั้งนี้ การเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นทำให้ได้เปรียบในด้านความไว้วางใจจากลูกค้าไทย สะท้อนจาก 3 ปีที่ผ่านมาที่ยากินิกุมาเปิดตลาดในไทย คนก็ให้การตอบรับดี บอกต่อกันปากต่อปาก จนลูกค้ารู้จักกันในชื่อ “ปิ้งย่างคนโสด” แม้จะไม่เคยทำการตลาดเลย
พร้อมทั้งพัฒนาระบบเมมเบอร์ชิปหวังสร้าง brand loyalty ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เมื่อเปิดระบบได้ไม่นาน แต่ขณะนี้มีฐานสมาชิกแล้วกว่า 1 แสนคน และเป็นสัดส่วน Active members สูงถึง 90%
โดยล่าสุด บริษัทเปิดตัวสาขาลำดับที่ 15 ณ One Bangkok เพื่อรับดีมานด์กลุ่มลูกค้า Young Adult & First Jobber และตื่นตัวกับเทรนด์ ‘การรับประทานฮิโตริ’ ตามที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น หรือการรับประทานอาหารคนเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเมนูปิ้งย่างที่คนมองว่าไม่สามารถรับประทานคนเดียวได้ แต่ร้านออกแบบให้สอดรับกับเทรนด์ มีเซตสำหรับหนึ่งท่าน ให้ลูกค้าสามารถรับประทานคนเดียวได้ และแเพิ่มจำนวนที่นั่ง 30 ที่นั่งสำหรับสาขานี้ที่คาดว่าจะมีแทรฟฟิกมาก
เนื่องจากลูกค้าหลัก คือ กลุ่มอายุ 25-30 ปี แบ่งเป็นผู้ที่มารับประทานคนเดียว 25% มารับประทานเป็นคู่ 50% และมารับประทานเป็นกลุ่ม 25% โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบิลที่ 750 บาท และต่อหัว 350 บาท
ขณะที่แผนการขยายสาขาปี 2568 เดินหน้าเปิดเพิ่ม 3 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งเป้าภายในปี 2571 เปิดครบ 30 สาขาได้ ปัจจุบันสาขาที่มียอดขายสูงสุด Top3 ได้แก่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เมกา บางนา และเซ็นทรัลเวิลด์
คุณทิพย์สุดากล่าวในตอนท้ายว่า ปีนี้เป็นปีที่ยากของธุรกิจปิ้งย่าง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ กำลังซื้อของลูกค้าที่บริษัทมองเห็นว่าลดลงไป 3-10% รวมถึงการที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มสูง วัตถุดิบหลายอย่างนำเข้าจากต่างประเทศ จนต้องปรับราคาไป 30% ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทั้งยังอาศัยการปรับเซตเมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ราคาเป็นมิตรมากขึ้น
สำหรับในปีนี้ Yakiniku Like ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 15% และ 20% ในปีหน้า พร้อมทั้งจำนวนผู้สมัครเมมเบอร์หน้าใหม่เพิ่ม 10%
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /