เกาหลีใต้ยังคงเก็บเกี่ยวดอกผลของนโยบาย Soft Power ที่ใช้มาเกือบ 30 ปี ได้อย่างต่อเนื่อง โดยแม้วงการ K-pop เริ่มแผ่วจนต้องปรับแผนไปเน้นระบบมากกว่าตัวศิลปินและไม่จำกัดเฉพาะชาวเกาหลีใต้อีกต่อไป แต่ K-Beauty ทั้งระบบยังคงโตวันโตคืน
สื่อเกาหลีใต้รายงานอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมว่า เมื่อปี 2024 จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางมาเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ มีมากถึง 1.17 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 2023 ซึ่งสองจุดประสงค์หลักของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คือ ดูแลผิวหน้าและศัลยกรรมส่วนใบหน้า

นี่เป็นปัจจัยบวกให้การท่องเที่ยวด้านนี้ของเกาหลีใต้เติบโตอย่างมาก ท่ามกลางการประเมินว่ามูลค่าเมื่อปี 2024 ตลาดดังกล่าวที่อาจเรียกแบบไทยว่า ทัวร์ทำสวย ขึ้นมาอยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 60,000 ล้านบาท) แล้ว
โดยเมื่อถึงปี 2026 อัตราเติบโตจะอยู่ที่ 5.13% และต่อไปในปี 2033 มูลค่าตลาดจะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 95,000 ล้านบาท)
สื่อเกาหลีใต้รายงานต่อว่า กรุงโซลคือที่หมายปลายทางหลักของทัวร์ทำสวย โดยปี 2024 เมืองหลวงของเกาหลีใต้ทำเงินจากธุรกิจนี้ 860 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 27,200 ล้านบาท) ซึ่ง 5 ย่านที่ลูกทัวร์ทำสวยเดินทางไปมากสุด คือ กังนัม ซอโช มาโป จุง และซงปา
ความนิยมดังกล่าวทำให้คลินิกผิวหนังและศัลยกรรมหน้าของเกาหลีใต้ผุดขึ้นราวดอกเห็ด โดยปี 2024 อยู่ที่ 284 แห่ง เพิ่มจาก 193 แห่งเมื่อปี 2023 ซึ่งยังเป็นปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นการส่งออกเครื่องสำอางเกาหลีใต้ จนปีที่แล้วทำเงินเข้าประเทศได้มากถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 316,000 ล้านบาท)
และต่อเนื่องไปถึงการโปรโมตธุรกิจความงามทั้งหมดของเกาหลีใต้ (K-Beauty) จนทำให้เกิดงานแฟร์ Korean Beauty Festival ที่กรุงโซลเมื่อกลางปีที่ผ่านมาอีกด้วย
ความคึกคักของตลาดทัวร์ทำสวยในเกาหลีใต้ ทำให้บรรดาคลินิกต่างๆ ต้องเพิ่มจำนวนผู้ช่วยและทีมประสานชาวต่างชาติ
โดยมีรายงานว่า คลินิกบางแห่งต้องมีพนักงานในส่วนนี้หลาย 10 คน เพื่อช่วยเหลือชาวต่างชาติจากทั้งสหรัฐฯ ยุโรป เอเชียตะวันออก เอเชียกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มาใช้บริการ

จากการเติบโตดังกล่าวทำให้เป็นที่คาดกันว่า ทางรัฐบาลเกาหลีใต้จะส่งเสริมธุรกิจทัวร์ทำสวยให้โตอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปได้ว่า อาจดันศัลยกรรมความงาม โดยเฉพาะศัลยกรรมพลาสติก ขึ้นมาเป็น Soft Power ใหม่ ต่อจากอาหาร สินค้าเทคโนโลยี แฟชั่น K-Pop และ K-Content (รายการบันเทิงต่างๆ เช่น หนัง และซีรีส์)
ทว่าเทรนด์ดังกล่าวก็มีผลกระทบหนึ่งตามมา นั่นคือ นักศึกษาแพทย์เกาหลีใต้มุ่งแต่จะเรียนแพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง เพราะได้เงินมากกว่า และได้งานทำทันทีหลังเรียนจบ จนแพทย์สาขาอื่นๆ ขาดแคลน
ท่ามกลางการทยอยเกษียณของแพทย์อาวุโสที่ทำงานมานาน แต่แพทย์รุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามาทดแทนกลับมีน้อยมาก จนการขาดแคลนแพทย์สาขาอื่นๆ นอกเหนือจากแพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลของเกาหลีใต้ต้องแก้กันต่อไป / koreatimes
