ซีพี แอ็กซ์ตร้า เติบโตโดยใช้ความต้องการของลูกค้าเป็นเข็มทิศนำทาง (วิเคราะห์)
ถ้าเปรียบเทียบปีที่ผ่านมาเป็น ‘ท้องทะเล’ ก็คงเป็นปีที่เต็มไปด้วยคลื่นลมท่ามกลางความท้าทายจากความผันผวนของเศรษฐกิจ เรือลำใหญ่แห่งวงการค้าส่ง-ค้าปลีกไทยอย่าง ‘ซีพี แอ็กซ์ตร้า’ (CPAXT) ยังคงสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการใช้ความต้องการของลูกค้าเป็นเข็มทิศนำทางในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดในอีกหลากหลายมุมธุรกิจจน Marketeer อยากหยิบมาเล่าในบทความนี้เพื่อให้ทุกคนได้ติดตามไปพร้อมกัน…
เริ่มที่กลยุทธ์ในการเติบโตแรกที่เห็นได้ชัดที่สุด อย่างการ “ขยายสาขาใหม่พร้อมกับปรับโฉมสาขาเดิม” และมีเป้าหมายสำคัญ คือการโฟกัสลงไปในระดับพื้นที่ชุมชน ด้วยรูปแบบของสาขาที่หลากหลายมากขึ้น

ปัจจุบัน “แม็คโคร” และ “โลตัส” ภายใต้การบริหารของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า มีสาขารวมกันกว่า 2,600 สาขา โดยหัวใจสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องจำนวนตัวเลขสาขาเท่านั้น แต่อยู่ที่การออกแบบสาขาให้สอดรับกับความต้องการเฉพาะพื้นที่ยิ่งกว่าเดิม โดยคิดถึงความต้องการของลูกค้าในพื้นที่เป็นอันดับแรกเสมอ สำหรับแม็คโคร จะมีทั้งรูปแบบคลาสสิก ที่เป็นห้างค้าส่งขนาดใหญ่ แม็คโคร ฟู้ดเซอร์วิส จำหน่ายวัตถุดิบอาหาร เจาะกลุ่มลูกค้าโฮเรก้า รวมถึง Fresh@Makro ที่เน้นจำหน่ายอาหารสด เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป

ในขณะที่ โลตัส ก็จะมีทั้งรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เราคุ้ยเคย และสาขาขนาดเล็กอย่าง มินิซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราจะได้เห็นโลตัสที่มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยคอนเซ็ปต์ SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตของทุกคนในชุมชน ยกตัวอย่างที่สาขาแรกอย่าง โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ เจาะกลุ่มครอบครัวและลูกค้ากำลังซื้อสูงที่อยู่ในย่านนี้ มีทั้งโซนร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ครบครัน

ส่วนที่เป็นไฮไลท์ชนิดพลิกวงการค้าปลีกคือสาขาแบบ Hybrid Model โมเดลธุรกิจที่รวมความโดดเด่นระหว่าง แม็คโคร และ โลตัส มอลล์ เข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก เอาจุดเด่นของทั้งสองธุรกิจเข้าด้วยกัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งจากกลุ่ม B2C และ B2B ที่มาใช้บริการได้พร้อมกันในที่เดียวได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
(คลิกอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hybrid Wholesale ‘แม็คโคร-โลตัสมอลล์’ Game Changer วงการค้าส่ง การปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อผู้บริโภค)
“หัวใจสำคัญในการขยายสาขาของทั้ง แม็คโคร และ โลตัส คือการเลือกรูปแบบสาขาให้ฟิตกับชีวิตความเป็นอยู่ ความต้องการของลูกค้าในแต่ละชุมชนที่แตกต่างกัน รวมถึงตั้งใจพัฒนาพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นมากกว่าที่ขายสินค้า แต่ต้องการเป็น ศูนย์กลางชุมชนที่รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทสำหรับทุกวัยนั่นเอง”

กลยุทธ์สำคัญต่อมาคือการเชื่อมต่อช่องทางการขาย Online และ Offline ที่ทำให้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า เป็นผู้นำค้าปลีกและค้าส่งอันดับต้น ๆ ของไทย โดยเฉพาะการขยายช่องทางออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น

- การพัฒนาระบบแอปพลิเคชัน ที่เรียนรู้พฤติกรรมลูกค้า เพื่อให้สามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงความต้องการ เช่น สำหรับลูกค้ากลุ่มคุณแม่ ระบบจะนำเสนอสินค้าประเภทแม่และเด็กให้โดยเฉพาะ
- รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ Lotus’s SMART App และ Makro PRO มียอดดาวน์โหลดรวมมากกว่า 14 ล้านครั้ง มียอดคำสั่งซื้อกว่า 60,000 ออเดอร์ต่อวัน พร้อมสินค้าที่มีให้เลือกมากกว่า 70,000 รายการ
- การจัดส่งสินค้าหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การจัดส่งด่วนภายใน 1-3 ชั่วโมง ภายในวัน หรือ วันถัดไป ซึ่งตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ B2B รวมถึงลูกค้าทั่วไป B2C ได้เป็นอย่างดี

ส่วนอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า วางไว้คือต้องการเป็น “จุดหมายปลายทางด้านอาหารและไลฟ์สไตล์” (The Ultimate Food & Lifestyle Destination for All) ครบจบที่เดียว สะท้อนผ่านการคัดเลือกสินค้าที่นำมาวางขาย รวมถึงแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจ เช่น
- สินค้าตอบโจทย์ท้องถิ่นและชีวิตคนเมือง เช่น สินค้าฮาลาลสำหรับภาคใต้ สามารถคลิกอ่านกลยุทธ์สำคัญในการเปิดสาขาใหม่ โลตัส ยะลา และ แม็คโคร สงขลา หรือ การเลือกสินค้าประเภท Ready-to-Cook (RTC) หรือ Ready-to-Eat (RTE) ที่หลากหลายมากขึ้น สำหรับสาขาที่อยู่ในเขตเมือง เพื่อเจาะลูกค้าคนเมืองที่ต้องการความสะดวกสบาย
- เปิดแคมเปญกระตุ้นยอดขายที่น่าสนใจอย่าง AXTRA Finds “เจอแล้วต้องจัด”
ชี้เป้าสินค้าน่าซื้อ รวมถึงคอลเลกชันพิเศษ ราคาพิเศษ ที่จะมีวางจำหน่ายที่แม็คโครและโลตัส เท่านั้น - อีกทั้งเสริมแกร่งด้วยด้วยสินค้า Own Brand หรือ House Brand อย่างเช่น ARO แบรนด์คุ้มค่า หรือแบรนด์เสื้อผ้า MeStyle
เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพที่คุ้มราคา หรือนำไปต่อยอดธุรกิจสร้างกำไร - รวมถึงการเปิดพื้นที่ศูนย์การค้า ให้เป็นทั้งสนามเด็กเล่นและศูนย์การเรียนรู้ ที่เปิดให้ทั้งผู้คนทุกช่วงวัยมาใช้เวลาด้วยกันได้

และกลยุทธ์สุดท้ายที่ไม่อาจมองข้ามคือเรื่อง “ความยั่งยืน” โดยการมองผ่านเลนส์ที่กว้างขึ้นเพื่อสนับสนุนทั้งชุมชน พาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ รวมถึงการยกระดับชีวิตของผู้คนผ่านการสร้างงาน เพื่อการเติบโตไปพร้อมกัน ผ่านการสร้างแพลตฟอร์มแห่งโอกาสสำหรับทุกคน
- การช่วยเหลือเกษตรกรและ SMEs: อย่างที่เราจะได้เห็นผักหรือผลไม้ที่มีวางขายเฉพาะสาขา มาจากการสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการรับซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงสาขา
- สร้างงานสร้างอาชีพ: อย่างการเน้นเปิดรับพนักงานเพื่อเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้ทำงานใกล้บ้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในการเสริมสร้างอาชีพที่มั่นคงได้แล้วยังสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันครอบครัวได้อีกทาง หรือแม้แต่โครงการเพื่อสังคม อย่าง “60 ยังแจ๋ว” โครงการส่งเสริมการมีงานทำด้วยการฝึกทักษะผู้สูงอายุเพื่อรองรับสังคมสูงวัยในประเทศไทย
ทุกวันนี้ การทำธุรกิจตามหลัก ESG ไม่ใช่แค่แนวทางความยั่งยืนของแต่ละองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย
ในปี 2024 ที่ผ่านมา CP AXTRA ได้รับการประเมินด้

ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์สำคัญของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า สะท้อนภาพความเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีก-ค้าส่งของไทย ที่ไม่ได้วัดกันเพียงแค่ตัวเลขยอดขาย แต่ยังนำเอาความต้องการของลูกค้าเป็น “เข็มทิศนำทาง” ทั้งการขยายและอัปเกรดสาขา การใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพื่อให้ทุกก้าวเดินหน้าและเติบโตแบบยั่งยืน พร้อมรับมือกับทุกความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
(* S&P Global องค์กรระดับโลก ที่จัดทำดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) และนับเป็นอีกก้าวสำคั
#CPAXTRA #Makro #Lotuss #CPAXT #makroxLotuss #ซีพีแอ็กซ์ตร้า
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
